นานไปหน่อย

การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 100 วัน คงต้องบันทึกไว้ว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองที่เนิ่นนานที่สุดครั้งหนึ่ง

เพราะที่ผ่านมาเมืองไทยมีการชุมนุมทางการเมืองใหญ่ๆ รวม 3 ครั้ง คือเดือนตุลา 16, เดือนตุลา 19 และเดือนพฤษภา 35

การชุมนุมทั้ง 3 ครั้งคราวที่ผ่านมา ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มจนจบเพียงไม่นานนัก

พร้อมกับการได้พลังมวลชนแท้ๆ ของคนกรุงเทพฯ ออกมาร่วมเคลื่อนไหว ทำให้รัฐบาลในขณะนั้น ไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้นาน

แต่สำหรับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในครานี้ แม้เบื้องแรกจะได้เสียงสนับสนุนจากหลายฝ่าย รวมทั้งประชาชนในระดับที่มากพอสมควร

แต่ยิ่งการชุมนุมเนิ่นนานขึ้นเท่าใด ดูเหมือนแนวร่วมของพันธมิตรฯ ก็ยิ่งน้อยลงมากเท่านั้น

ประการหนึ่งน่าจะเป็นเพราะบทบาทและวิธีการแสดงออก ซึ่งยากที่จะรับได้สำหรับคนจำนวนมาก

ประการหนึ่ง การยึด"อัตตา"ของตัวเองเป็นที่ตั้ง ใครที่ไม่เห็นด้วยคือคนเลว คนไม่ดี เป็นพวก "ทักษิณ" ไปเสียหมด

แม้แต่นักวิชาการ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ ที่ออกมาแสดงความเห็นอย่างเป็นกลาง ก็โดนตีแสกหน้าไม่เว้นแต่ละวัน

ประการสำคัญที่สุดก็คือเวลาที่ยืดเยื้อยาวนาน ยิ่งทำให้พันธมิตรฯ ถูกมองในแง่ลบจากคนกรุงมากขึ้น!?

เริ่มจากปัญหาการจราจรติดขัด เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้คนเริ่มไม่พอใจ

ใหม่ๆ ก็พอเข้าใจว่ายอมเสียสละเพื่อการเมืองภาคประชาชน แต่เพราะเวลามันนานเกินไป จึงช่วยไม่ได้ที่หลายคนจะเริ่มหงุดหงิดและมองพันธมิตรฯ ในแง่ลบ

แถมพันธมิตรฯ ยังมียุทธการดาวกระจาย ยกขบวนไปในเขตธุรกิจสำคัญๆ ทั้งสีลม ราชดำริ สุขุมวิท ฯลฯ

ปกติเส้นทางเหล่านั้นการจราจรก็แทบจะเป็นจลาจลทุกวันอยู่แล้ว

มาเจอม็อบพันธมิตรเคลื่อนขบวนปิดเส้นทางจราจรบางส่วน จึงยิ่งไปกันใหญ่!!

ระยะหลังม็อบจึงมักจะถูกต่อต้านจากทั้งคนขับรถ และคนที่อยู่ในละแวกที่ม็อบผ่าน

จริงๆ แล้วการเคลื่อนไหวของม็อบเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยง เพราะธรรมชาติของการชุมนุมหากปักหลักอยู่ที่หนึ่งที่ใดนานๆ ม็อบก็จะฝ่อเอาง่ายๆ

แกนนำจึงต้องหาเงื่อนไขเพื่อออกแอ๊กชั่นอยู่เนืองๆ

จากแต่แรกที่ดูเหมือนคนกรุงส่วนใหญ่ยอมทำใจได้ แต่พอบ่อยครั้งเข้าจึงสร้างความเอือมระอา และทำให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างการ์ดกับประชาชนที่ไม่พอใจอยู่บ่อยครั้ง

ยิ่งมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นภาพลบของพันธมิตรฯ ก็จะยิ่งมากขึ้น..

...มากขึ้น...และมากขึ้น!?