สภาทนายฯแถลงประณามทักษิณบิดเบือน จี้ตร.ถอดยศ นายกฯบาฮามาสลั่น อังกฤษไม่มีสิทธิ์ส่งแม้วกลับไทย

นายกฯบาฮามาสป้อง"แม้ว"ลั่นอังกฤษไม่มีสิทธิ์ส่งตัวกลับ ส่วนอธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ ระบุพร้อมล่าตัว "ทักษิณ" เผยรวบรวมเอกสาร ประกอบคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนใกล้เสร็จแล้ว ชี้หากศาลฎีกาไม่รับอุทธรณ์คดีถือว่ายุติ อัยการขออังกฤษส่งตัวทันที พันธมิตรฯ ดาวกระจายล้อมหน้าสถานทูตอังกฤษจี้ส่งตัวกลับ

สภาทนายฯแถลงการณ์ประณาม"แม้ว"- จี้ตร.ถอดยศ

ที่สภาทนายความ ถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ออกแถลงการณ์สภาทนายความ เรื่อง เมื่อผู้ต้องคำพิพากษาของศาลยุติธรรมไทยหลบหนีและออกข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยประณามการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ที่ถูกพิพากษาจำคุก 2 ปี ออกแถลงการณ์ถึงสื่อสารมวลชนทั้งในและต่างประเทศ ที่มีเจตนาลบหลู่ระบอบการศาลยุติธรรมของประเทศ โดยสภาทนายความได้เรียกร้องให้บุคคลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติหน้าที่โดยเฉียบขาดในกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามเวลาที่กำหนดไว้โดยทันที

 

ทั้งนี้ แถลงการณ์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนสัญชาติไทย เป็นจำเลยในคดีอาญา ซึ่งเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีอำนาจพิจารณาคดีโดยชอบ และศาลได้พิเคราะห์ข้อกล่าวหาคำให้การรวมทั้งคำพยานของคู่ความ และได้มีคำพิพากษาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิดตามกฎหมายและให้ลงโทษจำคุก 2 ปี นั้น เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายและวิธีพิจารณาความของศาลยุติธรรมไทย ซึ่งในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีรัฐมนตรีที่ถูกคำพิพากษาของศาลฎีกา ฯ ลงโทษไปแล้วหลายราย นับตั้งแต่มีการใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 และเป็นคำพิพากษาถึงที่สุดโดยไม่ได้มีสิทธิอุทธรณ์เลย โดยในส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ แม้จะตกเป็นผู้ต้องคำพิพากษาของศาลฎีกา ฯ  แต่ยังมีสิทธิที่จะอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้อีกตาม รธน. ฯ ปี 2550 ภายในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ จึงเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันให้สิทธิมากกว่า รธน. ปี 2540 อีก


ดังนั้น การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแถลงการณ์ดังกล่าวต่อสาธารณชนจึงไม่อาจฟังเป็นอย่างอื่นได้  นอกจากเห็นว่าเป็นการกล่าวแก้ของนักการเมืองที่ไม่เคารพกฎหมายของบ้านเมือง ที่ไม่มีน้ำหนักและไม่มีเหตุผลสนับสนุนที่จะรับฟังได้แล้วการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอ้างว่าศาลฎีกา ฯ ลงโทษตัวเองเพราะเหตุที่เป็นนักการเมืองนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ  ต้องทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่เข้ามาเล่นการเมืองเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ว่ากระบวนการพิจารณาคดีระหว่างนักการเมืองได้มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและข้อกำหนดวิธีพิจารณาคดีอาญาของนักการเมืองของศาลฎีกา ฯ กำหนดไว้โดยชัดเจน และเป็นกรณีที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักการเมืองไทยที่มีการคอร์รัปชั่นอยู่อย่างดาษดื่น

 
โดยสภาทนายความ ในฐานะองค์กรวิชาชีพหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม เห็นว่าการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการลบหลู่ไม่ให้เกียรติกระบวนการยุติธรรมไทยโดยเจตนาและทำให้ต่างชาติเข้าใจผิดพลาดในความโปร่งใสและความเป็นธรรมของศาลไทย จึงขอแถลงการณ์ให้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจสั่งการและควบคุมการดำเนินการของกรมประชาสัมพันธ์ต้องดำเนินการให้มีการปฏิบัติหน้าที่ของตนที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2551 ข้อ 25 – 26 , 28 โดยการออกข่าวหรือการอนุญาตให้มีการให้ข่าวของสถานีที่เป็นหน่วยงานของรัฐ ต้องไม่เป็นการเกื้อกูลผู้กระทำความผิดและถูกศาลลงโทษแล้วทั้งทางตรงและทางอ้อม

 
อีกทั้งหากคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงที่สุดแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สตช.) ซึ่งเป็นต้นสังกัดของการให้ยศตำแหน่ง คือ "พันตำรวจโท" ต้องดำเนินการปลดและถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินเพราะเป็นผู้ที่ต้องได้รับคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษจำคุกแล้วโดยทันที ขณะเดียวกันสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก็ต้องเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับกลับคืนโดยเร็ว เพราะว่าการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการหมิ่นต่อกระบวนการของศาลยุติธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ จึงไม่ควรที่จะได้รับให้มียศหรือมีสิทธิในเครื่องราชอิสริยาภรณ์ใดๆ อีกต่อไป
 
นายกฯบาฮามาสป้อง"แม้ว"ลั่นอังกฤษไม่มีสิทธิ์ส่งตัวกลับ

สถานีโทรทัศน์ ZNS Bahamas ของรัฐบาลบาฮามาส รายงานข่าวเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ตามเวลาในประเทศไทย โดยระบุว่า นายฮิวเบิร์ท อเล็กซานเดอร์ อิงแกรห์ม วัย 61 ปี นายกรัฐมนตรีของบาฮามาส ได้สั่งการให้ นายธีโอดอร์ เบรนท์ ซิมโมเน็ทท์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และการเมืองอังกฤษเป็นอย่างดีเตรียมหาช่องทางในการให้ความช่วยเหลือ  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย หากถูกทางการอังกฤษตัดสินให้ส่งตัวกลับประเทศไทย ในฐานะของผู้ร้ายข้ามแดน


ทั้งนี้  รายงานยังระบุโดยอ้างคำกล่าวของ นายอิงแกรห์ม ซึ่งยืนยันว่า รัฐบาลบาฮามาสจะทำทุกวิถีทาง เพื่อปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีสถานะเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของบาฮามาส อย่างถึงที่สุด เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เปรียบเสมือนเป็นชาวบาฮามาสไปแล้ว แม้จะไม่ใช่ชาวบาฮามาส โดยกำเนิดก็ตาม



นาย อิงแกรห์ม  ยังย้ำว่า "ในเมื่อ  ทักษิณ เป็นพลเมืองบาฮามาส เราก็มีหน้าที่ในการปกป้องพลเมืองของเราอย่างถึงที่สุดและทางอังกฤษไม่มีสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น ที่จะส่งตัวบุคคลที่มีสถานะเป็นพลเมืองบาฮามาสของเรา ไปรับโทษในประเทศอื่น "


 
ก่อนหน้านี้ นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ถึงความคืบหน้าจัดเตรียมเอกสารเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี กลับมารับโทษ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ว่า คณะทำงานอัยการได้ทำเอกสาร ประกอบคำร้องในการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังติดเงื่อนไขในข้อกฎหมาย ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 278 วรรคสาม ให้โอกาสจำเลยยื่นอุทธรณ์คดีได้ภายใน 30 วัน ดังนั้นคณะทำงานจึงต้องรอดูว่า เมื่อครบกำหนดการยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ จำเลยจะใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งการยื่นอุทธรณ์จะต้องเป็นข้อเท็จจริงใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
 
"สุดท้ายต้องรอดูว่าศาลฎีกาฯ จะมีคำสั่งรับอุทธรณ์ไว้พิจารณาหรือไม่ หากศาลฎีกาฯไม่รับ เป็นอันว่ากระบวนการอุทธรณ์คดีจบลง คณะทำงานอัยการสามารถยื่นขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ทันที ส่วนเรื่องที่ศาลฎีกาฯจะรับอุทธรณ์ไว้พิจารณาหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่เดายาก ต้องรอติดตามการพิจารณาของศาลฎีกาต่อไป" อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศกล่าว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการยื่นอุทธรณ์คดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามระเบียบที่ประชุมศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การอุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาการเมือง ในกรณีที่มีพยานหลักฐานใหม่ซึ่งอาจทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ พ.ศ.2551 แล้ว ซึ่งออกตามความรัฐธรรมนูญมาตรา 278 วรรคสาม และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 27 มิถถุนายน 2551 ที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษานั้น กำหนดหลักเกณฑ์การยื่นอุทธรณ์ว่า ผู้ที่ต้องคำพิพากษา ต้องแสดงให้เห็นว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยังไม่เคยปรากฏอยู่ในสำนวนคดี โดยผู้ต้องคำพิพากษาไม่เคยรู้ว่ามีพยานหลักฐานดังกล่าวอยู่ ซึ่งพยานหลักฐานใหม่ไม่ได้หมายรวมถึงการกลับคำให้การของพยานในคดี และตามระเบียบ ข้อ 6 กำหนดให้ผู้ต้องคำพิพากษาต้องระบุ

1.รายละเอียดโดยชัดแจ้งเกี่ยวกับพยานหลักฐานใหม่ 2.สาเหตุที่ไม่อาจนำพยานหลักฐานใหม่มาแสดงต่อศาลในชั้นพิจารณา 3.เหตุผลที่ทำให้เชื่อได้ว่าหากรับฟังพยานหลักฐานใหม่เช่นว่านั้นแล้วจะทำให้ข้อเท็จจริงใดเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ 4.คำอุทธรณ์ที่ยื่นต้องลงลายมือชื่อผู้อุทธรณ์ ผู้เรียง ผู้เขียนหรือพิมพ์อุทธรณ์ และถ้าได้ยื่นอุทธรณ์แล้วให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ทราบ เพื่อแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนา
 
ส่วนการพิจารณาอุทธรณ์ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะเลือกผู้พิพากษา 5 คน เป็นองค์คณะทำหน้าที่พิจารณาคำอุทธรณ์ และมีความเห็นสรุปสำนวนเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่า คำร้องอุทธรณ์ของผู้ต้องคำพิพากษานั้นชอบด้วยระเบียบที่ประชุมใหญ่ฯ ที่จะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ซึ่งองค์คณะดังกล่าวจะต้องไม่เป็น หรือเคยเป็นองค์คณะในการพิจารณาพิพากษาคดีที่อุทธรณ์ แล้วเมื่อได้องค์คณะ ให้เลือกผู้พิพากษาคนหนึ่งในองค์คณะนั้นเป็นเจ้าของสำนวน และถ้าที่ประชุมใหญ่ฯ มีมติให้รับอุทธรณ์ไว้พิจารณาแล้ว ให้องค์คณะดังกล่าวทำหน้าที่ไต่สวน รวบรวมข้อเท็จจริง เสนอต่อที่ประชุมใหญ่ฯ เพื่อพิจารณาและวินิจฉัย ล่วงหน้าก่อนวันลงมติไม่น้อยกว่า 15 วัน โดยการมีมติของที่ประชุมใหญ่ฯ ให้ถือว่ามีผลเท่ากับเป็นคำพิพากษาหรือการออกคำสั่ง ขณะที่การไต่สวนองค์คณะอาจเรียกพยานที่ไต่สวนมาแล้วมาไต่สวนใหม่ได้โดยไม่ต้องฝ่ายใดร้องขอ
 
วันเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เรียกร้องให้สถานทูตอังกฤษจี้รัฐบาลให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยนั้น เมื่อเวลา 09.30 น.  ที่หน้าสถานฑูตอังกฤษ ถนนวิทยุ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นำโดย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายอมร อมรรัตนานนท์ นางสาวชโลชา พรอุดมศักดิ์ และนายศรัณยู วงษ์กระจ่าง ขึ้นรถบรรทุกติดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ ติดป้ายผ้าว่า "ตำรวจฆ่าประชาชน" และรถกระจายเสียงกว่า 10 คัน ก่อนการ์ดพันธมิตรจะนำแผงเหล็กมากั้นปิดถนนวิทยุถึงแยกเพลินจิต โดยมีกลุ่มประชาชนซึ่งส่วนใหญ่ใส่เสื้อเหลืองและถือมือตบมาร่วม กว่า 2,000 คน โดยนำมือตบ ผ้าพันคอ เสื้อเกี่ยวกับพันธมิตรฯล้วนๆ มาเปิดแผงชั่วคราวหลายร้าน
  
ต่อมาแกนนำได้อ่านแถลงการณ์หน้าสถานฑูตอังกฤษ เป็นภาษาอังกฤษ เรียกร้องให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชันวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  มาดำเนินคดี โดยบอกว่าที่พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น ไม่ใช่อย่างที่พูด เพราะนายกรัฐมนตรี (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) และคณะรัฐมนตรี ก็ล้วนเป็นคนที่พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกมาทั้งสิ้น อังกฤษเคยเป็นประเทศที่ตามล่าอาณานิคมมาก่อน ที่ไปบุกประเทศอิรัก ไม่ใช่แค่อเมริกาเท่านั้น อังกฤษเองก็มีส่วนรู้เห็น ในอดีตไทยก็เคยสูญเสียดินแดนให้อังกฤษ ครั้งนี้อังกฤษจึงต้องส่ง พ.ต.ท.ทักษิณ มาลงโทษ เพราะถือว่าหากให้อยู่ก็ไม่มีความชอบธรรม และหากไม่ส่งตัวมาจะกลับมาอีกเป็นครั้งที่ 3
 
ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น. ทั้งหมดจึงเคลื่อนไปยังถนนสุขุมวิท มีจุดมุ่งหมายไปที่ห้างดิ เอ็มโพเรียม โดยแจกหนังสือตำรวจฆ่าประชาชน และซีดีตำรวจฆ่าประชาชน แผ่นที่ 2 ซึ่งผู้ที่ร่วมชุมนุมต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จากนั้นเวลา 13.00 น. จึงถึงหน้าห้างเอ็มโพเรี่ยม ใช้เวลาชุมนุมประมาณ 30 นาที จึงเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น เพราะตำรวจ บก.น.5 และตำรวจ สน.ลุมพินี ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่