นพดลฉวยจังหวะเปิดตัวหนังสือผมไม่ได้ขายชาติ ตีแผ่กรณีพระวิหารคุยเป็นคนทำไม่ให้เสียดินแดน

"นพดล" ได้จังหวะเปิดตัวขายพ็อกเก็ตบุ๊คส์ "ผมไม่ได้ขายชาติ" งานความจริงวันนี้สัญจร โต้ข้อหาเซ็นยก "พระวิหาร" ให้กัมพูชา โวเป็นคนทำไม่ให้เสียดินแดน ชม "สมพงษ์" เดินตามแนวถูกทางแล้ว "จาตุรนต์" ร่วมสับแหลก ม.190 เป็นความบกพร่องการบังคับใช้ ทำประเทศเสียโอกาส

วันที่ 31 ตุลาคม เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊คส์ นพดล ปัทมะ "ผมไม่ได้ขายชาติ" ซึ่งเป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกกล่าวว่าขายชาติ กรณีการลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มาร่วมให้กำลังใจ
 
ทั้งนี้ นายนพดลกล่าวว่า หนังสือดังกล่าวเป็นความจริงวันนี้ เรื่องปราสาทพระวิหารว่า ไม่ได้ขายชาติ ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฝ่ายค้าน และนักวิชาการบางคนพยายามกล่าวหา สิ่งที่โจมตีตน เป็นเท็จทั้งหมด เพราะไม่ได้เซ็นยกเขาพระวิหารให้กัมพูชา แต่ตกเป็นเหยื่อการเมือง ที่ต้องการทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาล สมัยเป็นรมว.ต่างประเทศ ได้ปกป้องดินแดนไทย แต่ถูกมองว่า เป็นที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่มีใครฟัง ทั้งที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน ยืนยันว่าประเทศไทยไม่เสียดินแดนเลย จากการลงนามในแถลงการณ์ร่วมที่ประเทศฝรั่งเศส

"ผมยังปกป้องไม่ให้ไทยเสียพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ด้วยการตัดพื้นที่ดังกล่าว ออกจากตัวปราสาทพระวิหารที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอขึ้นทะเบียน อีกทั้งแถลงการณ์ร่วมฯได้ถูกระงับโดยศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงไม่มีผลต่อการขึ้นทะเบียน ในช่วงลงนามในแถลงการณ์ร่วม ทั้งสองประเทศระบุในแถลงการณ์ชัดเจนว่า ไม่ใช่สนธิสัญญาระหว่างประเทศ แต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับตัดสินออกมานอกเหนือจากเป้าประสงค์คู่กรณีทั้งสองฝ่าย"  

นายนพดลกล่าวว่า ปัญหาชายแดนปราสาทพระวิหารนั้น ส่วนตัวเห็นว่า มีทางออกคือ 1.ให้ทั้งสองประเทศต้องพัฒนาพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ร่วมกัน ให้เป็นพื้นที่สัติภาพ สวนสันติภาพร่วม 2.ให้คงกำลังทหารในพื้นที่น้อยที่สุด ในจำนวนที่เพียงพอต่อการรักษาอธิปไตยเท่านั้น 3.เร่งเจรจาปักปันเขตแดนให้เสร็จโดยเร็ว 4.หากรอบร่วมกันเรื่องเขตแดนตามแนวแผนที่

"การเขียนหนังสือเล่มนี้ ไม่ได้หารือกับพ.ต.ท.ทักษิณก่อนเขียน หรือมีโกสไรท์เตอร์เขียนให้ แต่รวบรวมข้อมูลเอกสารต่างๆด้วยตัวเอง และไม่ได้จงใจให้ออกมาในจังหวะเวลานี้ แต่บังเอิญตรงช่วงนี้พอดี เชื่อว่าไม่กระทบต่อกระบวนการเจรจาที่รัฐบาลดำเนินการอยู่  พิมพ์ครั้งแรกทั้งหมด 5,000เล่ม และจะนำไปเปิดตัว นั่งแจกลายเซ็นในในงาน ครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร วันที่ 1 พฤศจิกายนด้วย เรื่องพิพาทชายแดนเขาพระวิหารนั้น ถ้าไม่แก้ปัญหาตามแนวทางที่ผมวางไว้ คือ การเจรจาทวีภาคี ซึ่งตอนนี้เป็นเรื่องดีที่สภาอนุมัติกรอบเจรจา เชื่อว่าทุกอย่างจะเดินต่อได้ ไม่นั้นจะเกิดปัญหา และจะขยายตัวจากทวิภาคี ไปอาเซียน ไปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และสุดท้ายไปที่ศาลโลก และหากไปศาลโลกเมื่อใด ไทยเสียเปรียบแน่นอน เพราะเมื่อปี 2505 ที่เราต้องยอมเสียตัวปราสาทไป ขณะนั้นมีความพยายามถามศาลโลก ต่อเรื่องเขตแดน แต่โชคดีที่ไม่ไปถึงขั้นนั้น ไม่นั้นศาลโลกจะจิ้มเอาตามแผนที่ของฝรั่งเศส ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่ก็เชื่อว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ต่างประเทศจะแก้ปัญหาได้ เพราะเดินแนวทางถูกต้องอันเดียวกับผม และทุกคนก็ได้รู้ว่ากับระเบิดมาตรา 190 ที่ผมเจออยู่ตรงไหนบ้าง" อดีต รมว.ต่างประเทศกล่าว
 
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า เสียดายที่นายนพดลไม่ได้หารือตนก่อน ไม่นั้นจะขอให้เปลี่ยนชื่อจาก "ผมไม่ได้ขายชาติ" เป็น "ผมทำเพื่อชาติ" นายนพดลไม่ได้ทำอะไรผิดในการปฏิบัติหน้าที่รมว.การต่างประทศ เพราะเป็นการปกป้องรักษาประเทศตามหลักวิชาการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายนพดลนั้น มาจากความพยายามนำชาตินิยมแบบคลั่งชาติมาใช้โจมตีรัฐบาล และที่สำคัญคือ นายนพดลเป็นเหยื่อของความบกพร่อมผิดพลาดของมาตรา 190 รวมถึงการบังคับใช้มาตราดังกล่าว และคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ที่ทำให้ฝ่ายบริหารทำงานไม่ได้ ที่ผ่านมาประเทศไทยเสียโอกาสในเวทีโลกไปมาก การตัดสินเรื่องการลงนามในแถลงการณ์ร่วมฯนั้น คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง การใช้คำว่า อาจจะเสียหายต่ออธิปไตยของไทยนั้น เป็นการตีความเกินเลยไปจากลายลักษณ์อักษรที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพ็อกเก็ตบุ๊คส์ เรื่อง นพดล ปัทมะ  "ผมไม่ได้ขายชาติ" เป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกกล่าวหาว่าขายชาติ กรณีการลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก พิมพ์กระดาษอาร์ตมัน สี่สีอย่างดี ความหนา 233 หน้า ภาพปกเป็นภาพนายนพดลใส่สูท ยืนกอดอก มีข้อความสีแดงตัวใหญ่ "ผมไม่ได้ขายชาติ" คาดกลาง คำบรรยายหน้าปก ว่า "ติดตามเส้นทางชิวิต จากเด็กเลี้ยงวัว ถึงรัฐมนตรีบัวแก้ว" เนื้อหาภายในเล่มเป็นการอธิบายข้อมูลความเป็นมา เกี่ยวกับกรณีพิพาทเขาพระวิหาร และชี้แจงการดำเนินการในช่วงที่ตัวเองเป็นรมว.ต่างประเทศ โดยมีภาคผนวกเป็น แผนที่ เอกสารราชการทั้งภาษาไทย-อังกฤษ รวมถึงหนังสือแถลงการณ์ร่วมฯที่เป็นปัญหา ทั้งนี้นายนพดลบอกถึงอนาคตทางการเมืองจากนี้ว่า คงต้องทำงานด้านกฎหมายต่อไป โดยอาจเปิดโรงเรียนสอนกฎหมายให้ฟรีแก่คนทั่วไป เพื่อรอความชัดเจนคดียุบพรรคพลังประชาชน หากไม่ถูกยุบ ก็จะเล่นการเมืองต่อไป หากถูกยุบก็จะเล่นต่อไป แต่จะไปอยู่พรรคที่กำลังตั้งขึ้นใหม่