ตะลุยข่าว-จับตา 72 ชั่วโมงอันตรายก่อน-หลังทักษิณโฟนอิน

นับตั้งแต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาคดีทุจริตที่ดินรัชดาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เค้าลางแห่งความวุ่นวายก็เริ่มก่อตัว

เมื่ออดีตผู้นำพลัดถิ่นยืนยันกับประชาคมโลกว่า เขาถูกตัดสินจำคุกด้วยเหตุผลทางการเมือง กรณีที่ดินรัชดาฯ เป็นเรื่องจริยธรรมทางการเมืองไม่ใช่การกระทำผิดคดีอาญา !?!

ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ทำให้ความขัดแย้งขยายรอยแยกออกไปอีกอย่างสุดจะคาดเดา โดยเฉพาะล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณเตรียมจะโทรศัพท์ข้ามทวีปเข้ารายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถานในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ หน่วยงานด้านการข่าวยิ่งทวีความวิตกกังวลมากขึ้นไปอีก ด้วยเกรงว่าอาจจะมีการพาดพิงไปถึงสถาบัน ทำให้คนไทยเกิดความแตกแยกนำไปสู่การนองเลือด...อีกครั้ง

นายตำรวจระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง วิเคราะห์สถานการณ์ให้ฟังว่า หากมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นตำรวจมีหน้าที่กันไม่ให้สองฝ่ายเผชิญหน้าจนถึงขั้นปะทะกัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ความวุ่นวายได้เริ่มเกิดขึ้นแล้วเมื่อคืนวันที่ 30 ตุลาคม ถือว่าเร็วกว่าที่ได้ประเมินกันเอาไว้

เหตุการณ์ที่นายตำรวจเอ่ยถึง คือ การขว้างระเบิดใส่บ้านพัก "จรัล ภักดีธนากุล" ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 45 แขวงและเขตคลองตัน กทม. ท้องที่ สน.คลองตัน แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ กระจกหลายบานแตก คอมเฟสเซอร์แอร์ได้รับความเสียหาย

เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด บช.น. เข้าตรวจจุดเกิดเหตุและลงความเห็นว่า เป็นระเบิดทีเอ็นทีที่ไม่มีสะเก็ด มีแต่แรงอัดเท่านั้น !?!

ลักษณะการกระทำของคนร้ายรวมถึงวัตถุระเบิดที่ใช้ ตรงกันกับเหตุขว้างระเบิดใส่บ้าน "อักขราทร จุฬารัตน" ประธานศาลปกครองสูงสุด ภายในซอยลาดพร้าว 25 เมื่อกลางดึกวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา  

 ด้วยเหตุนี้เองทำให้หน่วยงานข่าววิเคราะห์ว่าจะเป็นสาเหตุอื่นไปไม่ได้นอกจากประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะเกี่ยวกับคดียุบพรรคที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  

 คล้อยหลังจากระเบิดบ้านตุลาการจรัลก็มีคนร้ายขว้างระเบิดสังหารใส่การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ได้รับบาดเจ็บ 10 คน 6 คนอาการหนักในจำนวนนี้ 1 คนอาการเป็นตายเท่ากัน

ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าหาหลักฐานนอกจากหลุมที่เกิดจากแรงกระแทกของวัตถุระเบิดแล้วยังพบหลักฐานชิ้นสำคัญเป็นกระเดื่องระเบิดสังหารเอ็ม 26 หรือที่รู้จักกันดีว่าลูกเกลี้ยงตกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

 เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของทหาร ให้แง่คิดว่า คนที่ทำต้องการก่อกวนและทำให้เกิดความเชื่อมโยงต่อเนื่องด้านความรุนแรง ขณะนี้ยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเป็นฝีมือของใครหรือกลุ่มใด

 "ที่น่าสนใจคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีความต่อเนื่องนับจากนี้ไป และมีการลอบทำร้ายต่อเนื่องกันไปอีก เพื่อแสดงศักยภาพของแต่ละกลุ่ม ดังนั้น สิ่งที่น่าจับตามองหลังจากนี้คือก่อนและหลัง พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินข้ามทวีปเข้ารายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าจะเกิดเหตุรุนแรงไม่ก่อนก็หลังตามมา"

เวลาไล่เลี่ยกับระเบิดการ์ดพันธมิตร "สังเวียน รุจิโมละ" วัย 46 ปี ก็ถูกยิงเสียชีวิตหลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุสังเวียนอยู่ในอาการมึนเมาและตะโกนว่า "ลุยมันเลย" ก่อนจะตรงเข้าไปหากลุ่มพันธมิตรด้านถนนพิษณุโลก หลังจากนั้นไม่นานก็มีพยานได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดห่างจาก บช.น.ไปไม่ไกลนัก ต่อมาก็มีผู้พบศพสังเวียนหลัง บช.น.พร้อมกับหลักฐานชิ้นสำคัญปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.หลายปลอกตกอยู่ใต้ต้นไม้ห่างออกไป

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นภายในค่ำคืนเดียวเท่านั้น ยังไม่รวมเรื่องที่การ์ดพันธมิตรจับชายถือผ้าชุบน้ำมันเตรียมก่อความวุ่นวายการชุมนุมของพันธมิตร ทำให้นายตำรวจที่เกี่ยวข้องรวมถึงหน่วยงานด้านการข่าวต้องรีบหาข่าวประเมินสถานการณ์นับจากวันนี้เป็นต้นไป จนถึงหลังวันที่ 1 พฤศจิกายนภายหลังอดีตผู้นำพลัดถิ่นโฟนอินจบลง

เย็นวันเดียวกันกับที่เกิดความวุ่นวาย นายตำรวจระดับสูงของ สตช.ที่เกี่ยวข้องกับงานความมั่นคงได้ประชุมหารือกันอย่างเคร่งเครียด ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.ได้สั่งเพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขันตั้งจุดตรวจค้นทั่ว กทม.และเพิ่มความถี่ในการตั้งด่าน ส่วนจุดที่มีการชุมนุมทั้งทำเนียบรัฐบาลหรือท้องสนามหลวงให้ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเพิ่มความถี่ในการตรวจรอบๆ บริเวณอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกำลังควบคุมฝูงชนของ บช.น. กองบังคับการกองปราบปราม ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, 2, 3, 6 และ 7 ให้เตรียมพร้อมอยู่ ณ ที่ตั้งสามารถระดมพลเรียกแถวตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับมือกับเหตุที่ไม่คาดฝันได้ทันที