บทวิเคราะห์:´ทักษิณ´สวมเสื้อเหลือง หมายชิงมวลชน

25 มิถุนายน 2549 20:55 น.
เพราะหากวิเคราะห์นโยบายประชานิยม ย่อมจะรู้ว่ามันขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และนี่คือดุจการสวมเสื้อเหลืองป้องกันภัย และหมายชิงมวลชนที่กำลังเฝ้ามองอยู่

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : *ประชุม ประทีป
------------------

ท่ามกลางความปั่นป่วนสับสนทางการเมือง กดดันต่อพรรคไทยรักไทย กรณีคดีจ้างพรรคเล็กเลือกตั้ง อาจสั่นความความเชื่อมั่นต่อสมาชิกพรรค และเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พปป.) ก็เริ่มฮึ่มๆ จะขย่มในเดือนกรกฎาคมนี้

ขณะที่ ก่อนหน้านี้ สถานการณ์การเมืองตึงเครียดอย่างยิ่ง ตั้งแต่หลังเลือกตั้ง 2 เมษายน เป็นต้นมา เกิดเหตุวางระเบิดที่โน้นที่นี่ในกรุงเทพฯ เป็นระยะๆ แต่ไม่เคยติดตามตัวมือระเบิดมาได้เลย จนกระทั่ง เกิดเหตุระเบิดเสียงระเบิดควัน เกิดที่พรรคไทยรักไทย ช่วงกลางดึกวันที่ 24 มิ.ย.อย่างมีเลศนัย

ซึ่งคอการเมืองฟันธงว่า เสมือนระเบิดเรียกร้องความสนใจ...เรียกร้องความเห็นใจ!

ในมุมมองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมองสวนทางกับความจริงว่า สถานการณ์ปัจจุบันไม่เป็น "สุญญากาศ" โดยอ้างว่าคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญมีความชัดเจนว่า จะต้องมีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน หลังจากที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งแล้ว

"ซึ่งต้องนำร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งกราบบังคมทูลฯ ขึ้นไปหลังวันที่ 15 ส.ค.เป็นต้นไป จากนั้นก็แล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อไหร่ เมื่อทรงโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว วันที่ 15 ต.ค.ก็จะอยู่ในช่วง 60 วัน เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ"

โดยไม่พูดถึง กกต.ชุดนี้ที่เป็นปัญหา และอาจจะเป็นชนวนความขัดแย้งขึ้นมาอีกรอบ หากยังดื้อด้านอยู่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามไม่ตอบโต้ทางการเมือง และกำชับไม่ให้ทีมโฆษกพรรคไทยรักไทยตอบโต้แข็งกร้าวเหมือนก่อนนี้ และย้ำคำตอบต่อสื่อว่า "จะทำงาน 1.ทำงาน 2.ทำตามกติกา 3.กติกาว่าอย่างไรก็ทำตามนั้น ถือว่าทุกคนต้องทำหน้าที่ตามกติกาของสังคม 4.ยึดแนวพระราชดำรัสวันที่ 9 มิถุนายน"

ส่วน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ขอร้องเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พปป.) กรณี พ.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เรียกร้องให้ทหารยืนอยู่ข้างประชาชน สอดรับกับที่จะนัดชุมนุมใหญ่ในเดือนกรกฏาคมนี้ว่า

"ขอให้คำนึงถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 9 มิถุนายน มาไว้ในใจให้มาก เพราะพระเจ้าอยู่หัวฯ ต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันพูดคุยถึงปัญหาอย่างหาทางออกด้วยกัน ไม่ใช่ต้องนำประชาชนมาบีบมากดดันว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนทั้งนั้น"

ดูเหมือนพรรคไทยรักไทยจะถอย แต่หาได้เป็นจริงไม่ การสัปยุทธ์ทางการเมืองยังจะมีต่อไป แต่อาจแสดงออกผ่านด้านอื่นก่อน

จะมองเป็นเรื่องธรรมดาก็ได้ หรือจะมองเป็นเรื่องไม่ธรรมดาก็ได้ เมื่อพรรคไทยรักไทย ได้ปรับตัวอย่างกะทันหัน ไม่เพียงมีข่าวว่า ได้สั่งชะลอนโยบายประชานิยมทั้งหลายไว้ก่อน และหันมาชูแนวทางทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำริ

เพราะหากวิเคราะห์นโยบายประชานิยม ย่อมจะรู้ว่า มันขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และนี่คือดุจการสวมเสื้อเหลืองป้องกันภัย และหมายชิงมวลชนที่กำลังเฝ้ามออยู่

แต่ในทางหนึ่งด้านเคลื่อนไหวมวลชนยังมีคนอย่าง ชินวัฒน์ หาบุญพาด นายกสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ ชูพงศ์ ถี่ถ้วน เลขาธิการศูนย์กลางประชาชนแห่งประเทศไทย และ ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งล้วนมีอาชีพขับแท็กซี่

ต่างมารวมตัวกันในนาม "ชมรมคนรักชาติ" ที่ ประยูร ครองยศ เจ้าของรายการวิทยุ "เมืองไทยรายวัน" คลื่น FM 94.25 MHz ก่อตั้งรองรับอย่างเหมาะเจาะ โดยถือฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อ 25 มิ.ย. ด้วยการจัดเสวนา "เมืองไทยรายวันครั้งที่1" ที่ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ ชั้น4 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ

ยังมีแกนนำคาราวานคนจน ที่ต่างจังหวัด ซึ่งแกนนำไทยรักไทยไปจัดตั้งไว้ ซึ่งประมาทไม่ได้ว่าอาจถูกปลุกได้

คนกลุ่มนี้มีความเห็นเป็นทิศทางเอกภาพ คือสนับสนุน และปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ สนับสนุนพรรคไทยรักไทย และสนับสนุน คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชุดปัจจุบัน อย่างไม่คลอนแคลน

ไม่เพียงยังเดินหน้าสนับสนุนให้ กกต.ชุดนี้จัดการเลือกตั้งต่อไป ยังวิจารณ์ย้อนหลังไปถึงคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง ที่ให้การเลือกตั้งที่ผ่านมา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

"ถ้าหากยังจะไม่ให้มีการเลือกตั้งอีก ผมและคณะพร้อมออกมาชุมนุมอีก เพื่อเรียกร้องให้มีการจัดเลือกตั้งต่อไป" นายชูพงศ์ ระบุ

จำนวนคนร่วม 1,000 คนที่มาสนับสนุนชมรมคนรักชาติ เป็นการแยกแสดงออกจากพรรคไทยรักไทย เสมือนส่งสัญญาณไปถึงองค์กรอิสระที่ตัดสินคดีเลือกตั้ง คดีการเมืองด้วยเป็นนัยๆ