วานนี้ (27 ต.ค.) พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลกัมพูชา เตรียมยื่นฟ้ององค์การยูเนสโกว่า ทหารไทยยิงอาวุธหนักใส่ปราสาทพระวิหารจนได้รับความเสียหาย
จากการตรวจสอบในวันที่มีการปะทะทราบว่าทหารกัมพูชาอยู่ในที่สูงเป็นไปไม่ได้ว่าไทยจะใช้อาวุธหนัก หรือเครื่องยิงลูกระเบิด ทหารไทยใช้เพียงอาวุธปืนเล็กยาวในการตอบโต้กลับไป ขณะที่ฝ่ายทหารกัมพูชาใช้ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังขนาด 105 มม. และเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี เข้ามาตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารของไทยหลายสิบนัด แต่มีอยู่ 2 ลูกที่ไม่ระเบิด มีการเก็บกู้ไว้เป็นหลักฐานหมดแล้ว ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยเพื่อชี้แจงต่อนานาชาติแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ พล.อ. เมี๊ยะ สุเพียะ ผบ.ทบ.กัมพูชา ได้เดินทางมาหารืออย่างไม่เป็นทางการกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ไทยที่บ้านพักรับรองเกษะโกมล
เพื่อหารือถึงปัญหาการวางกำลังทหารในพื้นที่พิพาทและเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างทั้งสองฝ่ายในห้วงเวลาที่ผ่านมา โดยใช้เวลาหารือร่วมกันนานประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ ผบ.ทบ.กัมพูชาจะกลับออกไปโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ถึงสาระที่พูดคุยกับ ผบ.ทบ.ไทยแต่อย่างใด
สำหรับวันนี้ (28 ต.ค.) เวลา 13.30 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ)
เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราวไทย- กัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนบริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งจะมีการกำหนดกรอบการทำงานให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ในการเจรจาแก้ปัญหาพิพาท ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 โดยกำหนดให้นำเรื่องที่กระทบเขตแดนเข้าหารือในรัฐสภา
ผบ.ทบ.เขมรพบอนุพงษ์ ถกเครียดปัญหาชายแดน
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!