พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างบรรยายแก่สมาชิกวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ในโครงการฝึกอบรมและสอบผู้ประกอบวิชาชีพการเป็นผู้ประกาศและจัดรายการ
ที่ห้องประชุมนนทรีย์ สถาบันราชภัฏพิบูลสงครามพิษณุโลก ว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ระบุนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง ทำให้นักการเมืองต่างแย่งแสวงหาอำนาจ แต่ลืมไปว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงมีอำนาจสูงสุด ทรงเป็นพระประมุขของรัฐ ทำให้คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอ้างทุกครั้ง คำว่ามาจากประชาชน ได้รับคะแนนเสียง 20 ล้านเสียง ทั้งที่ตัวเองลืมไปว่าพระราชอำนาจสูงสุดคือพระเจ้าอยู่หัว
"กรณี พ.ต.ท.ทักษิณให้ข่าวว่าทะเลาะกับชนชั้นสูงนั้น บอกได้เลยว่าอำมาตยาธิปไตยไม่มีแล้ว หลายคนเข้าใจผิด พระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงเป็นเอกภาพ ทรงถืออำนาจสูงสุด โดยประชาชนมอบให้ และพระองค์ทรงส่งผ่าน 3 อำนาจ คือ ตุลาการ นิติบัญญัติ และบริหาร ซึ่งเป็นเพียงผู้ใช้อำนาจเท่านั้น ดังนั้น พระเจ้าอยู่หัวคือ ทรงมีอำนาจสูงสุด องค์กรหลัก ที่ต้องแก้ไขคือ สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันทหาร และสุดท้ายคือรัฐบาล แต่บ้านเมืองที่ยุ่งวุ่นวาย รัฐบาลชุดนั้นไม่เคยทำอะไร วันนี้น่าสงสารประเทศไทย รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปีหนึ่งไม่ต้องทำอะไร 6 เดือนแรกขนคนออกจากน้ำ 6 เดือนหลังก็ขนน้ำไปให้คน ไม่เคยคิดวางแผนต่อไปว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แทบเรียกว่าไม่เคยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ทั้งที่ปัญหารู้อยู่ว่าหนี้สินเกษตรกร ปุ๋ยแพง กรณีรับจำนำ ก็เท่ากับเป็นทำลายระบบตลาด ทำอย่างนี้ก็ไม่ต้องมีรัฐมนตรีก็ได้ ปล่อยให้เสมียนทำหน้าที่รับจำนำข้าวดีกว่า ก็ขอฝากให้บรรดาเหล่านักวิทยุโทรทัศน์ปลุกให้คนไทยให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะชุมชุน ควรให้ความรู้มากๆ" พล.อ.ชวลิตกล่าว
พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า 3 องค์กรที่แก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้เวลานี้คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันทหาร และรัฐบาล
แต่วันนี้รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเพื่อประชาชน และถ้ารัฐบาลไม่แก้ ประชาชนจะแก้เอง บอกได้เลยว่าวันนี้รัฐบาลไม่มีเครื่องมือที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เพราะมีความขัดแย้งในตัวเอง แนวทางออก ควรมีรัฐบาลเฉพาะกาล หรือรัฐบาลแห่งชาติ เลิกโควต้ารัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล ขจัดความขัดแย้งให้หมด และวางพื้นฐานประเทศไทยในอนาคตข้างหน้า