-ม็อบตีนตบบุกประท้วงปชป.
เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศด้าน หน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมในนามศูนย์กลางปฏิวัติประชาธิปไตยแห่งชาติ โรงเรียนประชา ธิปไตยสนามหลวง หรือศ.ป.ช.ประมาณ 20 คน สวมเสื้อสีแดงพร้อมตีนตบ นำโดยนายสุขุม วงประ สิทธิ์ เลขาธิการทั่วไปศ.ป.ช. รวมตัวกันเพื่อยื่นหนัง สือและชุมนุมเรียกร้อง โดยออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เป็นมติของกลุ่มให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทำหน้าที่รับฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาล ถือเป็นการละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มุ่งหวังให้องค์ประชุมไม่ครบ และทำลายความชอบธรรมในการแถลงนโยบายของรัฐบาล
นอกจากนี้ในแถลงการณ์ยังระบุว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เข้าร่วมประชุม 4 ฝ่าย เพื่อหาทางแก้วิกฤตของบ้านเมืองด้วยวิถีทางรัฐสภา แต่เสนอให้นายกฯยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะไม่เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง แล้วพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรจะก่อหวอดให้มีการชุมนุมประท้วงต่อไปอีกหรือไม่ ประเทศชาติจะได้ประโยชน์อะไร อย่างไรก็ตาม แกนนำกลุ่มยืนยันว่าจะยื่นเรื่องต่อนายอภิสิทธิ์ และกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะไม่เดินทางกลับและจะปักหลักชุมนุมต่อไป โดยผู้ชุมนุมใช้รถกระบะติดเครื่องขยายเสียงดัดแปลงเป็นเวทีปราศรัยชั่วคราวกล่าวโจมตีการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ตลอดเวลา
-ผบ.ทบ.ชี้ต้องชุมนุมโดยสันติ
วันเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อสายเข้ามาพูดในรายการความจริงวันนี้ ในวันที่ 1 พ.ย. จะสร้างความแตกแยกให้สังคมในชาติหรือไม่ว่า เรื่องนี้ผู้ชุมนุมระบุชัดเจนว่าจะชุมนุมโดยสันติอยู่ในขอบเขต จบตามระยะเวลา ส่วนกอง ทัพจะดูแลไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน นำมาถึงการเสียเลือดเนื้อ ทุกคนต้องคำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก ประเทศชาติเราต้องมาลำดับแรกเรื่องส่วนตัวเอาไว้ทีหลัง หากใครคิดถึงประเทศชาติต้องทำทุกอย่างให้ประเทศชาติอยู่ได้ ไม่ว่าอะไรต้องลืมเรื่องส่วนตัว
เมื่อถามว่านายกฯ ขอให้กองทัพดูแลความสงบอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ คงเป็นการรักษาความเรียบร้อยตามปกติ ตามที่ได้ให้แนวทางกันไว้ คือดูแลอย่าให้มีการกระทบกระทั่งของกลุ่มคน หากตำรวจร้องขอให้ทหารออกไปช่วย เราพร้อมให้การสนับสนุน
-กทม.ยัน 1 พ.ย.รื้อเต็นท์"นปช."
วันเดียวกัน นายบวรพัฒน์ บุญธนทัต รักษาการ ผอ.เขตพระนคร เปิดเผยว่า แกนนำนปช.ได้ประสานมาว่าขอตั้งเต็นท์ไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้ เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เป็นที่ระดมมวลชนก่อนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 1 พ.ย. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ซึ่งทางเขตก็ได้อะลุ้มอล่วยให้ แต่หลังจากวันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป หากยังไม่มีการรื้อถอนเต็นท์ ก็จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อถอนทันที
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม.ไม่มีนโยบายที่จะใช้กำลังเข้ารื้อถอนอยู่แล้ว ดังนั้น เรื่องดังกล่าวจำเป็นที่รัฐบาลซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานพระราชพิธี จะต้องเป็นผู้ประสานความร่วมมือไปยังนปช.ในการให้ความร่วมมือรื้อถอนเต็นท์ออกจากพื้นที่ที่ต้องใช้ในงานพระราชพิธีด้วย เนื่องจากกทม.เคยมีหนังสือแจ้งไปแล้ว และหมายกำหนดการงานพระราชพิธีก็ออกมาชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนจะขอเวลาเพิ่มเติมไปจนถึงสิ้นเดือน ต.ค.นั้น ตนจะให้หน่วยงานของกทม.ประสานไปยังแกนนำอีกครั้ง เพราะมีความจำเป็นต้องปรับปรุงพื้นที่ให้เสร็จก่อนวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งเป็นวันซ้อมใหญ่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรู้จักและเชื่อมโยงกับเครือข่ายและแกนนำ นปช.เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งตนคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
-กก.สิทธิฯจี้นายกฯชี้แจงด่วน
นายสุรสีห์ โกศลนาวิน ประธานคณะอนุกรรม การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. นำเสนอรายงานผลการตรวจสอบต่อที่ประชุมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติชุดใหญ่ จากนั้นนายสุรสีห์ให้สัมภาษณ์ว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้รายงานการตรวจสอบเบื้องต้นต่อที่ประชุมคณะกรรมการสิทธิฯ ซึ่งที่ประชุมให้คณะอนุกรรมการฯ ขอข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะหนังสือตอบกลับจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ และรมว.กลาโหม ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ได้เชิญนายกฯ มาชี้แจงตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เกิดเหตุการณ์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงการใช้ความรุนแรง แต่นายกฯ แจ้งว่าจะขอชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร ขณะนี้ยังไม่ได้หนังสือตอบกลับแต่อย่างใด
"คณะอนุกรรมการฯ ได้ข้อมูลทางนิติเวชและนิติวิทยาศาสตร์ในสถานที่เกิดเหตุของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และถ้อยคำพยานกว่า 50 ปาก ส่วนใหญ่เป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ แพทย์และผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหวจากผู้สื่อข่าวและแหล่งต่างๆ เช่น ข้อมูลระเบิด ปืนกี่ชนิด จากนี้จะเชิญเจ้าหน้าที่รัฐหลายส่วน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งระดับปฏิบัติ และระดับบัญชาการมาให้ข้อมูล รวมทั้งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดมาอธิบายการใช้ระเบิดที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ด้วย จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสิทธิฯ ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาเห็นชอบและเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้" นายสุรสีห์กล่าว
-เยียวยาให้ศพละ 1-5 แสนบาท
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา อธิบดีกรมพัฒนาสัง คมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวถึงความคืบหน้าข้อสรุปหลักเกณฑ์การจ่ายเงินชดเชยให้ผู้เสียหายและญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 7 ต.ค.ว่า จากข้อสรุปคณะกรรมการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ 7 ต.ค. และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องที่มีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ รับผิดชอบการจ่ายเงินชดเชย โดยจะจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ย่านสะพานขาว เพื่อทำหน้าที่รับเรื่องการแสดงตนผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้จะเสนอครม.ในวันอังคารที่ 28 ต.ค.นี้ เพื่ออนุมัติหลักเกณฑ์ทั้งหมด
"ผู้เสียหายจากเหตุการณ์สามารถนำหลักฐานสำ เนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมใบรับรองแพทย์มาลงทะเบียนที่กรมพัฒนาสังคมฯ โดยจะมีนักสังคมสง เคราะห์ เจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิตตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงที่บ้านผู้เสียหาย เพื่อดูแลจ่ายเงินชดเชยความเสียหายให้ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับจากวันที่ครม.มีมติอนุมัติ" นางพนิตากล่าว
อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวต่อว่า จากรายงานเบื้องต้นจากศูนย์เอราวัณ และศูนย์นเรนทร มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์กว่า 600 ราย ในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตมี 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือในหลักเกณฑ์ใกล้เคียงกันกับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 100,000-500,000 บาท ส่วนเงินชดเชยผู้บาดเจ็บจะมีการพิจารณาเป็นรายกรณี โดยคณะอนุกรรม การเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ 7 ต.ค. จะเป็นผู้พิจารณาหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ การจ่ายค่าชดเชย ซึ่งจะมีการนัดประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค.นี้
-แจกเหรียญ"กู้วิกฤตชาติ"
วันเดียวกัน บริเวณสนามหญ้าหน้าที่ตั้ง บช.น. กลุ่มพลังกู้วิกฤตชาติ นำเหรียญ "กู้วิกฤตชาติ" ที่เปิดให้ประชาชนนำบัตรประชาชนมารับคูปองไว้ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา มารับเหรียญดังกล่าวในวันนี้ มีประชาชนทยอยเดินทางมารับจำนวนพอสมควร ทางบช.น.บอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพียงแค่ให้ใช้สถานที่เท่านั้นเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากเหรียญกู้วิกฤตชาติแล้วยังได้แจกซีดีบันทึกเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เวอร์ชั่น "พันธมิตร ฆ่าประชาชน" พร้อมกับเหรียญดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการตั้งเต็นท์เตรียมไว้รองรับผู้มารับแจกเหรียญดังกล่าวด้วย
-81 นักรบศรีวิชัยรายงานตัว
ก่อนหน้านี้ เวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดา ภิเษก นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนจากสภาทนายความ นำผู้ต้องหากลุ่มนักรบศรีวิชัย การ์ดของพันธมิตรจำนวน 81 คน เป็นชาย 77 คน เป็นหญิง 4 คน ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหา บุกรุกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อเช้ามืดวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีอาวุธ และข้อหาอื่น รวม 6 ข้อหา เข้ารายงานตัวต่อศาลเป็นครั้งที่ 2 ตามข้อกำหนดของศาลที่อนุญาตให้ประกัน และไม่ให้ผู้ต้องหาทั้งหมด กลับไปก่อเหตุในลักษณะที่ก่อให้เกิดความรุนแรงอีก
ภายหลังรายงานตัวเรียบร้อยแล้ว ศาลนัดให้นักรบศรีวิชัยทั้ง 81 คน มารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 6 พ.ย.นี้ โดยนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ กล่าวว่า ผู้ต้องหาอีก 1 คนยังรอยื่นประกันอยู่เป็นชาย ซึ่งเตรียมจะยื่นประกันตัวในวันที่ 28 ต.ค.นี้ โดยจะใช้หลักทรัพย์เงินสด 2 แสนบาท
-นปช.ฟุ้งแจกจตุคามฯวันรวมพล
วันเดียวกัน ที่ร้านสภากาแฟ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว แกนนำนปช. และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย อาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายอดิศร เพียงเกษ แถลงความคืบหน้าการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจรในวันที่ 1 พ.ย. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ทั้งหมดสวมเสื้อแดงขณะแถลงข่าว
นายวีระ กล่าวว่า จุดประสงค์การจัดงานเพื่อให้การเมืองเปลี่ยนแปลงไปตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่การรัฐประหาร อยากให้การรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 เป็นครั้งสุดท้ายในไทย การชุมนุมครั้งนี้จะยึดหลักประชาธิปไตย ชุมนุมโดยสงบสันติ ขอเชิญชวนผู้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยมาร่วมงานในเวลา 15.00-22.00 น. จะตรวจค้นอาวุธเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ร่วมงานทุกคน จึงไม่ต้องกังวลว่าการชุมนุมจะสร้างความปั่นป่วนปะทะกัน ทั้งนี้ จะเชิญนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ร่วมงานด้วย แต่นายสมัครยังไม่ตอบรับ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มพราหมณ์เชื้อสายเก่าแก่จาก จ.นครศรีธรรมราช ติดต่อขอเข้าร่วมงานด้วย โดยจะขอพื้นที่บางส่วนทำปริยัติอ่านพระเวทพร้อมแจกท้าวจตุคามรามเทพ ใครรับไปให้เงินหรือรับฟรีก็ได้ เงินที่ได้จะไปร่วมทุนเกี่ยวกับประชาธิปไตย
-ยันโฟนอินเสียง"ทักษิณ"แน่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกลุ่มเสวนาสานสันติธรรมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการสร้างเงื่อนไขเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง นายวีระกล่าวว่า เคารพกลุ่มสานเสวนาสันติธรรม เห็นด้วยที่คนในสังคมต้องการให้เกิดสันติ แต่ตนรับไม่ได้กับการถูกวิจารณ์ว่ากลุ่มนปช.เป็นฝ่ายที่มีปัญหา เราอยู่ในส่วนของผู้ที่เคารพกฎหมาย ขณะที่อีกฝ่ายไม่เคารพกฎหมาย มีข้อหาต่างๆ รุงรังไปหมด
เมื่อถามว่าพันธมิตรฯ ระบุการโฟนอินของพ.ต.ท. ทักษิณอาจทำให้เกิดความแตกแยก นายวีระกล่าวว่า คนพวกนั้นไปตรัสรู้ พูดเองเออเองว่าหากพ.ต.ท. ทักษิณโฟนอินมาจะทำให้เกิดความแตกแยก และคนที่พูดก็มาจากพวกชุมนุมในทำเนียบ ตนเชื่อว่าพ.ต.ท. ทักษิณ มีวุฒิภาวะและพูดเพื่อให้เกิดความสงบสุขมากกว่าพูดเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนรุนแรงในบ้านเมือง
-"อ๋อย"ยืนยันต้านรัฐประหาร
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ส่วนตัวจะไปร่วมงานแน่นอน ยกเว้นเกิดรัฐประหารก่อนวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งวัตถุประสงค์ที่ตนตอบรับมาร่วมงานนั้นคือต้องการต่อต้านการรัฐประหารอย่างสงบและสันติ ยืนยันว่าจะไม่มีเคลื่อนไหวไปกดดันใคร และไม่ได้ต้องการให้เกิดการรัฐประหาร ถึงแม้จะมีข่าวออกมาตลอดว่าการชุมนุมครั้งนี้ของกลุ่มนปช.จะทำให้เกิดการเผชิญหน้า แตกหักกับพันธมิตรฯ ก็ตาม เพราะเนื้อหาในงานจะพูดถึงการรัฐประหาร เนื่องจากที่ผ่านมาการข่าวของฝ่ายการเมืองและฝ่ายความมั่นคงมีการตรวจสอบข้อมูลการเคลื่อนไหวของกองทัพที่อาจไปสู่การรัฐประหารจึงทำให้สังคมมองข้ามไม่ได้ เพราะขณะนี้ยังมีความพยายามจะสร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง
นายจาตุรนต์ กล่าวถึงเครือข่ายสันติประชาธรรมและเครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรมว่า ตนรู้สึกเสียดายที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้หารือร่วมกันก่อนจะเรียกร้องให้ยุติความขัดแย้ง เพราะเครือข่ายอาจารย์ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง พร้อมทั้งระบุให้หยุดปกป้องพันธมิตรฯ ไม่ทำผิดกฎหมาย ขณะที่เนื้อหาของกลุ่มสานเสวนามีเนื้อหาที่ปกป้องพันธมิตรฯ ที่น่าตกใจมากคือกรณีหากเกิดความรุนแรงขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดๆ และไม่ได้ชี้ให้เห็นถึงภัยการรัฐประหาร รวมทั้งการทำผิดกฎหมายของพันธ มิตรฯ ทำให้เห็นว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ กับกลุ่มที่ชุมนุมเพื่อรักษาประชาธิปไตยต่างมีเหตุผลที่ถูกต้องทั้งสองฝ่าย ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้อง
-ไม่ถ่ายทอดทาง"เอ็นบีที"
ด้านนายจักรภพ กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากสถานเอกอัครราชทูตหลายประเทศ รวมทั้งสื่อ มวลชนต่างประเทศ ขอเข้าสังเกตการณ์ในงานวันดังกล่าวด้วย เพราะปัจจุบันต่างชาติให้ความสนใจสถาน การณ์ภายในเมืองไทยมาก และในงานวันที่ 1 พ.ย.เราไม่มีเจตนาใดๆ ให้เป็นวันที่ไม่เป็นมงคล เราต้องการให้เป็นวันดี ไม่อยากให้คนไทยอึดอัดจนไม่มีทางออก ฉะนั้น ภายในงานจึงวางระบบความปลอด ภัยพร้อมทุกอย่าง เพื่อไม่ให้วันนั้นเป็นวันไม่ดี และวางเนื้อหาที่จะพูดเพื่อสร้างความหลากหลาย เพื่อให้ความรู้กับประชาชนอย่างถูกต้อง
ขณะที่นายจตุพร กล่าวว่า ขอยืนยัน 100 เปอร์ เซ็นต์ พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินจากประเทศอังกฤษมาบนเวทีอย่างแน่นอน โดยเป็น 1 ใน 9 คนที่ปราศรัยบนเวที แต่จะไม่มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ส่วนการรักษาความปลอดภัยภายในงาน ตนได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1,000 นาย มาดูแลความสงบเรียบร้อย รวมทั้งนักศึกษาจากมหา วิทยาลัยรามคำแหงอีก 500 คน มาดูแลความเรียบ ร้อย ยืนยันว่านายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคพลังประชาชน และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนคนเพื่อมาร่วมชุมนุมอย่างที่นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนรักอุดร ระบุ แต่ประชาชนที่มาร่วมงานล้วนแต่เป็นผู้ที่ต้องการปกป้องประชาธิปไตยด้วยกันทั้งนั้น
-ม็อบมือตบปราณบุรีฮือไล่รมต.
เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า มีกำหนด การนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะจะเดินทางไปที่ปากน้ำปราณบุรี จ.ประจวบคิรีขันธ์ เพื่อประชุมหารือแนวทางการพัฒนาโครงการและสำรวจพื้นที่ ROYAL COAST ในพื้นที่บริเวณปากน้ำปราณบุรี พร้อมรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารโอเอ๊กซ์ซีฟู๊ต โดยมีคณะข้าราชการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ หน่วยงานของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่เทศบาล และอบต.ปากน้ำปราณบุรี รอให้การต้อนรับ
หลังจากข่าวได้แพร่ออกไป ได้มีบรรดากลุ่มพันธมิตรฯ ในพื้นที่ปราณบุรี และหัวหิน ทยอยเดินทางไปชุมนุม พร้อมกับใช้มือตบเป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านรัฐบาลและรัฐมนตรี ซึ่งทำให้นายวีระศักดิ์ที่เดินทางมาโดยเฮลิคอปเตอร์ ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่แทน และไม่เข้ามาร่วมประชุมตามกำหนดการ ซึ่งได้เปลี่ยนสถานที่ไปลงที่กองบิน 5 ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเข้าดูพื้นที่อ่าวมะนาว และโครงการท่าเทียบเรือคลองวาฬ เพื่อพัฒนาด้านการท่องเที่ยวต่อไป
-ส.ว.บี้ห้าม"แม้ว"ออกเอ็นบีที
วันเดียวกัน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า กลุ่ม 40 ส.ว.จะทำหนังสือถึงนายกฯ และอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เพื่อให้สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีและวิทยุในกำกับดูแลของรัฐระงับการเผยแพร่เทปของรายการความจริงวันนี้ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะโทรศัพท์เข้ามาพูดคุย เพราะสื่อของรัฐต้องวางตัวเป็นกลางไม่สนับสนุนให้เกิดความแตกแยกของสังคม สื่อของรัฐไม่ควรกระทำการในลักษณะหมิ่นประมาท โดยเฉพาะล่าสุดคำแถลงของพ.ต.ท.ทักษิณที่พาดพิงหรือหมิ่นเหม่บุคคลชั้นสูง แม้พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นพลเมืองไทยแต่มีคดีที่ศาลสั่งจำคุก ดังนั้น รัฐบาลไม่ควรสนับสนุนการกระทำดังกล่าว
-แฉคนแห่ยกเลิกเบอร์ทีโอที
วันเดียวกัน จากกรณีที่มีม็อบพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นพนักงานบางส่วนของทีโอทีใช้มือตบฮือขับไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคนใช้ขวดน้ำและรองเท้าปาใส่นายกฯ สมชายนั้น นายพงศ์ธิติ พงษ์ศิริลา ประธานสหภาพ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ว่า ในวันนี้สหภาพไม่มีการสั่งการให้เคลื่อนไหวใดๆ เพื่อต่อต้าน นายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ตามกระแสข่าวว่าจะมีการเรียกระดมพนักงานให้มาประท้วงขับไล่นายมั่น เพื่อหวังให้เกิดความวุ่นวายเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของทีโอที ทั้งนี้ สหภาพของทีโอที ถูกแอบอ้างชื่อจากกลุ่มที่เสียผลประโยชน์จากกรณีที่สหภาพ ร้องต่อปปช. และสตง.ให้ตรวจสอบการจ่ายเงินกว่า 1,500 ล้านบาท ให้แก่บริษัทสามารถไอ-โมบาย ส่วนเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ทีโอที แม้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่การขว้างปาขวดน้ำและรองเท้า ซึ่งคาดว่าเป็นการกระทำของคนนอก แต่เกิดขึ้นในรั้วของทีโอที สหภาพขอแสดงความเสียใจต่อการกระทำดังกล่าว
มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่ม็อบทีโอทีฮือขับไล่นายกฯ สมชายที่อาคารทีโอที ส่งผลให้ทีโอทีได้รับการต่อต้านจากประชาชนบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย รวมทั้งมีการยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์นับหมื่นหมายเลขในเวลาเพียงไม่กี่วัน
-บิ๊กทีโอทีโต้-ยันเป็นกลาง
นายวรุธ สุวกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ยินเขาพูดกันตั้งแต่วันแรกที่นายกฯ โดนโห่ไล่จากการมาตรวจราชการที่ไอซีที ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทีโอทีไปชี้แจงกับแกนนำกลุ่มเสื้อแดง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีว่าทีโอทีมีความเป็นกลาง ส่วนการแสดงความคิดเห็นของบุคคลหรือพนักงาน ถือเป็นความคิดเห็นทางการเมือง เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ได้ตักเตือนไปแล้วว่าการกระทำบางอย่างต้องอยู่ในกรอบ กฎเกณฑ์ ที่เหมาะสม อย่าใช้สถานที่หรือภาพของการเป็นพนักงานทีโอทีมากระทำการใดๆ ซึ่งแกนนำกลุ่มเสื้อแดงก็เข้าใจเป็นอย่างดี
"ยืนยันว่าตอนนี้ไม่มีใครยกเลิกการใช้บริการโทรศัพท์ของทีโอที และขอความเห็นใจด้วยว่าถ้ามีการยกเลิก รายได้จากการบริการก็จะออกไปให้ต่างชาติหมด จึงอยากให้มองในแง่ของคุณภาพการบริการดีกว่า ถ้าเราให้บริการดี เงินรายได้ก็กลับสู่รัฐบาลหรือแผ่นดิน ที่สำคัญทีโอทีมีความเป็นกลาง เราให้บริการด้านโทรคมนาคมกับบุคคลทั่วไปไม่ว่าใครก็แล้วแต่ เราดูแลผู้ใช้บริการทุกคน พนักงานส่วนใหญ่ก็มีความตั้งใจในการทำงานเป็นอย่างดี และถ้ามีใครไปทำอะไรที่ไม่เหมาะสมอีก ก็จะทำให้องค์กรถอยหลังเข้าคลอง แต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาใดๆ อีก" นายวรุธกล่าว
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ในฐานะกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงข่าวที่กลุ่มนปช.จะยกเลิกการใช้โทรศัทพ์ของทีโอที ว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งในวันที่ 4 พ.ย. จะมีการประชุมคณะกรรมการทีโอทีเหมือนเดิม ยังไม่ได้รับเรื่องว่าจะต้องเลื่อนประชุมคณะกรรมการให้เร็วขึ้นเพื่อหารือเรื่องดังกล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
