ทหารรื้อรั้วม็อบ! ซ้อมสวนสนาม

ทหารรื้อรั้ว แผงเหล็กกั้นถนนราชดำเนิน เปิดทางซ้อมพิธีสวนสนามเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาฯ "จำลอง" ยันต้องหารือกันก่อน จะเคลื่อนม็อบบุกสภาฯ วันอังคารนี้หรือไม่ ระบุช่วงนี้หยุดยุทธการดาวกระจายไปตามสถานที่ต่างๆ เนื่องจากฝนตก ปชป.ชี้ไม่เหมาะหาก"แม้ว"จะโฟนอินข้ามทวีปมาในวันที่ 1 พ.ย.

-ทหารเปิด"ราชดำเนิน"-ซ้อมสวนสนาม

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ช่วงเช้าการชุมนุมทั้งด้านในและด้านนอกทำเนียบรัฐบาลบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา มีผู้ชุมนุมบางตา เนื่องจากสภาพอากาศมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยพิธีกรบนเวทียังผลัดเปลี่ยนกันปราศรัย เน้นการโจมตีบทบาทของพล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะนำกำลังมวลชนเข้ามายึดทำเนียบคืนจากกลุ่มพันธมิตรฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนที่บริเวณสี่แยกพระบรมรูปทรงม้าและสี่แยกสวนมิสกวัน ถนนพิษณุโลกตัดกับถนนราชดำเนิน มีทหารจากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ประมาณ 30 นายเข้ามารื้อแผงเหล็กกั้น รั้วลวดหนาม และกระสอบทรายที่กลุ่มพันธมิตรฯนำมาปิดกั้นเพื่อเป็นจุดสกัดบริเวณทางเข้า-ออกของสถานที่ชุมนุมภายในทำเนียบ เพื่อเปิดเส้นทางการจราจรตลอดถนนราชดำเนิน ส่วนถนนพิษณุโลกจะเปิดผิวการจราจรตั้งแต่สี่แยกวังแดงมาจนถึงด้านหน้าอาคารสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อให้ทหารรักษาพระองค์ซ้อมพิธีสวนสนาม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยในช่วงสายเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครจะเข้ามาทำความสะอาด ในส่วนของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯให้ความร่วมมือในการเปิดผิวการจราจรครั้งนี้ โดยช่วยกันรื้อย้ายเต็นท์เพิงพัก ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าต่างรื้อย้ายแผงค้าขึ้นมาบนฟุตปาธ

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ แถลงข่าวกรณีทหารประสานเปิดเส้นทางถนนพิษณุโลกเพื่อซ้อมสวนสนามว่า ทางทหารประสานมายังกลุ่มพันธมิตรฯขอเปิดเส้นทางถนนพิษณุโลกบริเวณหน้าป.ป.ช. ไปจนถึงบริเวณแยกสวนมิสกวัน เพื่อซ้อมสวมสนามเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยช่วงเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา ทางทหารเข้ามาช่วยผู้ชุมนุมพันธมิตรฯรื้อโต๊ะและเต็นท์ออกนอกพื้นที่ ภายหลังการซ้อมสวนสนามเสร็จแล้วจะมีการย้ายสิ่งของเข้ามาปักหลักชุมนุมตามเดิม ทั้งนี้จะมีการซักซ้อมสวนสนามเช่นนี้ทุกวันอาทิตย์

-ฝนตก-ม็อบหยุดดาวกระจาย

ผู้สื่อข่าวถึงกรณีจะมีการประชุมสภาในวาระข้อพิพาทไทย-กัมพูชา และการจัดตั้งส.ส.ร.3 ในวันที่ 27-28 ต.ค. กลุ่มพันธมิตรฯจะเคลื่อนการชุมนุมไปกดดันหรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่าเรื่องนี้ทางแกนนำต้องประชุมหารือกันก่อน ที่ผ่านมาเราติดตามสถานการณ์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นอน

เมื่อถามว่ากลัวจะซ้ำรอยเหตุสลายการชุมนุมวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาหรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่าการที่กลุ่มพันธมิตรฯจะเคลื่อนไหวต้องคิดให้รอบด้านและหลายเรื่อง ที่ผ่านมาเรามีหน้าที่สร้างประโยชน์ให้เกิดต่อประเทศชาติและบ้านเมือง ทั้งนี้ไม่อยากให้ทุกฝ่ายวิตกกังวลในเรื่องนี้ไปก่อน บางครั้งหากกังวลมากไปก็อาจทำให้เกิดความหวาดกลัวตามมา

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทางกลุ่มแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) อ้างว่าการที่กลุ่มพันธมิตรฯปิดล้อมรัฐสภาเป็นการกระทำที่เหนือกฎหมาย พล.ต.จำลองกล่าวว่าใครก็กล่าวหาเราได้ แต่ขอยืนยันว่ากลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ที่ผ่านมาการชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา กลุ่มพันธมิตรฯไม่ใช่กลุ่มแรกที่เข้าไปปักหลักชุมนุมเรียกร้อง เคยมีหลายกลุ่มที่เข้าไปปักหลักชุมนุม แต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯในแต่ละครั้งต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน

เมื่อถามว่าในสัปดาห์หน้ากลุ่มพันธมิตรฯจะใช้ยุทธวิธีดาวกระจายหรือไม่ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯกล่าวว่า ที่ประชุมแกนนำยังไม่มีการนำเรื่องนี้มาพูดคุย อีกทั้งขณะนี้มีฝนตกลงมา หากมีการเคลื่อนไหวอาจไม่ค่อยสะดวกและการเดินทางลำบากขึ้น

พล.ต.จำลองกล่าวถึงกรณีโหรออกมาทำนายว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก่อนวันที่ 1 พ.ย.นี้ว่า ตนจะรับฟังในคำทำนายของโหร แต่คงไม่นำคำทำนายมาเป็นข้อมูลในการประกอบตัดสินใจ เนื่องจากคำทำนายไม่ถูกต้องไปหมดทุกเรื่อง ทางกลุ่มพันธมิตรฯไม่สามารถสั่งการให้รัฐบาลและตำรวจทำอย่างหนึ่งอย่างใดได้

-ทหารซ้อมพิธีสวนสนาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น. ทหารจากกองพันทหารรักษาพระองค์เริ่มทยอยเดินทางเข้ามายังแยกวังแดง ถนนพิษณุโลก เพื่อตั้งขบวนซ้อมสวนสนามเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวา โดยมีสารวัตรทหารยืนกันพื้นที่ตามจุดต่างๆ อาทิ แยกวังแดง แยกสวนมิสกวัน และลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อกันไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ โดยขณะที่ทหารเคลื่อนขบวนเข้ามายังถนนพิษณุโลก กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯบริเวณโดยรอบทำเนียบชมการซ้อมพิธีสวนสนาม พร้อมจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของทหารภายใต้สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน

สำหรับการซ้อมพิธีสวนสนามซึ่งกระทำเป็นประจำทุกปี โดยทหารจะปิดถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา และถนนพิษณุโลก ในช่วงเวลา 13.00-16.00 น. ของวันอาทิตย์ทุกสัปดาห์ ตั้งแต่ปลายเดือนต.ค.จนถึงวันที่ 2 ธ.ค. เพื่อซ้อมเดินแปรขบวน ตามปกติทหารจะขอให้พื้นที่ภายในทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการใช้เป็นสถานที่ตั้งแถวเดินซ้อมสวนสนาม แต่ในปีนี้มีการปิดพื้นที่ชุมนุมทางการเมือง ทำให้ทหารต้องร่นพื้นที่ออกมาตั้งแถวอยู่บริเวณถนนพิษณุโลกแทน

เมื่อเวลา 15.30 น. นายวีระ สมความคิด แนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า ตนอ่านคำแถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุกพ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีที่ดินรัชดาฯ เป็นเวลา 2 ปี โดยมีการกล่าวพาดพิง และวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งน่าจะเป็นการหมิ่นอำนาจศาล ที่ผ่านมาผู้พิพากษายังไม่ดำเนินการอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นตนจะให้เวลากับองค์คณะผู้พิพากษาคดีที่ดินรัชดาฯ ถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้ หากยังไม่แจ้งข้อหาละเมิดอำนาจศาลแก่พ.ต.ท.ทักษิณ ตนจะแจ้งความดำเนินคดีกับองค์คณะผู้พิพากษาฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่

-"สุริยะใส"แฉมีขบวนการให้เกิดปฏิวัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทหารซ้อมเดินสวนสนามเสร็จสิ้น ทางกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เริ่มทยอยนำเต็นท์และโต๊ะที่เคลื่อนย้ายออกในช่วงเช้ากลับมาตั้งตามเดิม อีกทั้งยังนำแผงรั้วเหล็กและลวดหนามมาวางไว้บริเวณถนนราชดำเนินนอกฝั่งกองทัพภาคที่ 1 และฝั่งสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้าก่อกวนและสร้างความวุ่นวาย นอกจากนี้พ่อค้าและแม่ค้ายังเริ่มนำร้านค้าและสิ่งของกลับมาตั้งวางขายตามเดิม

ต่อมาเวลา 19.10 น. ที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำตัดสินจำคุกพ.ต.ท. ทักษิณ ในคดีที่ดินรัชดาฯ เป็นเวลา 2 ปีว่า ภายหลังศาลมีคำตัดสินได้เกิดขบวนการโจมตีสถาบันในหลายจุด ในอดีตขบวนดังกล่าวไม่มีความเข้มข้นเท่านี้ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าภายหลังมีคำตัดสินขบวนการดังกล่าวจึงเกิดขึ้น โดยมีทีท่าว่าจะรุนแรงและโจ่งแจ้ง ซึ่งคิดว่าเป็นการจงใจที่จะสร้างเงื่อนไขในการทำรัฐประหาร จึงอยากถามไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังว่ามีเจตนาอะไร ทั้งนี้หากมีการทำรัฐประหาร ผู้ที่จะได้ผลประโยชน์มากที่สุดคือพ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากจะสามารถลี้ภัยทางการเมืองและกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยจะถูกมองว่าถูกแทรกแซง ซึ่งผลที่ตามมาจะเกิดวิกฤตทางการเมืองยิ่งกว่าช่วงการทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพยายามสกัดกั้นและไม่ให้ขบวนการดังกล่าวเหิมเกริม ที่ผ่านมาตนทราบว่ามีการนำซีดีและใบปลิวไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีเนื้อหาว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่เป็นที่โปรดปรานของชนชั้นสูง จึงต้องถูกขับไล่ไปต่างประเทศ เพื่อเรียกร้องและขอความเห็นใจจากประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้าสกัดกั้นโดยด่วน

เมื่อถามว่า หากมีการทำรัฐประหารจะไม่เกิดผลดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ นายสุริยะใส กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร เนื่องจากภายหลังการรัฐประหารก็ยังมีการคอร์รัปชั่นและเกิดปัญหาในด้านต่างๆ ตามมา ทั้งนี้กลุ่มพันธมิตรฯ เห็นด้วยกับการทำประชาภิวัฒน์หรือการปฏิวัติภาคประชาชนมากกว่า เนื่องจากเป็นการสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมืองขึ้น

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางกลุ่มพันธมิตรฯ กำลังจับตาการใช้อำนาจของรัฐบาล ซึ่งอาจมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราต่างๆ ทั้งนี้หากมีการเปิดประชุมสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจริง ทางแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะประชุมหารือกำหนดแนวทางเคลื่อนไหวทันที ทั้งนี้ตนอยากเรียกร้องไปยังกลุ่มส.ว.กลุ่มหนึ่ง ถ้าต้องการให้ประเทศเกิดความสมานฉันท์ ก็ขอให้ช่วยกันขัดขวางการตั้งส.ส.ร.3 และร่วมกันกดดันรัฐบาล

-แกนนำพธม.ถกวันนี้บุกสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 28 ต.ค.นี้ ทางสภาอาจมีการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับคปพร.เข้าที่ประชุมนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ในวันที่ 27 ต.ค. ทางแกนนำจะมีการประชุมและหารือในเรื่องนี้ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะมีการนำวาระดังกล่าวเข้าประชุมหรือไม่ แต่ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่วางใจ หากพบว่ามีการนำวาระดังกล่าวเข้าที่ประชุม กลุ่มพันธมิตรฯ อาจต้องออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน

เมื่อถามว่า พันธมิตรฯ ไม่เกรงว่าจะซ้ำรอยเหตุความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายสุริยะใส กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางตำรวจและผู้ใช้ความรุนแรงปราบปรามต้องนำข้อมูลมาสรุปและประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่า ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯ มีเจตนาบริสุทธิ์ที่ออกมาเคลื่อนไหว และไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย ทั้งนี้ตนยังทราบมาว่าขณะนี้มีความพยายามที่จะสร้างกิจกรรมรองรับทางการเมือง โดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ มีการตั้งกลุ่มมวลชนที่ใช้ตีนตบเพื่ออารักขาหากเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ อีกทั้งยังมีการส่งมวลชนไปปักหลักก่อนที่จะเดินทางไปด้วย

นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.สล้าง จะนำกำลังมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลนั้นว่า ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่แน่ใจว่าพล.ต.อ.สล้างจะล้มเลิกการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ โดยในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้ อาจมีการส่งบุคคลไม่หวังดีเข้ามาก่อกวน ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรฯ ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามจุดสำคัญต่างๆ ทั่วพื้นที่กทม.แล้ว เพื่อหาข้อมูลในการเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายวีระปราศรัยบนเวทีว่า จะแจ้งความดำเนินคดีกับศาล ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณออกมาหมิ่นศาลนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายวีระที่สามารถทำได้ ซึ่งตนก็เห็นด้วย เนื่อง จากหลังจากพ.ต.ท.ทักษิณออกแถลงการณ์ในลักษณะที่หมิ่นศาล พบว่ายังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาป้องปราม

-"ณัฐวุฒิ"ยัน"แม้ว"มีสิทธิ์โฟนอิน

วันเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเรียกร้องความรับผิดชอบหากจะมีการเปิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯโฟนอินมาในงานความจริงวันนี้สัญจรในวันที่ 1 พ.ย.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานเพราะอาจทำให้เกิดสงครามชนชั้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนไทยคนหนึ่ง มีสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะแสดงความคิดเห็นความคิดอ่านเกี่ยวกับความเป็นไปของบ้านเมือง แน่นอนว่าถ้าการแสดงออกของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือการนำข้อความที่พ.ต.ท.ทักษิณแสดงออกไปนำเสนอ แล้วไปกระทบผู้หนึ่งผู้ใดหรือขัดต่อกฎหมาย คนที่จะต้องรับผิดชอบเบื้องแรกคือกลุ่มผู้จัดรายการความจริงวันนี้ กรอบกฎหมายมีอยู่ว่าจะต้องรับผิดชอบกันอย่างไร ต้องดำเนินคดีกันอย่างไร แต่เชื่อว่ากลุ่มผู้จัดรายการมีความละเอียดรอบคอบและพร้อมที่จะรับความรับผิดชอบในสิ่งที่จะเกิดขึ้นอยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้สังคม โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตั้งสติหน่อย อย่าแสดงอาการวิตกกังวลจนเกินเหตุ เพราะการจัดงานความจริงวันนี้เป็นการจัดการชุมนุมของแฟนรายการผู้ต้องการปกป้องประชาธิปไตย และไม่เห็นด้วยกับอำนาจนอกระบบทุกกรณี เป็นการจัดชุมนุมที่มีรั้วรอบขอบชิด มีเวลาเริ่มและเลิกชัดเจน และประกาศยืนยันว่าจะไม่ชุมนุมยืดเยื้อหรือเคลื่อนขบวนไปไหน

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ว่าไปแล้วการจัดงานที่สนามราชมังคลาฯแทบไม่แตกต่างอะไรกับการจัดคอนเสิร์ตของวงดนตรีดังหลายวงที่ไปจัด เพียงแต่เนื้อหาสาระรูปแบบกิจกรรมเท่านั้นที่อาจแตกต่างกัน คงไม่น่าวิตกกังวลอะไรจนเกินไป อีกทั้งทำเนียบรัฐบาลไม่ใช่สถานที่ที่แฟนรายการความจริงวันนี้จะบุกเข้าไปยึด เพราะทำเนียบเป็นที่ที่กลุ่มพันธมิตรฯที่อ้างว่าสู้เพื่อประชาธิปไตยยึดมาหลายเดือนแล้ว มันน่าแปลกใจที่รายการความจริงวันนี้ที่จัดงาน มีรั้วรอบขอบชิด มีเวลาชัดเจน แต่กลับมีบางคนออกมาแสดงความกังวลเหลือเกิน ขณะที่มีบางกลุ่มยึดทำเนียบอยู่ 2-3 เดือน แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยออกมาแสดงความกังวล หรือเรียกร้องให้แกนนำพันธมิตรฯรับผิดชอบ หรือเรียกร้องให้พันธมิตรฯออกจากทำเนียบ แต่กลับไม่สบายใจที่มีสุจริตชนมาชุมนุมที่สนามกีฬา ที่จัดงานถูกกฎหมาย

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์มักหยิบเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองไม่สบายใจมาพยายามยัดเยียดให้เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ถ้าเกิดความผิดพลาดจากข้อความที่ผ่านพูดมาเผยแพร่ ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบคือกลุ่มผู้จัดรายการ แต่ถ้าจะถามหาความรับผิดชอบกันขนาดนั้น คิดว่าสังคมก็จะถามหาความรับผิดชอบของพรรคประชาธิปัตย์เช่นกันว่าพันธมิตรฯที่ไปยึดทำเนียบ ไปยิงไปแทงตำรวจ และทำผิดกฎหมายอยู่ทุกวี่ทุกวัน พรรคประชาธิปัตย์จะรับผิดชอบอย่างไร เพราะส.ส.ของตัวเองรวมถึงอดีตผู้สมัครก็อยู่ในนั้น ดังนั้นมองไม่ออกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะปฏิเสธความรับผิดชอบจากเวทีพันธมิตรฯอย่างไร

-จวก"อภิสิทธิ์"ปกป้องพันธมิตรฯ

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับพล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอ.ตร.มีสิทธิที่จะแสดงความเห็น แต่ความเคลื่อนไหวต่างๆ ตนเชื่อว่าในฐานะที่พล.ต.อ.สล้างเป็นผู้ใหญ่ มีประสบการณ์ และเป็นผู้ที่รักษากฎหมายมาโดยตลอดย่อมมีวิจารณญาณในการทำสิ่งต่างๆว่าจะไม่ส่งผลเสียต่อประเทศ ส่วนกรณีพ.ต.ท.ทักษิณนั้นถือเป็นคนไทยคนหนึ่ง มีสิทธิขั้นพื้นฐาน การแสดงความเห็น เพียงแต่ประเด็นที่พูดนั้นขัดต่อหลักกฎหมายหรือกระทบกับองค์กรใดๆหรือไม่ จุดนี้กระบวนการยุติธรรมจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนที่พ.ต.ท. ทักษิณจะโฟนอินเข้ามาในรายการความจริงวันนี้หรือไม่นั้นอยู่ที่กลุ่มผู้จัดที่จะต้องรับผิดชอบเอง หากเกิดผลกระทบขึ้น แต่เชื่อว่าคงคิดกันอย่างดีและรอบคอบแล้ว

"วันนี้ทุกคนในสังคมควรคำนึงถึงกฎหมายของบ้านเมือง ซึ่งฝ่ายพันธมิตรฯเองไม่เคยคิดที่จะเคารพหรือปฏิบัติตาม มีแต่เอากฎหมายไปอ้าง กล่าวหาฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ แต่ตัวเองกลับฝ่าฝืนตลอด 24 ช.ม. สังคมก็มองเห็น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ผมอยากเรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคควรมองภาพรวมด้วยใจเป็นธรรม ไม่ใช่ดีแต่เรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบทุกๆเรื่อง ผมยืนยันได้ว่ารัฐบาลไม่เคยปฏิเสธที่จะทำตามกฎหมาย และสร้างความสมานฉันท์ในสังคม แต่พรรคประชาธิปัตย์เองกลับไม่เคยเรียกร้องฝ่ายพันธมิตรฯให้ทำตามกฎหมาย หรือรับผิดชอบต่อกรณีที่ใช้อาวุธทำร้ายตำรวจ ทั้งๆที่มีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำอยู่ วันนี้ผมจึงอยากท้าทายให้นายอภิสิทธิ์กล้าพูดว่าพันธมิตรฯทำผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้ยุติบ้าง ที่ผ่านมาทั้งนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์กลับไม่เคยมีท่าทีอะไรออกมาเลย ไม่รู้ว่ากลัวอะไร" นายณัฐวุฒิ กล่าว

-ปชป.ชี้ไม่สมควร"แม้ว"โฟนอิน1พ.ย.

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงรายการความจริงวันนี้ว่า เป็นรายการที่จัดขึ้นโดยกลุ่มนปช.และเชื่อว่าในวันที่ 1 พ.ย.นี้คงจะมีคนมามากจริงๆ เพราะรายการนี้โหมโรงและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของรัฐ คือเอ็นบีที เรียกร้องให้ประชาชนมาชุมนุมกัน ตนคิดว่าผู้อำนวยการสร้างหรือสปอนเซอร์ตัวจริงจะมีโอกาสโฟนอินมาจากลอนดอนซึ่งอาจจะมีการทุ่มทุนไม่อั้นเพื่อให้รายการในวันที่ 1 พ.ย.นี้ยิ่งใหญ่สมดังโฆษณาจริงๆ เชื่อว่ารายการความจริงวันนี้คงจะไม่มีการถ่ายทอดสดในวันที่ 1 พ.ย. เพราะเป็นวันหยุดของรายการ แต่รายการนี้จะใช้ช่องทางอื่นมาถ่ายทอดต่อรายการความจริงวันนี้ในช่องเอ็นบีที เหมือนกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่เมืองทองธานี ที่รายการเชิญนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต 111 กรรมการบริหารพรรคมาเป็นวิทยากร คาดว่ารายการในวันที่ 1 พ.ย.นี้ต้องมีการติดต่อให้พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินมาจากลอนดอนเพื่อเข้ามาขอความเห็นใจจากประชาชน ตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากการเอาบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์เพราะเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยมาพูดถึงประชาธิปไตย เอาคนที่เป็นนักโทษหนีคดีมาเรียกร้องขอความยุติธรรม ขอเรียนว่าพรรคมีความห่วงใย เพราะเกรงว่าถ้ามีการสร้างเงื่อนไขทางการเมืองกันแบบนี้ อาจก่อให้เกิดความรุนแรงและเข้าสู่วิกฤต

นายเทพไท กล่าวอีกว่า ตนคิดว่ากระบวนการทั้งนปช. แนวร่วม และกระบวนการแถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ กระบวนการการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการตั้งส.ส.ร.3 นั้น จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองไปสู่ทางตัน ไม่มีทางออก บ้านเมืองจะต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤตอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นความต้องการของคนเหล่านี้ที่จะทำให้บ้านเมืองไปสู่ทางตันให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะถ้าเกิดวิกฤตบ้านเมืองถึงขั้นปฏิวัติรัฐประหาร จะเกิดผลดีต่อพวกเขา โดยจะสามารถช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ในเรื่องคดีความ และช่วยเรื่องการขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษได้ นอกจากนี้ยังเป็นการหาทางลงให้กับรัฐบาลชุดนี้ เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่ยอมยุบสภา ไม่ยอมลาออก แต่เชื่อว่าหากมีการปฏิวัติรัฐประหารแล้ว น่าจะเป็นเกียรติกับรัฐบาลชุดนี้มากกว่า อีกทั้งจะเป็นการหาคะแนนเสียง รวมทั้งเป็นการระดม มวลชนเพื่อต่อต้านการรัฐประหาร ดังที่ได้โฆษณาในรายการความจริงวันนี้ทุกคนว่า เมื่อมีแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เมื่อไหร่ พบกันที่ท้องสนามหลวง ซึ่งเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นการเคลื่อนไหวที่มีนัยทางการเมืองทั้งสิ้น

ด้านนายไพฑูรย์ แก้วทอง ที่ปรึกษาพรรคปชป. และเป็นส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคปชป. กล่าวว่า ปัญหาความวุ่นวายถ้ารัฐบาลมีการปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณพูดสายตรงมาออกรายการความจริงวันนี้ ในวันที่ 1 พ.ย.เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และฐานะของพ.ต.ท.ทักษิณนั้นเป็นนักโทษ ไม่ใช่เป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง นอกจากนี้รัฐบาลควรจะเร่งรัดกฎหมายให้มีการดำเนินการกับพ.ต.ท.ทักษิณให้เร็วขึ้นในฐานะที่เป็นนักโทษ โดยเฉพาะที่ไปให้ข่าวในทางที่ไม่ดีกับประเทศไทย ทำให้คนทั่วโลกมองว่าประเทศไทยต่ำต้อย สถาบันศาลยุติธรรมเชื่อไม่ได้

นายไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่แย่ลงไปกว่านั้นรัฐบาลปล่อยให้บุคคลที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะเข้าไปสลายการชุมนุมพันธมิตรที่อยู่ในทำเนียบ การสลายการชุมนุมเป็นหน้าที่ของรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่เท่านั้น ถ้าให้บุคคลข้างนอกเข้ามาสลายการชุมนุมเท่ากับรัฐบาลยุให้เขาเข้ามาตีกัน เพราะฉะนั้นรัฐบาลควรที่จะต้องเร่งออกมาแก้ไข

-พิจิตรส่งตร.เข้ากรุงรับมือม็อบ

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจ.พิจิตร พล.ต.ต.เชาวลิต ชาญเวช ผบก. ภ.จว.พิจิตร เป็นประธานปล่อยแถวกำลังพลข้าราชการตำรวจ 168 นายไปปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนกำลังควบคุมฝูงชนที่กรุงเทพฯ กรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลและสะพานมัฆวานฯ ซึ่งมีภารกิจปฏิบัติหน้าที่รวม 5 วัน ระหว่าง 26-30 ต.ค. โดยพล.ต.ต.เชาวลิตกล่าวให้กำลังใจกำลังพลทุกนายให้ปฏิบัติหน้าที่ต้องมีความอดทน อดกลั้น ห้ามตอบโต้และห้ามใช้ความรุนแรงในการปฏิบัติหน้าที่

สำหรับพิธีการส่งกำลังพลดังกล่าว ตำรวจ ภูธรจังหวัดพิจิตรจัดให้พระครูวิมล สัทธาธิคุณ หรือพระอาจารย์หมู แห่งวัดดงป่าคำมาประพรมน้ำพุทธมนต์และแจกวัตถุมงคลเป็นตะกรุดลูกปืนพระอาจารย์หมู รวมทั้งแจกผ้ายันต์ของหลวงปู่จันทรา วัดป่าเขาน้อย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่กำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้