แม้วสั่งทัพเสื้อแดงยึดทำเนียบฯ ซ้อมใหญ่25ต.ค.งานจริง1พ.ย.

"สล้าง" สุมหัวเด็กแม้ว เลื่อนล้อมทำเนียบไป 27 ต.ค. ทหารยันพร้อมคุมสถานการณ์ ด้าน "แม้ว-อ้อ-โอ๊ค" นุ่งขาวทำบุญวัดไทยในลอนดอน กก.เยียวยากำหนดวงเงินชดเชย 1-5 แสนให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุ 7 ต.ค. "นิคม" เปิดศึกประธานวุฒิฯ โวยถูกหยามเกียรติ

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชนเปิดเผยว่าความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังศาลฎีกาฯ พิพากษาในคดีที่ดินรัชดาฯ ให้จำคุก 2 ปี โดย พ.ต.ท.ทักษิณออกแถลงการณ์ชี้แจงผ่านสื่อต่างประเทศและเตรียมโทรศัพท์สายตรงจากประเทศอังกฤษ มาในรายการ "ความจริงวันนี้" ทางช่องเอ็นบีที ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนั้น ล่าสุดเริ่มมีความเคลื่อนไหวในส่วนของแกนนำพรรคพลังประชาชนที่มีความใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งได้รับสัญญาณจาก พ.ต.ท.ทักษิณให้เคลื่อนไหวในเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมมวลชนเข้ามาชุมนุมใน กทม.เพื่อแสดงพลัง ทั้งในส่วนของการจัดชุมนุมต่อต้านการรัฐประหาร ที่กลุ่ม นปช.จัดเวทีในวันที่ 25 ตุลาคม ที่ท้องสนามหลวง และที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ 

รายงานข่าวเปิดเผยว่าในส่วนของ ส.ส.พรรคพลังประชาชน มีการเตรียมนำประชาชนมาจากหลายพื้นที่ทุกภาค เช่น ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง กทม. โดยเริ่มทยอยเข้ามาชุมนุมรวมพลกันที่ท้องสนามหลวง เพื่อผนึกกำลังกับกลุ่มประชาชนที่สนับสนุนแนวคิดของ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล (เสธ.แดง) เนื่องจากกลุ่มของ พล.ต.อ.สล้าง มีแนวโน้มเตรียมเคลื่อนพลังประชาชนเข้าไปบุกยึดทำเนียบรัฐบาลคืน  

เชื่อแม้มีปฏิวัติยังส่งผลดีต่อ"แม้ว"

ในส่วนของส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวการชุมนุมกับ พล.ต.อ.สล้าง โดยจะมีการขนประชาชนมาสมทบและสนับสนุนด้านการเงิน อย่างไรก็ตาม แกนนำพรรคพลังประชาชนประเมินว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวแม้จะประกาศเป็นการต่อต้านรัฐประหาร แต่หากมีการยึดอำนาจทำรัฐประหารจริง เมื่อประเมินผลได้ผลเสียแล้วจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการขอลี้ภัย และผลทางคดีจากรัฐธรรมนูญ 2550 ก็จะเป็นโมฆะไปด้วย แต่จากการวิเคราะห์เบื้องต้น ทหารและกองทัพยังไม่กล้าออกมาทำรัฐประหาร เพราะรู้ว่าจะส่งผลเสียต่อประเทศ ซ้ำเติมสถานการณ์ของบ้านเมือง อีกทั้งจะเป็นการเข้าทาง พ.ต.ท.ทักษิณที่วางหมากเอาไว้ 

แก๊งเนวินแฉเหลิมหนุนสล้าง-เสธ.แดง

แหล่งข่าวจากกลุ่มเพื่อนเนวินเปิดเผยว่าการเคลื่อนไหวในด้านยุทธศาสตร์การเมืองและมวลชนที่ผ่านมา แม้นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะหัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน จะไม่ได้เป็นแกนนำในการดูแลด้านยุทธศาสตร์และกำลังเงินเหมือนทุกครั้ง แต่เข้ามาดูแลร่วมต่อสู้ด้วยการระดมมวลชน 

ขณะที่การเคลื่อนไหวในยุทธศาสตร์เชิงรุกนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการและดูแลปัจจัยสนับสนุนโดยตรงทั้งหมด 

ขณะเดียวกันร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข ก็มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนทั้งในเรื่องปัจจัยการดำเนินการและเป็นที่ปรึกษาให้ พล.ต.อ.สล้าง และ พล.ต.ขัตติยะ อีกทั้งน่าจะเป็นการแสดงน้ำใจต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะในระหว่างดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ไม่ได้เข้ามามีส่วนต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามเท่าที่ควร นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังเป็นผู้ประสานระหว่าง พล.ต.อ.สล้าง และ พล.ต.ขัตติยะ กับนางเยาวภา เพื่อรับปัจจัยสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย 

พปช.ขู่ร่วมทีม"สล้าง-เสธ.แดง "

นายประชาประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการรวมตัวของ นปช.เพื่อชุมนุมต่อต่านรัฐประหารที่ท้องสนามหลวง วันที่ 25 ตุลาคมนี้ว่า ทราบว่าจะมีประชาชนจากหลายพื้นที่เข้าไปร่วมชุมนุม รวมทั้ง จ.สมุทรปราการ และปริมณฑล จะเข้าไปแสดงพลังและรับรู้ข้อมูลข่าวสารเพื่อต่อต้านเผด็จการ อีกทั้งจะมี ส.ส.พรรคพลังประชาชน เข้าไปสังเกตการณ์ คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมหมื่นกว่าคน เพื่อเป็นการซ้อมก่อนจะถึงการจัดงานวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เชื่อว่าถึงเวลานั้นคนจะไปเป็นเรือนแสน

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่กลุ่มประชาชนที่มาชุมนุมจะเข้าไปร่วมกับกลุ่มของพล.ต.อ.สล้าง เพื่อบุกยึดทำเนียบรัฐบาลคืนเพราะเป็นช่วงเดียวกัน นายประชากล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่ม นปช.จะไปรวมพลังกับกลุ่มของ พล.ต.อ.สล้าง เพราะพันธมิตรไม่เคารพกฎหมาย ถึงเวลาที่อารยะขัดขืนจะต้องชนกับอารยะขัดขืน เพราะทนไม่ได้ที่จะถูกกลุ่มพันธมิตรกระทำฝ่ายเดียว 

"สล้าง"เลื่อนล้อมทำเนียบไป 27 ต.ค.

รายงานข่าวแจ้งว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่ม พล.ต.อ.สล้าง ที่จะปฏิบัติการล้อมทำเนียบรัฐบาลนั้น ล่าสุด พล.ต.อ.สล้าง พร้อมด้วยตำรวจนอกราชการจำนวนหนึ่ง ใช้สถานที่แห่งหนึ่งใน กทม. ประชุมลับร่วมกับอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายสุธรรม แสงประทุม นายอดิศร เพียงเกษ และนายวีระ มุสิกพงศ์ โดยเห็นพ้องร่วมกันว่าให้เลื่อนการล้อมทำเนียบจากวันที่ 25 ตุลาคม ออกไปเป็นวันที่ 27 ตุลาคม เนื่องจากต้องการให้ใกล้กับวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่รายการความจริงวันนี้จะนัดรวมพลที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งหากม็อบของพล.ต.อ.สล้าง สามารถลากได้ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน จะทำให้มวลชนดังกล่าวยกพลมาสมทบที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อร่วมกดดันพันธมิตรอีกทางหนึ่ง 

มีรายงานด้วยว่านายวีระและนายสุธรรมคัดค้านแนวความคิดดังกล่าว เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดการปะทะกันระหว่างประชาชนสองกลุ่มถึงขั้นนองเลือด และจะทำให้รัฐบาลยิ่งเสียเปรียบหนัก แต่นายจาตุรนต์ยืนยันว่าจะต้องกดดันพันธมิตรให้หยุดการเคลื่อนไหวให้ได้ เพราะขณะนี้พันธมิตรเริ่มกระจายตัวกดดันรัฐบาลหนักขึ้น โดยเฉพาะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ไปที่ไหนก็ถูกขับไล่ หากไม่หยุดพันธมิตร นายสมชายอาจจะถอดใจลาออกได้

"แม้ว-อ้อ-โอ๊ค" ทำบุญวัดไทยลอนดอน

รายงานข่าวจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมด้วยคุณหญิงพจมาน ภริยา และนายพานทองแท้ บุตรชาย เดินทางไปทำบุญที่วัดไทยแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน โดยทั้งสามคนแต่งกายชุดสีขาว โดยถวายภัตตาหาร พร้อมทั้งบริจาคเงินจำนวนหนึ่งแก่วัด รวมทั้งยังร่วมรับประทานอาหารกับคนไทยที่มาทำบุญด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

นปช.บุกบก.สส.ต้านทหารปฏิวัติ

เมื่อเวลา10.30 น. สมาชิก นปช.ประมาณ 25 คน นำโดยนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายชินวัฒน์ หาบุญพาด เดินทางมาชุมนุมที่หน้ากองบัญชาการทหารสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นหนังสือให้ทหารยุติการปฏิวัติรัฐประหาร ต่อ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พร้อมทั้งเรียกร้องให้ ผบ.สส.แสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าจะร่วมกับประชาชนปกป้องประชาธิปไตย ให้ผู้นำเหล่าทัพยุติการแทรกแซงทางการเมืองทุกรูปแบบ และให้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการส่งกองกำลังทหารนอกเครื่องแบบและอาวุธเข้าไปร่วมชุมนุมสนับสนุนให้พันธมิตรก่อความรุนแรง กระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองหรือไม่   

นัดชุมนุมสนามหลวง25 ต.ค.นี้

นอกจากนี้นปช.จะดาวกระจายเดินทางไปยื่นหนังสือดังกล่าวต่อหน่วยทหารทุกหน่วย รวมไปถึงกระทรวงกลาโหมด้วย และในวันที่ 25 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป นปช.จะนัดชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเพื่อซักซ้อมการต่อต้านรัฐประหาร 

นายสมยศกล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลหาก กทม.จะขัดขวางการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ที่สนามหลวง ในวันที่ 25 ตุลาคม เพราะไม่คิดจะตั้งเวทีในสนามหลวงอยู่แล้ว เพียงแต่ใช้สนามหลวงเป็นจุดนัดพบ เพื่อไปชุมนุมที่หน้ากระทรวงกลาโหม ซักซ้อมการต่อต้านรัฐประหาร และสาธิตวิธีการต่อต้านรถถังให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบ 

นายเขื่อนเพชรโพนรัมย์ แกนนำกลุ่ม นปช.ภาคอีสาน ในนามกลุ่มหนองน้ำใสรักษ์ประชาธิปไตย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กล่าวว่า กลุ่มหนองน้ำใสรักษ์ประชาธิปไตย ประมาณ 500 คน จะร่วมกับเครือข่ายกลุ่ม นปช.ภาคอีสาน นำโดนนายอรรถฤทธิ์ สิงห์ลอ นายกสมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกรแห่งประเทศไทย อีกกว่า 500 คน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ สมทบกับกลุ่ม นปช.ทั่วประเทศ ที่สนามหลวง เพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านการกระทำของกลุ่มพันธมิตร

ทหารเชื่อสถานการณ์ไม่น่ารุนแรง

พล.ท.คณิตสาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะข่าวการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลของ พล.ต.อ.สล้าง ว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 1 ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ อยู่แล้ว คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรรุนแรงเกิดขึ้น แต่หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา กองทัพก็เตรียมความพร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการคลี่คลายสถานการณ์ โดยกองทัพมีแผนปฏิบัติตามขั้นตอนอยู่แล้ว ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ติดตามสถานการณ์เท่านั้น 

แหล่งข่าวยังบอกด้วยว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน คงไม่สามารถกระตุ้นให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น แต่อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา เพราะคนที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณก็เยอะ หาก พ.ต.ท.ทักษิณน้อมรับคำตัดสินของศาลก็เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะจบลง แต่หากขึ้นมากล่าวโจมตีก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาในลักษณะตีกันไปตีกันมา ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร 

อัยการประชุมคณะทำงานล่าตัวแม้ว

นายถาวรพานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับมารับโทษจำคุก 2 ปีในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาทได้เรียกประชุมเพื่อพิจารณาขั้นตอนการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณครั้งแรก ที่สำนักงานอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงมีวาระในการประชุม 3 เรื่องได้แก่ เรื่องที่ 1 การสรุปคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีคดีที่ดินรัชดาฯ เรื่องที่ 2 การเร่งพิจารณาเตรียมการดำเนินการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเรื่องที่ 3 วาระอื่นๆทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบกฎหมายสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อตรวจดูเงื่อนไขข้อหาความผิดของ 2 ประเทศว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่ 

นายถาวรกล่าวหลังการประชุมว่าได้กำหนดขั้นตอน ตัวบุคคลในการทำหน้าที่ รวมทั้งจัดเตรียมเรื่องเอกสาร ซึ่งหากเกิดอุปสรรคหรือข้อขัดข้องจะเรียกประชุมอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังต้องรอการคัดคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และหมายจับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนการส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางการประเทศอังกฤษ 

ประเวศห่วงล้อมทำเนียบทำนองเลือด

 ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ให้สัมภาษณ์ที่ จ.ขอนแก่น ถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สล้างระบุว่า จะระดมพลเข้าปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อตัดเส้นทางไม่ให้มีการส่งข้าวและน้ำให้แก่ผู้ชุมนุมในทำเนียบเป็นเวลา 3 วัน เพื่อปฏิบัติการยึดทำเนียบคืนว่า เป็นเรื่องที่ต้องระวัง ทุกฝ่ายอย่าไปใช้ความรุนแรง สังคมก็ต้องช่วยดู ยิ่งตำรวจและทหารก็ต้องช่วยดูกันใหญ่เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ

ส่วนกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแถลงการณ์โดยอ้างว่า การที่ศาลไทยพิพากษาจำคุก 2 ปี เพราะมีแรงผลักดันมาจากการเมืองนั้น จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไรบ้าง นพ.ประเวศ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้อ่านแถลงการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้เกิดปัญหา เพราะทุกวันนี้ปัญหาก็เยอะไปหมด จนเกิดการทะเลาะกันใหญ่ 

"ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้สิ่งสำคัญคือ ต้องอย่านำไปสู่การนองเลือดของคนไทยอีกครั้ง เพราะหากมีคนไทยตายไปสักคนก็ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายจะต้องไม่ไปสู่จุดนั้น" ราษฎรอาวุโสกล่าว 

ตร.พร้อมรับมือม็อบ"สล้าง" ล้อมทำเนียบ

พล.ต.ท.สุชาติเหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สล้าง จะนำกำลังมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงคืนในวันที่ 25 ตุลาคม นี้ว่า จากการประเมินสถานการณ์คิดว่าไม่น่าจะมีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น เพราะในช่วงนี้จะมีพระราชพิธี คนไทยทุกคนคงรู้ถึงความสำคัญ คงไม่มีใครอยากให้เกิดความรุนแรง และภาพที่ไม่บังควรแก่สถาบันสูงสุด ซึ่งในส่วนนี้ทุกฝ่ายคงให้สำคัญ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นหากเหตุการณ์อยู่ในสภาวะปกติ จะใช้กำลังทั้งสิ้น 8 กองร้อย หรือ 1,200 นาย หมุนเวียนสับเปลี่ยน แต่หากสถานการณ์ไม่ปกติ แต่ไม่รุนแรง จะเพิ่มกำลังตำรวจจาก บก.ตปพ. บก.น.1-9 อีก 9 กองร้อย แต่สุดท้ายหากเหตุการณ์ไม่ปกติและเกิดความรุนแรง จะประสานกำลังทหารเพื่อร่วมดูแลความสงบเรียบร้อย 

มท.1เชื่อสล้างล้อมทำเนียบ ไม่รุนแรง

พล.ต.อ.โกวิทวัฒนะ รมว.มหาดไทย เชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรง กรณีที่กลุ่มพลังกู้วิกฤติชาติของ พล.ต.อ.สล้าง จะปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 25 ตุลาคม เพื่อตัดช่องทางการนำเสบียงอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปให้ผู้ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เพราะทุกฝ่ายต่างทำตามหน้าที่ 

ส่วนกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณจะโทรศัพท์ทางไกลจากต่างประเทศเข้ารายการ "ความจริงวันนี้ ต้านรัฐประหาร" ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ พล.ต.อ.โกวิท เห็นว่า จะไม่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองทวีความรุนแรงขึ้น และเรื่องดังกล่าวถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล

นักวิชาการผู้ดีชี้ยากได้ตัวแม้วกลับไทย

ศาสตราจารย์ดร.มาร์ค บีสัน ประจำภาควิชาการเมืองระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกระดับแถวหน้าของอังกฤษ กล่าวว่า กรณีที่กระบวนการยุติธรรมของไทยกำลังมีความพยายามจะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไปรับโทษตามคำตัดสินของศาลไทย ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนนั้น ถือเป็นความพยายามที่ยากจะประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะประสบความสำเร็จก็คงต้องใช้เวลาประมาณ 10-15 ปี เป็นอย่างน้อย เนื่องจากขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความได้เปรียบทางการไทยในหลายด้าน ประการแรกคือ พ.ต.ท.ทักษิณ มีฐานะเป็นผู้นำประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตยอย่างถูกต้อง แต่ถูกโค่นอำนาจโดยคณะนายทหาร ซึ่งนานาประเทศและรัฐบาลอังกฤษเองก็ไม่ได้ให้การยอมรับ และประการที่ 2 คือคดีความต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกนานาชาติมองว่า เป็นข้อหาทางการเมือง 

ดร.บีสันกล่าวต่อว่า จากข้อได้เปรียบทั้ง 2 ประการ ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่อังกฤษจะส่งตัวอดีตนายกรัฐมนตรีไทยกลับไปรับโทษ แม้ว่าจะส่งตัวกลับประเทศไทยได้ ก็ต้องใช้เวลานานถึง 10-15 ปี  เนื่องจากกระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและต้องพิจารณาหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด 

คตส.เย้ยจำเลยหนีคดีใครจะยอมรับ

นายสักกอแสงเรือง อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณออกแถลงการณ์ถึงสื่อต่างประเทศ ชี้แจงคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ว่าความผิดไม่ได้เกิดจากการทุจริตคอรัปชั่น ว่า ขณะนี้ไม่อยากแสดงความเห็นอะไร เพราะคำพิพากษาของศาลมีความชัดเจนว่า เรื่องดังกล่าวผิดกฎหมาย โดยกฎหมายห้ามเป็นคู่สัญญากับรัฐ ถ้าอ่านคำพิพากษาทั้งหมดแล้ว จะเห็นว่า เมื่อคุณหญิงพจมานเข้าไปประมูล ก็ไม่มีใครกล้าแข่งขัน

ส่วนกรณีพ.ต.ท.ทักษิณเตรียมชี้แจงเรื่องดังกล่าวผ่านทางโทรศัพท์ ในรายการ "ความจริงวันนี้" ในวันที่ 1 พฤศจิกายน นายสักปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น โดยกล่าวเพียงว่า "จำเลยที่หนีคดี ใครบ้างจะยอมรับ"

พธม.จี้ทักษิณพูดให้ชัดใครเป็นชนชั้นสูง

เมื่อเวลา10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายพิภพกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุว่า ตัวเองเป็นภัยคุกคามของชนชั้นสูง ว่า ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ข้อมูลมาจากไหน จึงอยากให้ออกมาแถลงข่าวหรือชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่าหมายถึงอะไร เพราะอาจทำให้มีผลเสียตามมาภายหลัง ที่ผ่านมาศาลเปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาแก้ต่างหรือส่งทนายมาสู้คคี แต่ พ.ต.ท.ทักษิณกลับสละสิทธิ์และหลบหนีออกนอกประเทศ จากนั้นก็ไม่ยอมเข้ามารับฟังคำพิพากษา 

ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าเหตุที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก ต้นเหตุมาจากการเป็นนักการเมือง นายพิภพกล่าวว่า การเป็นนักการเมืองไม่ได้เป็นเหตุผลที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องรับโทษ แต่การกระทำของนักการเมืองที่พยายามเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องถือเป็นความผิดที่ร้ายแรงอย่างหนึ่ง 

ผบ.ตร.ตั้งกก.รวบรวมข้อเท็จจริง7 ต.ค.

พล.ต.อ.พัชรวาทวงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 703/2551 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรวบรวมข้อเท็จจริง ภายหลังจากปรากฏตามสื่อมวลชนว่า รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ปะทะเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการใช้เครื่องมือในการควบคุมฝูงชน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนมีบุคคลร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ ป.ป.ช.ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเสนอข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณา และเพื่อให้การจัดเตรียมข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้น โดยมี พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผบ.ตร.(มก) เป็นประธานกรรมการ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.(ปป) เป็นรองประธานกรรมการ โดยรายงานผลเบื้องต้นให้ทราบภายใน 7 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป

กก.เยียวยาชงจ่าย1-5 แสนบาทคนตาย 7 ต.ค.

เมื่อเวลา13.30 น. การประชุมคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในวันที่ 7 ตุลาคม และเหตุการณ์เกี่ยวเนื่อง โดยมีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง  นางพนิตากำภู ณ อยุธยา อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันในกรอบจำนวนเงินที่จะให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยจะสรุปตัวเลขเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ เบื้องต้นวงเงินที่จะช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจะอยู่ที่ 1-5 แสนบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีการกำหนดไว้แล้ว แต่จะแถลงรายละเอียดภายหลังจากที่ประชุม ครม.ให้ความเห็นชอบ 

ด้านน.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เบื้องต้นคณะกรรมการได้วางกรอบวงเงินจากงบกลางจำนวน 56 ล้านบาท แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในที่ประชุม ครม. เพื่อให้เกิดความเหมาะสม โดยจะชดเชยให้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน สำหรับบุตรของผู้เสียชีวิตนั้นจะให้ทุนการศึกษาจนจบปริญญาตรี ส่วนผู้บาดเจ็บเรื้อรังจะพิจารณาช่วยเหลือตามลำดับต่อไป

"นิคม" โวยประธานวุฒิฯ "หยามเกียรติ"

การประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม มี น.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ได้ชี้แจงกรณีที่ ส.ว.หลายคนอภิปรายพาดพิงและตั้งข้อสังเกตการทำหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา ในการประชุมร่วม 4 ฝ่ายว่า เป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เหตุที่ต้องเข้าไปทำหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา เพราะได้รับมอบหมายจากประธานวุฒิสภาที่ติดปฏิบัติภารกิจ และในวันที่ 20 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันประชุม 4 ฝ่าย ประธานวุฒิสภาไม่ได้เข้าประชุม นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้เจ้าหน้าที่มาตามเพื่อให้ร่วมประชุม ตนจึงเข้าร่วมประชุม ในนามตัวแทนประธานวุฒิสภา ตนทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว 

นายนิคมกล่าวว่าการที่นายประสพสุขระบุว่าการเข้าประชุมของตนเป็นการประชุมในนามส่วนตัว ไม่ได้เป็นมติของวุฒิสภานั้น ถือว่าเป็นการหยามเกียรติ รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องศักดิ์ศรี ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้