"เหลิม" เดินหน้าห้ามขายเหล้าวันสงกรานต์-วันสำคัญทางศาสนา แต่แทงกั๊กขอยกเว้นวันปีใหม่ อ้างกลัวกระทบนักท่องเที่ยว ด้านสวนดุสิตโพลสำรวจความเห็นเบื้องต้น 83.25% เห็นด้วยห้ามขายเหล้าวันสำคัญทางศาสนา-ช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ครั้งที่ 1 ร่วมกับคณะกรรมการ ได้แก่ นพ.ปราชญ์ บุณยวิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ศิรศักดิ์ วรินทราวาท รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และตัวแทนจากกระทรวงต่างๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการคลัง การะทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งผู้แทนที่ปรึกษานายกฯ ผู้แทนปลัด กทม. และผู้แทนอธิบดีกรมสรรพสามิต
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของสวนดุสิตโพลเบื้องต้น เห็นชัดเจนว่า ประชาชนกว่าร้อยละ 80 เห็นด้วยต่อการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนาและช่วงเทศกาลวันสำคัญ โดยส่วนตัวเห็นว่าจะต้องเดินหน้าในเรื่องดังกล่าวด้วยการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนาทั้งหมด เช่น วันเข้าพรรษา วิสาขบูชา มาฆบูชา อาสาฬหบูชา และวันสงกรานต์ แต่จะยกเว้นวันปีใหม่ เพราะจะต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการ เนื่องจากวันปีใหม่เป็นวันสากลที่เฉลิมฉลองกันทั่วโลก อีกทั้งจะมีคนต่างชาติมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากห้ามจำหน่ายกลัวว่าจะมีคนมาต้าน และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
"ผมจะทำจากเล็กไปใหญ่ ไม่มีแรงต้าน สร้างความคุ้นเคยไปก่อน ต่อไปหากประชาชนเรียกร้องให้ห้ามจำหน่ายในวันปีใหม่ด้วยก็ค่อยว่ากัน ดังนั้นคิดว่าน่าจะเริ่มได้วันสงกรานต์ปีหน้า และจะเร่งดำเนินการต่อไป ซึ่งต่อไปใครจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญดังกล่าวก็จะหาซื้อได้ยาก ผมขอย้ำว่าเป็นการห้ามจำหน่าย ไม่ได้ห้ามดื่ม ใครจะซื้อมาเก็บไว้ดื่มก็เป็นสิทธส่วนตัว แต่การซื้อระหว่างการเดินทางจะทำไม่ได้แล้ว อยากให้ทำเรื่องนี้แบบค่อยเป็นค่อยไป สงกรานต์จะต้องห้าม แต่วันปีใหม่ไม่ควรยุ่ง หากห้ามหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ จะถูกถูกต้าน ห้ามทุกวัน จะโดนแรงต้านเยอะ ยิ่งถ้าห้ามวันวาเลนไทน์ด้วยเดี๋ยวเด็กจะด่าตาย ขอให้เว้นวันปีใหม่ไว้ก่อน เดี๋ยวผู้ที่ประกอบการท่องเที่ยวจะออกมาขวาง ว่าจะทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยว” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า จะเร่งดำเนินการตามมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ในเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อีก 6 คนที่ยังขาดอยู่คือ ผู้แทนจากองค์กรเอกชนจำนวน 3 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีให้ลงนาม ส่วนตนเองจะลงนามทันที
ด้าน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการสำรวจของสวนสวนดุสิตโพล วันที่ 17-22 ตุลาคมเพื่อสอบถามความคิดเห็นประชาชนต่อการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนาและช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ เบื้องต้น 406 ตัวอย่าง พบว่า 83.25% ประชาชนเห็นด้วย เฉยๆ 8.37% ไม่เห็นด้วย 7.39% โดย 51.35% เห็นด้วยกับห้ามทุกวันตลอดเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ 18.18% เห็นว่าควรห้ามเฉพาะวันแรกและวันสุดท้ายของราชการ และ 16.95% ไม่ควรห้าม
นพ.สมานกล่าวต่อว่า ผลการสำรวจยังพบว่า ประชาชนยังเห็นด้วยที่ห้ามจำหน่ายในวันสำคัญทางศาสนาทั้งหมด รวมทั้งวันรัฐธรรมนูญ วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันปิยมหาราช วันจักรี วันแรงงาน วันฉัตรมงคล วันพืชมงคล วันวาเลนไทน์ วันลอยกระทง และวันคริสต์มาส แต่ไม่เห็นด้วยที่จะห้ามจำหน่ายในวันฮัลโลวีน โดยผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า การห้ามจำหน่ายในช่วงวันสำคัญทางศาสนาและช่วงเทศกาลสำคัญ ควรจะมีมาตั้งนานแล้ว
"ผมเชื่อว่าผลจากการห้ามจำหน่ายจะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลง ภาพลักษณ์ของประเทศดีขึ้น แต่สิ่งที่หลายคนกลัวว่าจะเป็นปัญหาและอุปสรรคคือเกิดการต่อต้านจากผู้ประกอบการที่เสียผลประโยชน์ ประชาชนไม่ร่วมมือ และเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม 70.69% คิดว่าจะเป็นผลดีมากกว่า ในการห้ามจำหน่าย" นพ.สมานกล่าว
นพ.สมานยังกล่าวถึงเรื่องที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ยื่นคำขอจดทะเบียนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า หากมีการจดทะเบียนในประเทศไทย แม้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมในระยะแรก แต่จะส่งผลเสียต่อสังคมไทยในระยะยาว เพราะจะทำให้การออกกฎหมายลูกตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ยากขึ้น เพราะจะมีผู้ถือหุ้นออกมาคัดค้านมากขึ้น