รองแม่ทัพภาคที่สอง ของไทย ร่วมตรวจพื้นที่พิพาทเขาพระวิหาร กับรองเสนาธิการกองพลที่ 12 ของกัมพูชาโดยขอความร่วมมือทหารถอดเสื้อเกราะในที่พักร่วม เพื่อมิให้เกิดภาพรุนแรง
โดยเฉพาะ การเตรียมความพร้อม เกี่ยวกับเสื้อเกราะ ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น และอาวุธประจำกาย ขณะที่ การประจำในที่ตั้งในพื้นที่พิพาท ได้สั่งการให้ ทหารไทย งดการใส่เสื้อเกราะ โดยเฉพาะ ภายในวัดแก้วสิขาคีรีสะวารา เพื่อลดสถานการณ์ความตรึงเครียด ของทหารทั้ง 2 ฝ่าย
รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวต่อว่า ทหารทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงตรึงกำลังในที่ตั้งอย่างเต็มที่ต่อไป
พล.ต.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทหารไทย และกัมพูชา ในเขตพื้นที่พิพาท ระหว่าง 2 ประเทศ ยังคงมีความแนบแน่น และเป็นกันเอง เพราะทุกฝ่ายต่างก็ไม่อยากให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรง
เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ถึงอย่างไร ยังคงยืนยันในข้อตกลง ที่จะยังคงประจำทหารของทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ในที่ตั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่พิพาท ขณะเดียวกันทหารไทยจะต้องเตรียมความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ความรุนแรง ที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงที่ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย และแพทย์สนาม ทำการตรวจร่างกายให้กับทหารไทย ที่ประจำอยู่แนวหน้าพบว่า ทหารกัมพูชา ต่างให้ความสนใจ มารับยา และปรึกษาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเอง
ทั้งนี้การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา หรือ อาร์บีซี ที่จังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายได้แสดงความยินดีที่ได้ร่วมกันคลี่คลายสถานการณ์ บริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือนและปราสาทตาควายโดยสันติวิธี และทำให้สถานการณ์ในพื้นที่กลับสู่ภาวะปกติ
จากนั้นก็เห็นพ้องร่วมกันว่า จะลดการเผชิญหน้ากันตามแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนบริเวณแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ