คม-ชัด-ลึก
อสส.นัดชี้ขาดยุบพรรค27มิย. ต่อชะตาทรท.
แม้วโทษรธน.ทำอายุนายกฯสั้น
วังน้ำยมไข้จับ-ทีมกฎหมายเสียงอ่อยถามหาความเป็นธรรม
"พี่หนา"ขาขวิดเดินสายขึ้นศาล-ประกันตัวแจกใบแดงมิชอบ
สว.นัดถกจันทร์นี้-ดันก็อกสองยื่นผ่านผู้ตรวจฯเช็คบิลกกต.
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เมื่อเวลา 15.00 น. นายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวภายหลังการประชุมตรวจสอบสำนวนชี้มูลความผิดกรณียุบพรรคไทยรักไทยของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องการยุบพรรคการเมืองว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น คณะทำงานเห็นว่าเอกสาร หลักฐานที่ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือนายทะเบียนพรรคการเมืองส่งมอบมาพร้อมกับสำนวนการสอบสวน และชี้มูลความผิดพรรคไทยรักไทย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 66 (1) และ (3) นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีข้อมูลเพียงพอที่คณะทำงานอัยการสามารถมีคำสั่งชี้ขาดได้
อัยการต่อลมหายใจทรท.
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเอกสารหลักฐานที่นำส่งมาเป็นจำนวนมากกว่า 2,000 หน้า ทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง โดยจะนัดมีคำสั่งในกรณีดังกล่าวในวันที่ 27 มิ.ย. นี้เวลา 09.30 น.
นายอรรถพล กล่าวว่า สำหรับที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าสำนวนชี้มูลความผิดที่ กกต. ส่งมาให้อัยการอาจจะยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เนื่องจากยังไม่ได้มีการสอบปากคำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทยนั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้อยู่ในอำนาจของ กกต. ซึ่งหากเห็นว่ามีข้อมูลในการสอบสวนเพียงพอแล้วก็อาจไม่เรียกตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาให้การ อย่างไรก็ตาม อัยการไม่มีอำนาจที่จะสอบสวนเพิ่มเติมในคดีนี้ คงพิจารณาเพียงพยานหลักฐานที่กกต.ส่งมอบมาให้เท่านั้น
"สำหรับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ หากเมื่อมีการชี้มูลความผิด และส่งคดีเข้ากับศาลรัฐธรรมนูญแล้ว หากศาลเห็นว่าควรเรียกตัวมาให้การ ก็มีช่องทางทางกฎหมายที่สามารถดำเนินการได้" นายอรรถพล กล่าว
ออส.ให้คณะทำงานลุยเต็มที่
ด้าน นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ไดัมอบอำนาจให้คณะกรรมการตรวจสอบยุบพรรคไทยรักไทย ได้ทำงานอย่างเต็มที่ซึ่งจะต้องพิจารณาสำนวนทั้งหมดว่าครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งหากมีความสมบูรณ์แล้ว ก็สามารถจะดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 67 โดยส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณายุบพรรคไทยรักไทยได้ทันที หรือหากสำนวนจาก กกต.ยังไม่ครบถ้วน อัยการสูงสุดสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือส่งกลับไปยัง กกต.อีกครั้ง เพื่อให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง กกต. กับสำนักงานอัยการสูงสุด
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า สำนวนของ กกต.ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากยังไม่ได้เชิญผู้บริหารพรรคไทยรักไทยมาชี้แจงมูลความผิดการยุบพรรค ซึ่งอาจทำให้เรื่องยืดเยื้อออกไป เห็นว่า กกต.มีอำนาจที่จะเรียกหรือไม่เรียกผู้บริหารเข้าชี้แจง หากเห็นว่าการทำสำนวนสอบสวนมีความถูกต้อง สมบูรณ์แล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ถึงแม้จะเป็นปัญหาของพรรคการเมืองใหญ่ หรือพรรครัฐบาล ก็ไม่มีผลกดดันต่อการทำงานของอัยการสูงสุด เนื่องจากการพิจารณาจะต้องเป็นไปตามข้อมูลหลักฐาน โดยไม่คำนึงว่าเป็นพรรคการเมืองใด และจะเร่งทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
ทรท.เชื่อไม่ถูกยุบพรรค
วันเดียวกันคณะทำงานฝ่ายกฎหมายและการเมืองพรรคไทยรักไทย มีนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล นายปกิต พัฒนกุล และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ได้มีการหารือถึงกรณีที่อัยการสูงสุดเตรียมพิจารณาสำนวนยุบพรรคไทยรักไทย โดยที่ประชุมเห็นว่า ควรที่พรรคจะไปชี้แจงเพิ่มเติม ทั้งนี้ ทางพรรคไทยรักไทย มั่นใจว่าไม่มีความผิดถึงขั้นยุบพรรค เพราะไม่มีเหตุให้เกิดการยุบพรรคได้ และยังไม่มีการเรียกหัวหน้าพรรคไปชี้แจง
ด้านรท.กุเทพ ใสกระจ่าง คณะทำงานด้านกฎหมายอีกคนหนึ่งของพรรคไทยรักไทยขอความเป็นธรรมไปยังอัยการให้พรรคไทยรักไทยมีโอกาสชี้แจงด้วย ขณะที่ นายประสพ บุษราคัม ทีมกฎหมายไทยรักไทยอีกคนเสนอให้อัยการตั้งกรรมการร่วมกับกกต.ในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว
วังน้ำยมระส่ำกลัวทรท.โดนยุบ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ในฐานะหัวหน้ากลุ่มวังน้ำยม ยอมรับว่า หลายคนในพรรคหวั่นไหวต่อกระแสยุบพรรค แต่ตนได้ปลอบไปว่าไม่ต้องไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของประเทศ ที่ต้องทำให้ชัดเจน
"สำหรับผมยังไม่ได้ทำอะไรแต่ก็กลัวเหมือนกัน และเชื่อว่าเวลาและสถานการณ์จะช่วยแก้ปัญหาได้ อย่างที่มีการกล่าวหา คนอกหักคนหนึ่งเวลาจะเป็นเครื่องรักษาใจ"นายสมศักดิ์ กล่าว
ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตภัลลพ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กลุ่มลำตะคอง กล่าวว่า แต่ละคนยังปกติดี ไม่มีใครออกอาการวิตก ขึ้นตอนต่อไปก็เป็นเรื่องของอัยการ ตนไม่ขอวิจารณ์
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่กกต.มีการชี้มูลความผิดและได้ส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดทำให้ใจหายบ้างหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า "ยังอยู่ ใจยังอยู่"
ทักษิณครวญเป็นนายกไม่ยั่งยืน
บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯเป็นประธานกล่าวสุทรพจน์เนื่องในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 4 ของสำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (องค์การมหาชน) โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เน้นถึงเรื่องการช่วยเหลือคนจน เป็นหลัก และในช่วงหนึ่ง กล่าวเป็นนัย ว่า
"ผมคนหนึ่งก็เป็นคนที่มีโอกาสมากกว่าพวกท่าน แต่แน่นอนโอกาสมาแล้วก็หายไป ผมมีโอกาสก็มีระยะเวลา ผมเป็นนายกฯ ก็มีระยะเวลา แล้วระยะเวลามีได้หลายอย่าง มีทั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ และระยะเวลาของสิ่งที่จะเกิดขึ้นซ่อนเร้นภายใต้รัฐธรรมนูญ ของการเคลื่อนไหวของบุคคล ของกลุ่มบุคคลก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ขอให้เข้าใจว่า เมื่อไรมีโอกาสทำบุญให้กับเพื่อนร่วมชาติเถอะครับ ทำให้มากๆ มากเท่าที่เราสามารถทำได้ แล้วเราจะมีความสุขมาก" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
ศาลรับคดีหมอมิ้งฟ้องปชป.
ที่ศาลอาญารัชดา ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องในคดีที่ ที่ นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และรักษาการเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพรรคประชาธิปัตย์, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคฯ, และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคฯ ป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่นและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 16 มี.ค.49 นายสุเทพ และนายองอาจ ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เรื่องพรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กลงสมัครแข่งขันในการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.49 โดยระบุว่ามีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าผู้บริหารพรรคไทยรักไทย อย่างน้อย 3 คน เป็นผู้บงการสั่งการให้มีขบวนการทุจริตการเลือกตั้ง โดยศาลให้คู่ความนัดเปิดคดีในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้
สุชนเปิดประชุมวุฒิ 26 มิถุนายน
นายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ว่าในวันที่26 มิถุนายนนี้จะมีการเปิดประชุมวิสามัญแห่งรัฐสภา 3 วาระเท่านั้น คือ ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่สอบประวัติ และความประพฤติของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) การพิจารณาตุลาการในศาลปกครองสูงสุดเพื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเลือกกรรมการตุลการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ
"วาระอื่นไม่มี ส่วนกรณีที่ส.ว.บางคนจะใช้เวทีนี้เพื่อหารือในเรื่องอื่นนั้นคงต้องพิจารณาดูกันอีกทีว่าเกี่ยวข้องกับวาระการประชุมหรือไม่"นายสุชน กล่าว
ส่วนนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ รักษาการส.ว.กทม. ประกาศว่าจะขัดขวางหากนายประเกียรติ นาสิมมา รักษาการ ส.ว.ร้อยเอ็ด และพวก ยื่นญัตติด่วนให้ที่ประชุมวุฒิมีมติสภาสรรหากกต.แทนตำแหน่งที่ว่างลง เพราะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
ว่าที่สว.ใหม่รับหนังสือรับรอง
ที่สำนักงาน กกต. บรรดาสว.ที่กกต.รับรองรายชื่อล่าสุด กันมารับหนังสือรับรองจากกกต. แต่ในช่วงบ่าย นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่สำนักงานกกต.ทักท้วงและทวงถามเรื่องบัตรเลือกตั้งสว.พันที่จังหวัดพัทลุงที่ผ่านมา ที่มีการนำออกมาจากหน่วยเลือกตั่งจำนวนมาก
นายเจริญ ภักดีวานิช หนึ่งใน ส.ว.พัทลุง ที่ได้รับการประกาศรับรอง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่ทราบข้อเท็จจริง และไม่รู้ว่าบัตรที่พบมาจากไหน
นายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต. ชี้แจงกรณีข้อสงสัยของนายพินิจ ว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้วว่าบัตรเลือกตั้งหลุดออกมาได้อย่าง ไร แต่ไม่มีผลต่อคะแนนของผู้ชนะที่ต่างกันมาก
มีรายงานข่าวว่า พล.ต.อ.วาสนา ได้สั่งให้ลูกน้องขนย้ายเอกสารในห้องทำงานเป็นจำนวนมาก กระจายไปยังสำนักงานต่าง ๆ ของกกต. แต่เมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ได้รับการยอมรับว่าขนย้ายจริงเพื่อนำไปตรวจสอบความเรียบร้อย
วาสนาเดินสายขึ้นศาลม.157
ที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ศาลนัดพร้อมในคดีที่นายประสิทธิ์ ภูศรีจันทร์ อดีตนายกเทศบาลตำบลดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานกกต.เป็นจำเลย ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ จากกรณี พล.ต.อ.วาสนา แจกใบแดงให้กับโจทก์ โดยการพิจารณาคดีดังกล่าว ศาลชี้มีคดีมีมูล และประธานกกต.ได้ปฎิเสธ ทุกข้อกล่าวหาและใช้ตำแหน่งประกันตัว พร้อมขอพิจารณาคดีลับหลัง ซึ่งศาลอนุญาต นัดสืบพยานโจทก์ 2 ปาก 1 นัด สืบพยานจำเลย 7 ปาก 2 นัด ในวันที่ 19 กันยายน และ 26-27 กันยายนนี้
อดีตนายกเทศบาลตำบลดอนฉิมพลี กล่าวถึงมูลเหตุแห่งการฟ้องร้องในครั้งนี้ว่า เป็นผลมาจากการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอนฉิมพลี เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งตนเป็นผู้ชนะการ แต่ กกต.กลาง ที่มี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน กลับลงชื่อในคำตัดสินให้ใบแดงตนแต่เพียงผู้เดียว ขณะที่กกต.อีก4คนไม่ได้ร่วมลงชื่อด้วย
35สว.เดินหน้าสอยกกต.
นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ รักษาการ ส.ว.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า กลุ่ม 35 ส.ว. ที่ร่วมเข้าชื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนกกต. นื่องจากเห็นว่าขาดคุณสมบัติ แต่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติด้วยเสียง 7 ต่อ 6 ไม่รับคำร้องเนื่องจากเห็นว่า ส.ว.รักษาการไม่มีอำนาจในการยื่นตีความ โดยทางกลุ่มของตนได้นัดหมายกันในวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายนนี้ เพื่อหาแนวทางยื่นเรื่องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ดำเนินการถอดถอน กกต.อีกครั้ง ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 197 กำหนดไว้
ทางด้าน นายปราโมทย์ โชติมงคล ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กล่าวย้ำอีกครั้งว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานในเรื่องดังกล่าว แต่หากติดต่อมาก็พร้อมดำเนินการให้หากเป็นไปตามกรอบตามที่กฎหมายกำหนดไว้
ชี้สังคมแตกแยกเป็น2ฝ่าย
นายสมบัติ จันทรวงศ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในหัวข้อสัมนา "ปฎิรูปการเมืองอย่างไรไม่ซ้ำรอยเดิม" ที่โรงแรมมิราเคิล ตอนหนึ่ง ว่าการปฎิรูปครั้งนี้คงยากเพราะสังคมแยกเป็น2ฝ่าย เหลือทางเดียวคือการใช้กำลัง
"ปัญหาของผู้นำการเมืองไทยคืออายไม่เป็น ทำได้ทุกอย่าง ผมแปลกใจที่คนไปเรียนเมืองนอกถึงระดับปริญญาเอก แต่ไม่สำนึกเลยว่าความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับส่วนรวมนั้นเป็นเรื่องต้องห้าม โดยเฉพาะในสหรัฐ ถ้าเกิดขึ้นกับผู้นำต้องติดคุก"นักวิชาการผู้นี้กล่าว
นายลิขิต ธีรเวคิน หัวหน้าพรรคพลังแผ่นดินไท กล่าวว่า โครงสร้างทางการเมืองปัจจุบันไม่สามารถแก้ปัญหาการคอรัปชั่นได้ องค์กรอิสระบางแห่ง อยู่ภายใต้อิทธิพลของพรรคการเมือง มีการฉกฉวยประโยชน์จากช่องโหว่ของกฎหมายแสวงหาประโยชน์ใส่ตัว ขณะนี้สังคมไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตจริยธรรม โดยเน้น วัตถุนิยม บริโภคนิยม และ เงินตรานิยม จนมองเรื่องจริยธรมเป็นเรื่องตลก ที่คนไม่ให้น้ำหนัก
ด้านนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ คณะบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า ไปเสวนาหัวข้อ "เหลียวหลังแลหน้า 74 ปี ประชาธิปไตย" ที่ม.กรุงเทพ โดยเชื่อว่า ความตื่นตัวด้านคุณธรรมและจริยธรรมจะเป็นความหวสังในการล้มรัฐบาลที่ฐานสนับสนุนจากรากหญ้าและกลไกราชการได้ ซึ่งได้ สิ่งที่จะท้าทายรัฐบาลในอนาคตคือ ความดีงาม หากไม่มีก็จะถูกโค่นล้มโดยประชาชน