ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร ได้มีการประชุมร่วมกันของกลุ่มแกนนำที่บ้านพระอาทิตย์ ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ประกอบด้วย
นายสนธิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร จากนั้น พล.ต.จำลอง แถลงผลการประชุมว่า กลุ่มพันธมิตรจะปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป ภายใต้เงื่อนไข 2 ประเด็น คือคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ 2550 โดยทันทีที่รัฐบาลบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่มีรูปแบบชัดเจน แกนนำพันธมิตรจะประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนเงื่อนไขอีกหนึ่งข้อ คือเรียกร้องรัฐบาลให้ลาออกเพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่
"ที่ประชุมแกนนำ มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่ามีความเห็นจำเป็นต้องรื้อเวทีบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อเปิดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินในวันที่ 23 ตุลาคม และพระราชพิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ"พล.ต.จำลองกล่าว และว่า การรื้อถอนจะทำให้เสร็จก่อนเช้ามืดวันที่ 23 ตุลาคม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรยุติการชุมนุม หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 2 ปี
พล.ต.จำลองกล่าวว่า "ไม่ต้องมาแนะนำให้เราถอย เราอยู่มาถึง 151 วัน ถ้าถอยแล้วประเทศพัฒนาเราก็ถอยไปแล้ว การที่มาชุมนุมทำให้เกิดความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาวิกฤตชาติ แม้เป้าหมายของการชุมนุมจะยังไม่ชนะ แต่ตามรายทางเราชนะเรื่อยมาถึง 41 เรื่อง และเรื่องคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยืนยันว่า เราก็มีส่วนในผลนั้นด้วย"
เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ (รอง อ.ตร.) ประกาศว่าจะยึดทำเนียบรัฐบาลคืน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวสั้นๆ ว่า "เราประชุมเรื่องของ พล.ต.อ.สล้างแล้ว โดยให้ความสำคัญเพียงครึ่งนาทีเท่านั้น"
นายพิภพ ธงไชย กล่าวบนเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า "ตอนนี้จัดการทักษิณได้แล้ว ต่อไปต้องจัดการระบอบทักษิณให้หมดไป "