วาสนา รับข้อกล่าวหาที่ศาลแปดริ้วก่อนยื่นประกันตัว

09.00 น.วันที่ 23 มิถุนายน ที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.) ได้เดินทางไปมารับฟังข้อกล่าวหากรณีนายประสิทธิ์ หรือชูรัช ศรีจันทร์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นโจทย์ยื่นฟ้องในข้อหา เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานกระทำความผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.กรณีออกคำสั่ง กกต ที่ 193/2547 เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งนายประสิทธิ์


โดยได้ทำคำวินิจฉัยย้อนหลังการเลือกตั้ง ทำให้นายประสิทธิ์ ซึ่งชนะการเลือกตั้งได้เป็นนายกเทศมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยการเดินทางมาศาลจังหวัดฉะเชิงเทราครั้งนี้ เป็นไปตามคำสั่งของศาลที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ได้ขอเลื่อนนัดศาลเพื่อรับฟังข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2549 ที่แจ้งว่า ต้องเข้าเฝ้าถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภพร้อมทนายความ เดินทางโดยรถยนต์ตู้สีดำ ทะเบียน ฮก 5225 กรุงเทพมหานคร เมื่อถึงศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ใช้ทางเข้าด้านหลังศาลซึ่งเป็นทางเข้าออกของผู้ต้องขัง เพื่อหลบสื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าวอยู่ด้านหน้าศาล โดยมีนายณรงค์ วงศ์รัตน์ ประธาน กกต. คณะกรรมการ กกต.และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต.จังหวัดฉะเชิงเทรา ไปคอยต้อนรับ

จากนั้น ผู้สื่อข่าวจำนวนเกือบ 10 คน ที่จะเข้าไปทำข่าวภายในศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ติดต่อขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ประจำศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งก็ได้อนุญาตให้เข้าไปฟังการรับทราบข้อกล่าว หาได้ แต่ห้ามบันทึกภาพซึ่งผู้สื่อข่าวทุกคนรับทราบและปฏิบัติตาม แต่ขณะที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เดินออกมาจากห้องธุรการศาล นางสาวอุไรวรรณ ว่องกุล ผู้อำนวยการศาลจังหวัด กลับไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวอยู่ในบริเวณศาล พร้อมกับใช้วาจาไม่สุภาพ เสียงดังตวาดใส่พร้อมกับใช้มือดันสื่อมวลชน ก่อนที่จะสั่งการให้ รปภ.ของศาลดึงกับสื่อมวลชนประมาณเกือบ 10 คนที่ไปทำข่าว โดยอ้างว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล และเป็นคำสั่งของนางพรรณราย อัษรารัตนานนท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา


ซึ่งการกระทำดังกล่าวของผู้อำนวยการศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้สร้างความงุนงงกับสื่อมวลชน คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประชาชนทั่วไป ตำรวจ นปพ.และตำรวจท้องที่หลายสิบคนที่ไปดูแลรักษาความปลอดภัยให้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้น พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ และคณะ ได้เดินขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดี 12 ซึ่งอยู่ชั้นที่ 3 ของอาคารศาลจังหวัดหลังใหม่ที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งนายประสิทธิ์ ศรีจันทร์ โจทย์พร้อมทนายนั่งรออยู่ก่อน มีนายวีระพล บุญอารีย์ เป็นผู้พิพากษา ตามคดีหมายเลขดำ ที่ 3659/2548 ซึ่งศาลได้อ่านคำฟ้องให้จำเลยฟัง แต่จำเลยให้การปฏิเสธ และยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีลับหลังจำเลยอ้างว่า จำเลยเป็นประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีหน้าที่ต้องปฏิบัติ หากจำเลยไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ จะทำให้เสียหายแก่ราชการ ศาลพิเคราะห์แล้วซึ่งคดีนี้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี จำเลยมีทนายความแก้ต่างให้


จึงอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลัง โดยจำเลยไม่ต้องมาฟังการพิจารณาคดีได้ จากนั้น พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ได้ยื่นคอร้องขอประกันตัว โดยใช้ตำแหน่งประกันในวงเงิน 120,000 บาท แม้นายฐานุวัฒน์ ภูมี ทนายโจทย์จะคัดค้านก็ตาม โดยศาลกำชับให้จำเลยห้ามมิให้หรืองดเว้นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การพิจารณาคดีนี้ มิฉะนั้นศาลจะพิจารณาเพิกถอนสัญญาประกัน ซึ่งศาลได้นัดสืบพยานโจทย์ในวันที่ 19 กันยายน 2549 และสืบพยานจำเลย วันที่ 26 - 27 กันยายน 2549 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก