แตกต่าง-แตกแยก

ยืนยันว่าตอนนี้ก็ยังเห็นด้วยกับการเมืองภาคประชาชน การเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบภาครัฐ

และเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรที่เคยตรวจสอบ-เปิดโปงการทุจริตรัฐบาลทักษิณ

ถึงแม้ว่าปลายทางของการเคลื่อนไหวจะไม่งดงาม เพราะเกิดการรัฐประหาร โค่นล้มรัฐธรรมนูญของปวงชนชาวไทย

แต่ก็ถือว่าภารกิจแรกของพันธมิตรประสบความสำเร็จ

มาถึงการเคลื่อนไหวภาค 2 กลับแตกต่างไปจากครั้งแรก อาจเป็นเพราะพันธมิตรเชื่อมั่นใจตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม

ทั้งปลุกเร้าและโหยหาการปฏิวัติรัฐประหารรอบ 2 มุ่งโค่นรัฐบาลนอมินีทักษิณ

ที่สำคัญพันธมิตรเคลื่อนไหวโดยอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่กลับไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น

ไม่ยอมรับความเห็นที่แตกต่าง ไม่เปิดใจรับความเห็นผู้อื่น

แต่กลับโจมตีทุกคนที่มีความเห็นแตกต่างราวกับว่าเป็นศัตรูคู่แค้น

ยกตัวอย่าง เช่น นายโคทม อารียา ผู้ยึดแนวทางสันติวิธี เคยโดนพันธมิตรโจมตีสาดเสียเทเสีย เพียงเพราะออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล เคยรณรงค์ริบบิ้นขาว เรียกร้องให้ทั้งพันธมิตรและรัฐบาลหันมาใช้สันติวิธีเพื่อแก้ปัญหา ยุติการสร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความรุนแรง และไม่สนับสนุนการทำรัฐประหาร

กลับโดนโจมตีจากพันธมิตรว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือทักษิณ

ยังมีสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือสนนท. ซึ่งเคยออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการเผชิญหน้าที่นำไปสู่ความรุนแรง และหยุดการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นประเด็นในการปลุกระดมโจมตีทางการเมือง

กลายเป็นกลุ่มต้องห้ามของพันธมิตรไปอีก

ดารา "หนุ่ม"ศรราม เทพพิทักษ์ ที่มีมุมมองเรื่องความจงรักภักดีที่แตกต่างกับพันธมิตรก็ถูกถล่มเสียเละเทะ

ท่านทั้งหมดที่ว่ามานี้ ออกมาแสดงความเห็นแบบเป็นกลาง ไม่ได้เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

แต่แกนนำม็อบก็รับไม่ได้และไม่ยอมรับ พยายามผลักไสให้ไปอยู่ฝั่งตรงข้าม กล่าวหาว่ารับอามิสสินจ้างจากกลุ่มอำนาจเก่า

ล่าสุดพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ถึงแม้จะออกทีวีกดดันให้นายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ รับผิดชอบการสลายม็อบหน้ารัฐสภา แต่ก็ประกาศจุดยืนชัดเจนไม่ปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ใช้กำลังเข้าเปลี่ยนแปลงการปกครอง

เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดแอบอ้างสถาบันฯ!!

ก็เลยโดนแกนนำพันธมิตรโจมตี กล่าวหาเรื่องเงินช่วยงานศพ 50 ล้าน เชื่อมโยงเรื่องลูกสาวบินไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ

ทั้งหมดนี้เป็นผลของความคิดเห็นแตกต่าง ไม่เป็นที่ยอมรับของแกนนำกลุ่มนี้

ที่นำไปสู่ความแตกแยกในบั้นปลาย