ทิศทาง และ อนาคต รัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อนาคต จะยาวหรือสั้น

กรณีผบ.เหล่าทัพที่นำโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เมื่อตอนเย็นของวันที่ 16 ตุลาคม 2551 สะท้อนให้เห็นอาการวิตกจริตอันเป็นตะกอนนอนก้นของสังคมไทยได้เป็นอย่างดี

นั่นก็คือ ทุกฝ่ายล้วนตีความไปตามความรับรู้ทางการเมืองของตน

นั่นก็คือ ทุกฝ่ายล้วนตีความไปตามความต้องการในทางอัตวิสัยทางการเมืองของตน โดยมีบทบาทของผบ.เหล่าทัพกับผบ.ตร.มาเป็นเครื่องปรุง

เหตุใดจึงว่าเป็นการตีความไปตามความรับรู้ทางการเมืองของตน

เพราะว่าความรับรู้ของคนไทยเมื่อเห็นทหารออกมาแสดงความเห็นเช่นนี้หมายถึงแนวโน้มและความเป็นไปได้ของการยึดอำนาจ

หากไม่เกิดขึ้นตอนนั้น ก็จะต้องเกิดขึ้นภายในอีกไม่นาน-เกินรอ

เป็นความเคยชินที่ผ่านมาก่อนเกิดรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534 ผ่านบทบาทของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร

เป็นความเคยชินที่ผ่านมาก่อนเกิดรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ผ่านบทบาทของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

เป็นความเคยชินในลักษณาการแห่งเมื่อเอยก็เมื่อนั้น

นอกเหนือจากความเคยชินจากการเมืองในกาลอดีต ในความรับรู้ของสังคมไทยแล้ว ยังประสานเข้ากับความต้องการในทางอัตวิสัยของแต่ละคนอีกด้วย

นั่นก็เห็นได้จากลักษณะการรุกต่อ เพื่อให้สภาพทางการเมืองเป็นไปตามที่คาดเอาไว้

ท่วงทำนองเช่นนี้เห็นได้อย่างเด่นชัดจากอากัปกิริยาและบทสรุปจากประดานักวิชาการตัวเอ้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านรัฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านนิติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์

เห็นได้จากอาการฟันธงของ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร เห็นได้จากอาการฟันธงของ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล เห็นได้จากอาการฟันธงของ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์

1 ผ่านความรับรู้เดิมทางการเมือง

1 ผ่านผลึกทางความคิดที่ได้ติดตามกระบวนการไหวเคลื่อนทางการเมือง โดยเฉพาะของรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

จึงคาดว่า แนวโน้มไม่น่าจะไปรอด

เป็นการคาดในลักษณะฟันธง เป็นการคาดด้วยความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูง ถึงวิถีดำเนินที่จะต้องเป็นไปในทางการเมือง



ต้องยอมรับว่า เคยมีกรณีเหมือนกับการแสดงออกของผบ.เหล่าทัพอันนำโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มาแล้วในทางประวัติศาสตร์

1 เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2491 โดยคณะรัฐประหารต่อรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

1 เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2527 โดยคณะทหารอันนำโดย พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ต่อรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

น่าสนใจตรงที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่รอด

ไม่รอดเพราะว่าคณะรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่ยอมรับต่อการข่มขู่และคุกคามจากคณะรัฐประหารจึงลาออก

น่าสนใจตรงที่รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไปรอด

ไปรอดเพราะว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่เพียงแต่เคยเป็นผู้บัญชาการทหารบกมาก่อนหากแต่มากด้วยบารมีทั้งในแวดวงกองทัพและในแวดวงการเมือง

จึงแทนที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จะไป กลับเป็น พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ที่ร่อแร่

อย่างน้อยการสามารถดึงเอา ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มาออกโทรทัศน์โต้ตอบ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ในประเด็นความชอบธรรมในการลดค่าเงินบาทของรัฐบาล ก็ทำให้ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก หมดความชอบธรรมลงไป

รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จึงอยู่ไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2531



ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า ในที่สุดของรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะเป็นอย่างไร

ที่แน่ๆ ก็คือไม่ยอมเดินแนวทางเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์เมื่อเดือนเมษายน 2491 แต่จะเดินไปหนทางเดียวกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หรือไม่ยังต้องติดตามต่อไป

โปรดอย่ารอคอย แต่จงติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน