ทหารถูกระเบิดอาการยังโคม่า!
เผยอาการทหารพรานน่าห่วง หลังถูกสะเก็ดระเบิดจากชายแดนเขมร ยังโคม่าไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา แถมมีอาการแทรกซ้อนไตทำงานลดลง และปัสสาวะออกน้อย
ด้านแม่ทัพภาค 2 เตรียมไปประชุมหารือกับผบ.ทหารเขมรที่เสียมราฐวันที่ 23-24 ต.ค.นี้ เนื่องจากเขมรลดความแข็งกร้าวลง ส่วนสถานการณ์ตามแนวชายแดนเป็นปกติ โดยทหารทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังเต็มอัตราศึกท่ามกลางสายฝนตกหนัก ทำให้ทหารไทยป่วยเพราะไข้มาลาเรีย กว่า 40 นาย
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นพ.ปราชญ์ บุณย วงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าการดูแลทหาร 4 นาย ที่บาดเจ็บจากเหตุปะทะกับทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ ว่าอาสาสมัครทหารพรานบุญฤทธิ์ ขันตี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ขมับซ้าย และนอนรักษาตัวใน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบล ราชธานี หลังจากผ่าตัดสมองแล้วอาการทั่วไปยังอยู่ในขั้นโคม่า ไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ไม่ตอบสนองความเจ็บปวด สมองยังไม่ยุบบวม แพทย์ต้องใช้ยาควบคุมความดันโลหิตเพื่อช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น แต่เริ่มมีอาการแทรกซ้อน คือไตทำงานลดลง มีปัสสาวะออกน้อย จึงต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
ส่วนทหารอีก 3 นาย ที่นอนพักรักษาอยู่ใน รพ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ คือ จ.ส.อ.ณัฐพล จันทร์สุข ได้รับบาดเจ็บเคล็ดขัดยอกเล็กน้อย จ.ส.อ.ปรีชา โภคภัณฑ์ ถูกสะเก็ดระเบิดที่หัว แม่มือขวา และอาสาสมัครทหารพรานกฤษณ รักษ์ จันทร์แดง ถูกสะเก็ดระเบิดที่หัวเข่าขวา อาการปลอดภัย ไม่มีไข้ ทีมแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับหน่วยแพทย์ทหารให้การดูแลเต็มที่
ทางด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าจากการตรวจสอบ กับ พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผบ.กองกำลังสุรนารี ทราบว่าจากการพูดคุยกับกัมพูชายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ มีการลาดตระเวน และมีการประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลังจากการพูดคุยและได้ข้อสรุปมา 2 ข้อ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะมีการพูดคุยในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้คณะกรรมการปักปันเขตแดนจะเข้าไปทำหน้าที่ได้
ทั้งนี้ไทยและกัมพูชา ตกลงจะมีการ ประชุมชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 23-24 ต.ค.นี้ ที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา โดยมี พล.ท.วิบูลศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้แทนฝ่ายไทย ไปร่วมหารือกับ ผู้บัญชาการส่วนภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ท่าทีของกัมพูชาได้ลดความแข็ง กร้าวลงพร้อมพูดคุยกับฝ่ายไทย ทั้งนี้ประเทศไทยมีความตั้งใจที่จะมีการเจรจาและไม่ต้องการให้เกิดการปะทะ ซึ่งในการประชุมดังกล่าวจะพูดคุยในระดับทหาร และจะมีการเสนอให้หารือในระดับรัฐมนตรีต่อไป
สำหรับบรรยากาศในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อเวลา 08.15 น. วันเดียวกัน มีรายงานว่าได้เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายขึ้นเล็กน้อยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อมีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง บริเวณบ้านซำแต จ.พระวิหาร ฝั่งประเทศกัมพูชา ห่างจากเขตแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 1 กม. ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านโศกขามป้อม ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ และมีกองกำลังทหารกัมพูชามาตั้งฐานปฏิบัติการอยู่จำนวนมาก ทำให้ทหารไทยซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจส่วนตัวในช่วงเช้า ต้องถือปืนวิ่งเข้าประจำการในฐานที่มั่นทันที เพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้หากถูกโจมตี แต่ยังไม่มีรายงานแน่ชัดว่า เสียงคล้ายระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไรแน่ และเป็นไปได้ว่าทหารกัมพูชาจงใจให้เกิดเสียงระเบิดขึ้นเอง หรืออาจมีใครไปเหยียบกับระเบิดที่วางไว้
ขณะที่ พ.อ.ทวีศักดิ์ บุญรักชาติ หน. ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า กล่าวว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดน ยังคงเป็นปกติ ทหารไทยยังคงตรึงกำลังในบริเวณพื้นที่พิพาทเชิงเขาพระวิหาร ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งวันทั้งคืน และมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนกำลังอย่างต่อเนื่อง ตามแผนปฏิบัติการทางการทหารที่กำหนดไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากทหารไทย ต้องตรึงกำลังตามแนวชายแดนต่อไป ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ทหารกว่า 40 นาย ถูกลำเลียงส่งมารักษาตัวที่ รพ. กันทรลักษ์ เพราะป่วยด้วยพิษไข้มาลาเรีย อย่างไรก็ตาม หลังจากมีเหตุการณ์ตึงเครียดกับกัมพูชา ปรากฏว่ามีทหารไทยเสียชีวิตแล้ว 2 นาย จากสาเหตุทำปืนลั่นใส่ตัวเองและไหลตาย.