คุยด้วย! ปัดตอบขออยู่อีก 2 เดือนเลขาฯยืนยันนายกฯไม่ท้อ'อ๋อย'หนุนอย่ายอมทหาร
นายกฯกระซิบข้างหู ผบ.ทบ.สนทนาแนบชิดขณะร่วมซ้อมพระราชพิธี"สมชาย"เป็นฝ่ายเขยิบเข้าหา"บิ๊กป๊อก"ปิดปากเงียบไม่ตอบขออยู่อีก 2 เดือน “อนุพงษ์” แจงคุยกันเฉย ๆ ส่วน “ชูศักดิ์” เผยนายกฯ ไม่มีท้อ “กุเทพ” ยกมติพปช. อุ้มนายกฯ ทำงานต่อ เชื่อสะสาง 3 ภารกิจพร้อมตั้ง ส.ส.ร. ปูทางลงที่นิ่มนวล ยันนายกฯ ไม่ดื้อดึง “จาตุรนต์” หนุนนายกฯ อย่ายอมทหาร ชี้ปล่อยทหารบงการจะกลายเป็นพม่า เจอ “ซ้อมือตบ” ควักมือสะบัดแหลกจนกระจุย ปชป. จวกพฤติกรรมซ้ำรอย “ทักษิณ-สมัคร” วอนนายกฯ อย่าพาชาติล่มจม “บุญยอด” จี้เร่งตัดสินใจลาออกเพื่อบ้านเมือง พิษการเมืองทำบรรยากาศเลือกตั้งซ่อม “เพชร บูรณ์” กร่อย ส่วนคนบางกอกเซ็งเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้าในกทม. ขณะที่ ทบ.ล้มโครงการซ่อม ฮ.มะกัน 15 ลำ หันไปซื้อจากรัสเซียมาใช้
นายกฯทักทาย “อนุพงษ์”
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่สนามหลวง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เข้าร่วมพิธีซ้อมริ้วขบวนพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินคร์ ตามเส้นทางสถานที่จริง โดยมีทหารกองเกียรติยศกว่า 3,000 นาย รวมทั้งปลัดกระทรวงต่าง ๆ เข้าร่วมในพิธีด้วย ทั้งนี้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ฝนได้เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้พล.อ.อนุพงษ์และทุกคนที่มาร่วมในพิธีต่างเปียกปอนไปตาม ๆ กัน จนกระทั่งเวลา 09.15 น. เมื่อขบวนเริ่มเคลื่อนเข้าสู่สนามหลวงฝนจึงซาและฟ้าเปิด
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แต่งกายด้วยชุดข้าราชการสีกากี ได้เดินทางมาถึงบริเวณสนามหลวง และเข้ามานั่งรอที่เก้าอี้ชั้นลดด้านหน้าพระที่นั่งทรงธรรม เมื่อขบวนของพล.อ.อนุพงษ์เดินเข้ามาถึงพื้นที่สนามหลวง ผบ.ทบ.ได้แยกตัวออกจากขบวนพร้อมผู้ติดตาม และเดินผ่านนายกฯพร้อมยกมือไหว้ทำความเคารพ ทั้ง 2 คนมีสีหน้ายิ้มแย้มและพูดคุยทักทายกัน โดยผบ.ทบ.เริ่มทักว่า “ผมเปียกหมดเลย ไม่ค่อยชินกับการใส่ชุดนี้มาร่วมพิธี” ซึ่งนายกฯตอบกลับไปว่า “ผมก็ไม่ชินเหมือนกันที่ต้องใส่ชุดกากี เพราะไม่ได้ใส่มานานแล้ว”
ค่อย ๆ เขยิบใกล้ชิดผบ.ทบ.
ทั้งนี้ นายกฯได้เชิญให้ พล.อ.อนุพงษ์นั่ง โดยเริ่มแรกนายกฯและพล.อ.อนุพงษ์ได้นั่งห่างกันเว้นช่วง 3 เก้าอี้ และในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ได้รายงานขั้นตอนพิธีการต่าง ๆ สักครู่หนึ่งนายกฯได้เขยิบเข้าไปหาพล.อ.อนุพงษ์ ยังนั่งเว้นห่างกัน 1 ที่นั่งแล้วพูดคุยสองต่อสองประมาณ 5 นาที ด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นนายกฯและผบ.ทบ. เข้าร่วมพิธีซ้อมริ้วขบวนที่ 3 เชิญพระโกศเวียนพระเมรุ 3 รอบ ภายหลังพิธีซ้อมนายกฯและผบ.ทบ. ได้เข้ามานั่งพักและพล.ต.ธวัชชัย สมุทรสาคร รองแม่ทัพภาคที่ 2 เข้ารายงานสถานการณ์ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา จึงทำให้นายกฯต้องเข้าไปนั่งใกล้ชิดผบ.ทบ.เพื่อดูแผนที่และฟังข้อมูลจากพล.ต.ธวัชชัย
โดยนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีได้มีการกำชับอะไรหรือไม่ว่า ไว้มีข้อมูลแล้วค่อยพูด ตอนนี้ยังไม่ขอพูดเพราะไม่เหมาะสม ด้านพล.อ.อนุพงษ์ ก็ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดของการหารือ กล่าวเพียงว่า “ไม่มีอะไร” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯแสดงความเป็นห่วงในเรื่องใดหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า มีการพูดคุยกันเฉย ๆ นายกฯไม่ได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องใด ต่อข้อถามว่า จุดยืนของกองทัพในสถานการณ์การเมืองยังเหมือนเดิมหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จุดยืนของกองทัพตนได้พูดไปหมดแล้ว
ปัดตอบต่ออายุรัฐบาล2เดือน
ที่องค์พระสมุทรเจดีย์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เวลา 13.20 น. นายสมชาย ได้เป็นประธานในพิธีห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์ โดยได้เข้ากราบนมัสการพระมงคลชัยวัฒน์ (ปางห้ามสมุทร) และร่วมขบวนแห่ผ้าห่มฯด้วย มีประชาชนร่วมงานและให้กำลังใจจำนวนมาก ต่อมาเวลา 14.30 น. นายกฯปราศรัยตอนหนึ่งว่า เรามีปัญหาหลายด้าน รัฐบาลอยากให้ความสนใจที่ความเป็นอยู่ของประชาชน การลงทุน การคมนาคม รัฐบาลที่ขึ้นมาโดยตนเป็นผู้นำครั้งนี้มีนโยบายชัดเจนที่จะดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ขณะนี้มีปัญหาเรื่องความแตกแยกทางความคิด ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายที่อยู่ร่วมกันอย่างสมัครสมานสามัคคี ขอให้อดทนให้คนกลับมารักกัน
นายสมชาย กล่าวว่า ตนพยายามส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งทางประธานสภา ได้มีการพิจารณาแนวทางของส.ส.ร. รัฐบาลเห็นว่าจะเป็นทางออกและเป็นจุดที่จะทำให้เกิดความปรองดอง เมื่อรัฐบาลเข้ามาทำงานแม้จะมีอุปสรรค เราก็ต้องมีสติในการฝ่าฟันอุปสรรคด้วยความรอบคอบ และเคารพความรู้สึกของทุกคน งานทุกงานที่อยู่ในภาระหน้าที่ เราจะละทิ้งไม่ได้ เพราะประชาชนมอบหมายมาให้ทำ ทั้งนี้ก่อนที่นายกฯจะเดินทางกลับได้มีประชาชนมาคอยให้กำลังใจ โดยตะโกนว่า “ขอให้นายกฯอยู่นาน ๆ อย่าลาออก อย่ายุบสภา” โดยนายกฯ กล่าวถึงการหารือกับผบ.ทบ.ในช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า คุยเรื่องซ้อมพิธีและเรื่องทั่ว ๆ ไป แต่ไม่ยอมตอบคำถามเรื่องการขอเวลา 2 เดือนในการทำงานต่อ
“ชูศักดิ์” เผยนายกฯไม่ย่อท้อ
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายชูศักดิ์ ศิรินิล เลขาธิการนายกฯ กล่าวระหว่างร่วมกิจกรรมตีดาบโบราณและปลุกเสกมีดดาบโบราณ 9,999 เล่ม ถึงท่าทีของนายกฯว่า นายสมชายยังไม่เคยบ่นย่อท้อกับการทำงานในตำแหน่งนายกฯ โดยเฉพาะกับผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ออกมาให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อสถานการณ์บ้านเมือง ส่วนการถูกกดดันจากบุคคลหลายกลุ่มนายกฯไม่ย่อท้อแต่อย่างใด
นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลยังมีงานสำคัญ 3 งาน หากให้รัฐบาลลาออกตามที่บางคนต้องการนั้น ก็จะไม่เหมาะสม เนื่องจากรัฐบาลรักษาการจะทำงานดังกล่าวได้ไม่เต็มที่ การสั่งงานอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอยากจะให้มองกันว่าต่างคนต่างทำงาน รัฐบาลมีหน้าที่ทำงานก็ต้องทำงาน ส่วนกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยหรือนักวิชาการก็เสนอแนะวิธีกันไป รัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ
พปช.ยกมติพรรคหนุนสู้ต่อ
ที่พรรคพลังประชาชน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงสนับสนุนกรณีที่นายสมชายตัดสินใจไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ และยืนยันจะไม่ประกาศยุบสภาว่า การที่นายกฯ ไม่ยุบสภา ไม่ลาออกจึงไม่ใช่ดื้อด้านดึงดันแต่อย่างใด แต่การอยู่ในหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ทิ้งหน้าที่ทำให้การเมืองไทยอยู่ในภาวะเครื่องบินตกก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบที่สำคัญทางหนึ่ง และหากรัฐบาลดำเนิน 3 ภารกิจสำคัญ อีกทั้งการตั้งส.ส.ร. 3 เพื่อแก้ไขและยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปการเมืองรอบใหม่แล้วเสร็จ ก็จะเป็นการสร้างทางลงอย่างนุ่มนวล และการทำงานต่อก็เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับมติพรรคพลังประชาชนที่สนับสนุนให้นายกฯ อยู่ต่อ
ร.ท.กุเทพ เปิดเผยต่อว่า ส่วนที่กล่าวหาว่านายกฯ ไม่ลาออกเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นการสร้างจินตนาการเชื่อมโยง เช่นเดียวกับข้อกล่าวหาที่ว่าจะอยู่ช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ลี้ภัยในประเทศอังกฤษนั้นถือว่าไม่มีหลักอธิบาย อีกทั้งตนยังรู้สึกแปลกใจกับท่าทีของอาจารย์และศิษย์เก่าสถาบันนิด้า ที่ออกมาประณามหยามเหยียดนายสมชายมีการบอกว่าจะมีการถอดถอนออกจากศิษย์เก่านั้น รู้สึกว่าอาจารย์นอกจากจะไม่ให้กำลังใจลูกศิษย์แล้วยังจะมาเข่นฆ่าทำลายอีก และอยากฝากถึงผู้บริหารนิด้าว่าจะแสดงความคิดเห็นการเมืองก็ว่าไป แต่อย่ามาหลงเพลินกับตำแหน่งการเมืองที่เคยได้มา
“จาตุรนต์” สับทหารอย่ากดดัน
ที่โรงแรมเรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงว่า นายกฯจะลาออกเพราะการกดดันของ กองทัพไม่ได้ เพราะเท่ากับยอมรับในระบบผู้นำเหล่าทัพเป็นใหญ่ไม่ต่างจากพม่า ทั้งนี้คำพูดของพล.อ.อนุพงษ์ ตนไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือรู้เข้าใจแต่ไม่มีวิธีการพูดดีกว่านี้ จึงทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ซึ่งดูมีแนวโน้มมีปัญหาลุกลาม เพราะสื่อต่างประเทศ วิเคราะห์กันไปแล้วว่าเป็นการกดดันให้นายกฯออก ตนเห็นว่ายิ่ง ผบ.ทบ.พูดยิ่งต้องไม่ลาออก หากนายกฯ ลาออกเพราะถูกกดดันจะทำให้ชาวโลกเห็นว่าผู้นำเหล่าทัพสั่งให้ลาออกได้ ถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตยแต่เป็นเผด็จการ
นายจาตุรนต์ ยังกล่าวว่า การเมืองไทยขณะนี้มีจุดหักเห 2 ทางคือ 1.กลจากการยุบพรรคการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้น 2.ความขัดแย้งที่เกิดจากการชุมนุมของพันธมิตรฯ ส่วนที่ ผบ. ทบ.ระบุว่าหากเกิดกลียุคหรือนองเลือดจะไม่รัฐประหารแต่จะยุติการใช้อำนาจนั้น ที่ว่านองเลือดหมายถึงอะไร หากพันธมิตรฯ แทงตำรวจยิงตำรวจเพื่อสร้างเหตุให้ยึดอำนาจ กองทัพจะทำการยุติการใช้อำนาจของรัฐบาล จุดอ่อนของผบ.ทบ. ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่พันธมิตรฯ ทำก็ผิดกฎหมาย ทั้งการยึดทำเนียบฯ การขู่ฆ่าคนในสภา และถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีกท่านก็ไม่ได้บอกว่าเจ้าหน้าที่ควรทำอย่างไร ดังนั้นขอเสนอให้ทุกฝ่ายยึดกฎหมาย ไม่ต้องกลัวว่าทำถูกต้องแล้วกองทัพจะยึดอำนาจ เพราะประชาชนจะออกมาต่อต้าน แต่ขอให้ยึดสันติวิธีและไม่เห็นด้วยกับการจัดคนมาตอบโต้พันธมิตรฯ