สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินีนาถ พระราชทานดอกไม้ให้แพทย์ -พยาบาลที่รักษาที่รักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายม็อบ 7 ต.ค. รวม 8 โรงพยาบาล พร้อมพระราชทานดอกไม้เยี่ยมไข้ตร.ที่บาดเจ็บด้วย "พธม." เคลื่อนพลชุม นุมหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ "พิภพ ธงไชย" ระบุแค่แจกซีดีบันทึกเหตุการณ์วันสลายม็อบ "สล้าง บุนนาค" ลุยแจก "คู่มือหยุดปฏิวัติ" ที่บช.น. เผยผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ หัวใจวายตายกลางม็อบ
-พธม.นัดชุมนุมเซ็นทรัลเวิลด์
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า กลุ่มพันธมิตรฯ นัดชุมนุมวันที่ 20 ต.ค. ที่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ เพื่อแจกเอกสารและวีซีดีบันทึกเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ให้ประชาชนย่านดังกล่าวได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า พันธมิตรฯ ไม่เชื่อมั่นในคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่รัฐบาลตั้งขึ้น เพราะมีกระแสข่าวว่ามีความพยายามแทรกแซงโดยรัฐบาล ในการถอดกรรมการบางคนที่มีความตรงไปตรงมาออกไป พันธมิตรฯ มีความเชื่อถือกรรมการอิสระของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และกรรมการอิสระ ที่อาจตั้งขึ้นโดยรัฐสภาจากส.ส.และส.ว.ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลมากกว่า
-แค่แจกซีดีอย่างเดียว
"นายกรัฐมนตรีจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ แม้ว่ากรรมการจะชี้ว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งการ แต่ขณะที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น นายกรัฐมนตรีอยู่ที่รัฐสภาและได้ยินเสียงปืน แต่ไม่ได้สั่งการให้ตำรวจยุติการสลายการชุมนุม" นายพิภพกล่าว
นายพิภพ กล่าวว่า วันที่ 20 ต.ค.นี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ จะไปแจกซีดีเพียงอย่างเดียว ไม่เดินทางต่อไปชุมนุมที่อื่น และวันที่ 21 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะอ่านคำพิพากษาคดีการจัดซื้อที่ดินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือที่ดินรัชดาภิเษก ที่มีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นผู้ต้องหานั้น พันธมิตรฯ จะไม่เดินทางไปชุมนุมที่ศาล
-"สล้าง"แจกคู่มือหยุดปฏิวัติ
ที่บช.น. พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ นำใบปลิว "คู่มือหยุดการปฏิวัติ" จัดทำโดยกลุ่มพลังกู้วิกฤตชาติ โดยคู่มือดังกล่าวพิมพ์สี่สี แดง ขาว น้ำเงิน ขนาด เอ 4 มีรูปทหารและรถถัง พิมพ์ข้อความว่า "การปฏิวัติจะสำเร็จไม่ได้ ถ้าประชาชน สื่อสารมวลชนไม่ให้ความร่วมมือ รัฐบาล ตำรวจ ประชาชน ต้องมีความเข้มแข็ง การปฏิวัติที่ผ่านมาสร้างความเสียหายเป็นอย่างยิ่ง ไม่เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก พร้อมแนะนำวิธีการหยุดการปฏิวัติโดยให้ประชาชนใกล้เคียงที่ตั้งทหาร สถานีโทรทัศน์ และสถานีวิทยุ พาคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไปนอนหน้าประตูทางออกของหน่วย รถแท็กซี่ รถยนต์ จอดรถอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อให้รถติดแจ้งเหตุความเคลื่อนไหวให้ 191 สถานีตำรวจใกล้เคียง หรือวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ F.M. 92.25 Mz หรือ 107.5 Mz โทรศัพท์ 0-2642-8277, 0-2617-4044, 0-2642-8275 สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน F.M. 96.0 Mz สายด่วน 1667 สำนักข่าว INN ติดต่อ 0-2730-2400 และเมื่อเห็นรถทหาร กลุ่มทหาร ให้นำข้าวปลาอาหารไปให้" พร้อมทั้งบอกว่า "ขอร้องอย่าปล้นประเทศ เพราะบอบช้ำมากแล้ว" โดยให้นำใบปลิวนี้ไปติดข้างฝาบ้านใกล้โทรศัพท์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สล้าง ได้นำเอกสารดังกล่าวมาให้แจกจ่ายที่ บช.น.ในตอนค่ำ หลังจากแถลงข่าวปนน้ำตาไปเมื่อตอนบ่ายรอบหนึ่งแล้ว
-ปชช.มอบอาหารให้กำลังใจตร.
ที่บช.น. ร.ต.สถิตย์ ชัยเรือง อดีตข้าราชการบำนาญทหาร สังกัด ขส.ทบ. เดินทางมามอบเครื่องดื่มชูกำลังและกาแฟกระป๋องแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อย ปจ. ที่ถูกระดมมาเพื่อภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มผู้เรียกร้องทางการเมือง บอกว่า มาจากแจ้งวัฒนะ เพื่อนำเครื่องดื่มกาแฟกระป๋องมามอบให้ตำรวจ พอคนแถวบ้านรู้ก็ฝากเครื่องดื่มชูกำลังมาด้วย นอกจากนี้ ยังมีคนขับแท็กซี่ทราบ ยังฝากเงินค่าแท็กซี่ 120 บาท มาให้ตำรวจอีก เห็นใจผู้น้อย ตนเคยต้องมายืนเฝ้าแบบนี้สมัยตอนมีปฏิวัติ รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม ตำรวจทำตามกฎหมาย แต่ถูกด่าโดนสับโขก ยังรู้สึกแปลกใจว่า ทำไมตำรวจถึงไม่พูดบ้างว่า รถจี๊ปเชโรกี การ์ดม็อบที่โดนระเบิดว่าเป็นระเบิดของใคร ยิ่งมีหมอหน้าผีดิบออกมาพูดใส่ตำรวจอีก ตนไม่ศรัทธาเลย ตนเห็นว่าคราวนี้มันไม่ยุติธรรม พวกตนตาย ขาแข้งขาดตายอยู่ชายแดนอีสานมีใครไปเยี่ยมบ้าง แล้วอ้างว่ามากอบกู้สถาบัน ตนใจหายวูบ แบบนี้คนอื่นก็ไม่ได้รักษาปกป้องสถาบัน มันไม่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนเอาอาหาร ขนม เครื่องดื่มทยอยเดินทางมามอบให้ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ตลอดวัน
-ผู้ชุมนุมหัวใจวายกลางม็อบ
สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในช่วงบ่าย มีประชาชนเดินทางมาร่วมชุมนุมกันมากขึ้น หลังจากฝนที่ตกอย่างหนักในช่วงเช้าหยุดลง โดยบนเวทีปราศรัยยังคงมีการโจมตีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และส.ส.พรรคพลังประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 14.15 น. เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อนายสมฤกษ์ เกษมศุภการ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 ซอยจันทน์ 32 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมแล้วรู้สึกวิงเวียน จึงได้ไปพบแพทย์ที่เต็นท์พยาบาล ตรงถนนพิษณุโลก ซึ่งระหว่างรอพบแพทย์อยู่นั้น นายสมฤกษ์ได้ล้มฟุบลง สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับผู้ชุมนุมและกลุ่มแพทย์ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว จนกลุ่มแพทย์ได้เข้ามาช่วยเหลือปั๊มหัวใจและนำส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
กระทั่งเวลา 15.30 น. นายวีระ สมความคิด 1 ในแกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นประกาศบนเวทีว่านายสมฤกษ์ได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาลด้วยอาการหัวใจล้มเหลว จึงขอให้ผู้ชุมนุมได้ยืนไว้ อาลัยให้นายสมฤกษ์เป็นเวลา 1 นาที
เวลา 16.10 น. ที่กรมศุลกากร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มพันธมิตรจะดาวกระจายไปเซ็นทรัลเวิลด์และนปช. จะไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 20 ต.ค.ว่า ไม่อยากให้มีปัญหามาก เดี๋ยวนี้คล้ายกับว่าเป็นเรื่องการเมืองเสียมาก คนติดตามแต่ข่าวการเมืองทำให้การทำงานไม่มีสปีดเต็มที่ ตนมีโปรแกรมเรื่องการทำงานหลายอย่าง อยากจะขอร้องให้เห็นแก่ความสงบ อย่าทำอะไรที่ทำให้เกิดความไม่สงบ จริงๆ แล้วการชุมนุมของใครต่อใคร ตนพูดหลายครั้งแล้วว่าถ้าเป็นไปตามกฎหมายก็สามารถทำได้ แต่ให้ระวังให้อยู่ในกรอบ ตนทราบว่าทุกฝ่ายหวังดีกับบ้านเมืองแต่อยากให้ทำในทางที่บ้านเมืองไม่ถูกกระทบกระเทือนหรือประชาชนได้รับความกระทบกระเทือนด้วย
-"บุญยอด"ไม่ร่วมทำบุญสภา
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เชิญชวนให้ ส.ส.เข้าร่วมงานทำบุญที่รัฐสภาในวันที่ 20 ก.ย.นั้น ตนได้รับทราบจากข้อความสั้น หรือเอสเอ็มเอสผ่านทางโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ซึ่งตนคงไม่ขอเข้าร่วมพิธีดังกล่าว เพราะไม่ทราบว่าการทำบุญดังกล่าวมีความสำคัญอย่างไร หากทำบุญวางพานพุ่มตามพิธีปกติจะต้องแต่งกายด้วยชุดขาว แต่จากข้อความที่ส่งมาระบุเพียงว่าให้แต่งกายด้วยชุดสุภาพ ตนจึงไม่เข้าใจว่าเป็นการทำบุญตามประเพณีปกติ หรือทำบุญหวังที่จะให้การทำบุญครั้งนี้ลบล้างความผิดจากเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.หรือไม่ ที่ผ่านมาตนยังไม่เห็นว่านายชัย ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่ประธานสภาสามารถสั่งเลื่อนการประชุมออกไปได้ จึงขอเรียกร้องให้นายชัยแสดงความรับผิดชอบในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติด้วย
-ค้านเยียวยา"นปช."เท่ากับพธม.
ส่วนที่นายนที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหาย ระบุต้องชดเชยความสูญเสียทั้งเหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค. และเหตุการณ์ในวันที่ 29 ส.ค.ที่มีการสลายการชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ รวมทั้งเหตุการณ์ในวันที่ 2 ก.ย.ที่กลุ่มผู้ชุมนุมนปช. เคลื่อนไหวไปยังจุดที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมอยู่จนเกิดการปะทะกันทำให้นปช.เสียชีวิต 1 ราย โดยรวมทั้ง 3 เหตุการณ์มีผู้บาดเจ็บ 612 ราย และเสียชีวิต 3 รายนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะการกระทำของกลุ่มนปช.ชัดเจนว่ามีส.ส.พรรคพลังประชาชนเป็นผู้ควบคุม และมีรัฐมนตรีบางคนอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นจึงควรไปเรียกร้องการเยียวยาจากพรรคพลังประชาชนมากกว่า ไม่เช่นนั้นหากคณะกรรมการเยียวยาฯ ยืนยันที่จะรวมเหตุการณ์ทั้ง 3 ครั้งดังกล่าว ควรรวมเหตุการณ์ที่จ.อุดรธานี ที่กลุ่มนปช.ไล่ตีผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ จนมีผู้บาดเจ็บหลายรายเข้าไปด้วย
-ป้องกัปตันบินไทยไล่ส.ส.ลงเครื่อง
นายบุญยอด กล่าวว่า ในฐานะโฆษกกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ขอเรียกร้องต่อคณะกรรมการบอร์ดการบินไทย กรณีที่มีการลดขั้นนายจักรี พงษ์ศิริ กัปตันการบินไทย ที่ถูกระบุไล่ส.ส. พลังประชาชนลงจากเครื่องนั้น ขอให้รอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าในเครื่องบินลำดังกล่าวนั้นมีผู้โดยสารที่เป็นพันธมิตรฯ หลายรายประท้วง ส.ส.พลังประชาชน ทำให้กัปตันต้องออกมาควบคุมสถานการณ์โดยเชิญส.ส.พลังประชาชนลงจากเครื่อง จึงอยากให้บอร์ดการบินไทยนำภาพวงจรปิดมาพิสูจน์เหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น รวมทั้งรอให้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นเสียก่อนจึงลงโทษ โดยขอให้คณะกรรมการบอร์ดการบินไทยไม่ต้องเกรงกลัวต่อคณะกรรมการบอร์ดคมนาคม หรือกลุ่มส.ส.พลังประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว
-โพลชี้รัฐบาลสอบตก-เหตุสลายม็อบ
วันเดียวกัน นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่องสำรวจฐานสนับสนุนของ "กลุ่มคนคอการเมือง" ต่อพรรคการเมืองและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย หลังเกิดเหตุปะทะ 7 ต.ค. กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนใน 18 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ นครสวรรค์ สมุทรสาคร ระยอง ลพบุรี นครปฐม นนทบุรี ชลบุรี มหาสารคาม สุรินทร์ อุบลราชธานี นครราชสีมา พัทลุง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช จำนวน 3,667 ตัวอย่าง มีระยะเวลาดำเนินโครงการวันที่ 11-18 ต.ค.
หลังเกิดเหตุปะทะวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ผลสำรวจพบว่า คะแนนความสง่างามและความชอบธรรมของรัฐบาลโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.37 จากเต็ม 10 คะแนน และความพอใจต่อท่าทีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 4.60 และความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองจะเพิ่มขึ้นอีกเฉลี่ยอยู่ที่ 5.66 นอกจากนี้ยังพบว่า ร้อยละ 95.3 อยากเห็นคนไทยรักและสามัคคีกัน และร้อยละ 66.7 ยังคงเครียดต่อเรื่องการเมือง และร้อยละ 52.9 เห็นว่ามีความเคลือบแคลงสงสัยต่อท่าทีของรัฐบาลในการสลายการชุมนุมวันที่ 7 ต.ค. ส่วนทางออกของสถานการณ์การเมือง พบว่าร้อยละ 78.9 ระบุให้ยึดมั่นกระบวนการยุติธรรม หาคนผิดมาลงโทษ ร้อยละ 72.2 ให้หาคนกลางมาเป็นนายกฯ และจัดการเลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 63.4 ให้จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ขณะที่ร้อยละ 57.5 ระบุการแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งส.ส.ร.3
เมื่อถามถึงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ 7 ต.ค. พบว่าอันดับแรก ร้อยละ 51.2 ให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากรัฐบาล รองลงมาคือร้อยละ 33.5 ให้รับผิดชอบต่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทุกฝ่าย ร้อยละ 30.1 ระบุให้ลาออกหรือยุบสภา และร้อยละ 25.5 ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย หาคนผิดมาลงโทษ ขณะที่ร้อยละ 11.1 ระบุรัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ทั้งนี้ ประชาชนที่แนะให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจำแนกตามภูมิภาคพบว่า ภาคกลาง ภาคใต้และกทม. เกินกว่าครึ่งคือร้อยละ 53.3, ร้อยละ 79.1 และร้อยละ 54.4 ตามลำดับ ขณะที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 61.1 และร้อยละ 55.2 เห็นว่าไม่ควรถอนตัว
สำหรับมิติการเคลื่อนไหวของการเมืองภาคประชาชนคือ ฐานสนับสนุนต่อกลุ่มพันธมิตรฯ ผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 34.0 สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ ร้อยละ 34.8 ไม่สนับสนุน และร้อยละ 31.2 ขออยู่ตรงกลาง เมื่อจำแนกออกตามภูมิภาค พบว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ได้รับการสนับสนุนมากที่สุดในภาคใต้คือร้อยละ 61.9 ในภาคกลางร้อยละ 35.6 และในกทม.ร้อยละ 34.9 ขณะที่กลุ่มไม่สนับสนุนพันธมิตรฯมีมากที่สุดในภาคเหนือร้อยละ 46.6 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรืออีสานร้อยละ 39.1 ส่วนภาคกลางมีอยู่ร้อยละ 33.3 และกรุงเทพฯ มีอยู่ร้อยละ 33.0 ที่ไม่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เหลือขออยู่ตรงกลาง คือไม่เลือกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอีกร้อยละ 30 ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนไม่แตกต่างกันกระจายตัวอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ
-"ราชินี"พระราชทานดอกไม้ตร.บาดเจ็บ
รายงานข่าวเปิดเผยว่า เมื่อเย็นวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา และวันเดียวกันนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นางสนองพระโอษฐ์ นำกระเช้าดอกไม้ไปพระราชทานให้กับแพทย์พยาบาล ในโรงพยาบาล 8 แห่ง ที่ได้รักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายม็อบเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และยังได้โปรดเกล้าฯ ให้นางสนองพระโอษฐ์ ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
-พันธมิตรฯหวั่นเผชิญหน้า"นปช."
เวลา 19.10 น.ที่ด้านหลังเวทีพันธมิตรสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร ให้สัมภาษณ์ว่า จากสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ เท่าที่ทราบมีการเคลื่อนกำลังของกลุ่มนปช.ที่ผิดปกติโดยเคลื่อนไหวไปยังสถานที่ต่างๆ ในวันที่ 20-25 ต.ค. อาทิ ศาลฎีกา รัฐสภา บก.ทบ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติและท้องสนามหลวง เพื่อหวังผลสำคัญทั้งการพิจารณาคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และกดดันกองทัพไม่ให้ดำเนินการกับรัฐบาล ส่วนการเดินทางไปเซ็นทรัลเวิลด์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันที่ 20 ต.ค.นั้น แกนนำพันธมิตรฯ จะขอหารือกันอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปภายในคืนนี้ว่าจะไปหรือไม่เพราะไม่ต้องการเผชิญหน้าโดยเฉพาะกับกลุ่มนปช.
นายสุริยะใส กล่าวถึงการสอบสวนข้อเท็จจริง 7 ต.ค.ว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้สรุปเบื้องต้นว่าเกิดจากตำรวจ ส่วนจะยึดโยงไปฝ่ายการเมืองหรือไม่ ขณะนี้กรรมการสิทธิฯ กำลังตรวจสอบอยู่ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันมาไกลเกินกว่ากองทัพจะนิ่งเฉย ขอเรียกร้องทหารกล้าที่จะคิดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ตนไม่เห็นด้วยหากทหารจะออกมาปฏิวัติรัฐประหาร เพราะไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นและควรคิดกรอบให้ไกลกว่านี้คือการยึดอำนาจแล้วคืนอำนาจให้ประชาชน ไม่ควรบริหารจัดการเองเหมือนเมื่อก่อน