สล้างซึ้งรํ่าไห้ ตร.แห่ลาออก


เพื่อทวงทำเนียบฯ 3ต้องสงสัยซุกปืน

“สล้าง” เชิญชวนชาวไทยแต่งชุดขาว ร่วมงาน “กู้วิกฤติชาติ” ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า 22 ต.ค.นี้ นิมนต์พระสงฆ์กว่าหมื่นรูปสวดเจริญพุทธมนต์ ระบุเพื่อลดความขัดแย้งในสังคม เผย “อดีตรองอ.ตร.” ถึงกับซึ้งใจร่ำไห้ รู้ข่าวจะมีตร.นับพันนายสมัครใจลาออก มาช่วยทวงคืนทำเนียบ ขณะที่ “บักใส” โต้อดีตบิ๊กสีกากี หวั่นใจเกิดปะทะนองเลือดอีก “มหาจำลอง” จวกยับนายกฯ เอาข้ออ้างงานสำคัญมาใช้เกาะเก้าอี้ ชี้ผลการสอบ “7 ตุลา” กก.สิทธิฯสรุปชัดแล้ว “เสธ.แดง” แฉหากเกิดปฏิวัติ กลุ่มนปก.เตรียมลุย ใช้ระเบิดเพลิงปาสู้รถถัง ส่วนตำรวจดุสิต รวบ 3 หนุ่ม ขับรถตรวจรอบทำเนียบ ปฏิเสธลั่นไม่เกี่ยวพันธมิตรฯ ทั้งที่ใส่ธงเหลือกู้ชาติ ล่าสุดออกหมายจับแล้ว มือขับปิกอัพไล่ทับตร.ปราบจลาจล ด้านม็อบมือตบสงขลา ตามราวี “รมช.คลัง” รู้ข่าวเข้ามาทำงานในพื้นที่ แห่ไล่ส่งถึงสนามบินหาดใหญ่ แกนนำพธม. 14 จว.ภาคใต้ ประกาศกร้าว ขู่ระดมพล 3 หมื่นบุกเข้ากรุง

ความเคลื่อนไหวกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังจากออกไปดาว กระจายป่วนเมืองที่บริเวณถนนสีลม เพื่อแจกจ่ายซีดีและหนังสือเหตุการณ์ “7 ตุลา” ระบุว่า ตร.ฆ่าประชาชน จากนั้นกลับมาปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบฯ ส่วนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่ง ชาติ แถลงผลสรุปเบื้องต้นการตรวจสอบข้อเท็จจริงวันที่ 7 ต.ค.ว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล ดังนั้นรัฐบาลในฐานะผู้สั่งการและสตช.ผู้ปฏิบัติตามคำสั่งต้อง รับผิดชอบ ขณะที่ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนาย สนธิ ลิ้มทองกุล ข้อหาหมิ่นประมาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

รวบ3หนุ่มกู้ชาติพกอาวุธ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 01.45 น.วันที่ 18 ต.ค. ร.ต.ท.ทองเปลว หาญไพบูลย์ รอง สวป.สน.ดุสิต พร้อมกำลังสายตรวจตั้งด่าน ตรวจความเรียบร้อย บริเวณข้างสวนสัตว์ดุสิต ถนนราชวิถี แขวง-เขตดุสิต พบรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นจีวากอน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน พห 5558 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมาจึงขอเข้าตรวจค้น พบ นายบุญมี ชัยเสถียรทรัพย์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210/19 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงบางโคล่ เขตดินแดง เป็นคนขับ มีนายวิรัช โพธิ์สวัสดิ์ อายุ 46 ปี และนายศิวกรณ์ แววนกงาม อายุ 38 ปี นั่งมาในรถด้วยซึ่งทั้งสองคนใส่เสื้อสีดำ ชุดลายพรางทหาร และมีผ้าพันคอสีเหลืองของพันธมิตรฯ

จากการตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 1 กระบอก และลูกกระสุนในแมกกาซีน 5 นัด ซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้พื้นวางเท้าด้านหลังคนขับ นอกจากนั้นยังพบมีดพก 1 เล่ม หนังสติ๊ก 2 อัน ลูกกระสุนมีทั้งเป็นนอตเหล็ก หัวตะกั่ว และลูกแก้วจำนวนมาก กระบองเหล็ก 1 อัน หน้ากาก 2 อัน กระเป๋าเป้ 2 ใบ และบางคนมีผ้าพันคอสีเหลือง “กู้ชาติ” จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนมาสอบสวนที่โรงพัก

หิ้วตัวส่งฝากขังศาลทันควัน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายศิวกรณ์ ที่พกบัตรสื่อมวลชน ออกโดยกรมประชาสัมพันธ์ อ้างว่าทำข่าวอาชญากรรมของหนังสือสื่อรัฐและทำหน้าที่เป็นการ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ ขับรถ ออกตระเวนรอบ ๆ ทำเนียบฯเพื่อรักษาความปลอดภัยตามปกติ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ขอเข้าตรวจค้น อย่างไรก็ดีภายหลังตำรวจเรียกไปสอบปากคำ ให้การว่าไม่ได้เป็นการ์ดพันธมิตรฯและไม่ยอมพูดอะไรอีก รวมทั้งปฏิเสธว่าอาวุธที่พบไม่ทราบว่าเป็นของใคร เบื้องต้นตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นช่วงสายทางพนักงานสอบสวนนำทั้ง 3 คนส่งไปยื่นเรื่องขออำนาจศาลฝากขังที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ โดยญาติของนายศิวกรณ์ นำเงินสด 1.5 แสนบาทมายื่นขอประกันตัวออกไป ส่วนนายบุญมี และนายวิรัช ถูกส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

“มหา”ไล่บี้นายกฯออก

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงท่าทีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯที่ประกาศไม่ลาออกและจะเดินหน้าทำงานต่อว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เหนือความคาดหมายของพันธมิตรฯ และไม่ได้แปลกใจที่รัฐบาลจะอยู่เพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง ซึ่งพันธมิตรฯ ยังคงจุดยืนเดิมที่จะขับไล่รัฐบาลต่อไป โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงก็จะแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับทราบ อย่างไรก็ตามการที่รัฐบาลบอกจะอยู่ต่อเพื่อต้องทำงานสำคัญอยู่ 3 เรื่องให้แล้วเสร็จนั้นถือเป็นข้ออ้างมากกว่า โดยหากนายกฯลาออกงานต่าง ๆ ก็ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะเป็นงานของข้าราชการประจำ ดังนั้นใครเข้ามาเป็นนายกฯก็สามารถทำงานต่อได้เลย

“ไม่เชื่อคุณสมชาย ลองลาออกดูว่า คนอื่นที่เข้ามาเป็นนายกฯจะทำได้หรือไม่ ถือ ว่าเป็นโชคไม่ดีของประเทศไทยที่มีรัฐบาลแบบนี้ เพราะหากเป็นประเทศอื่นรัฐบาลลาออกไปนานแล้ว ถือว่าเป็นการไม่มีหิริโอตตัปปะ ไม่มีจริย ธรรม” พล.ต.จำลองกล่าว

ผลสอบกก.สิทธิฯระบุชัด

พล.ต.จำลอง ยังกล่าวอีกว่า ระหว่างนี้พันธมิตรฯ จะยังไม่มีความเคลื่อนไหวในการเพิ่มระดับความเข้มข้นในการกดดันรัฐบาล เพราะจะต้องมีการหารือประเมินสถานการณ์ระหว่างแกนนำก่อน ว่าจะไปกดดันที่ไหนในรูปแบบใด ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่านายกฯจะปลดผู้บัญชาการทหารบกนั้น ตนไม่ทราบกระแสข่าวดังกล่าวแต่เห็นว่านายกฯในฐานะที่เป็น รมว. กลาโหม ก็สามารถทำได้แต่ต้องดูว่ากล้าทำหรือไม่ซึ่ง ผบ.ทบ. เองก็ต้องยอมรับในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา แต่เชื่อว่าก่อนที่ทหารจะออกมาเรียกร้องให้นายกฯลาออกนั้นก็คงมีการคิดมาดีแล้ว และหากนายกฯยังไม่ลาออกก็คงมีวิธีอื่นที่คิดไว้แล้วเช่นกัน ทั้งนี้พันธมิตรฯคงไม่เข้าไปเรียกร้องให้ทหารออกมาดำเนินการใด ๆ เนื่องจากไม่เป็นประโยชน์ เพราะทหารเชื่อแต่ความคิดของตัวเองไม่เชื่อพันธมิตรฯ

เมื่อถามว่า นายกฯแถลงว่าให้รอผลสอบของคณะกรรมการอิสระสรุปออกมาก่อนว่าใครผิด พล.ต.จำลอง ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องรอคณะกรรมการชุดดังกล่าวสรุปผลออกมา เพราะขณะนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้สรุปรายละเอียดเหตุสลายการชุมนุมแล้วว่าผิดเพราะอะไร ซึ่งรัฐบาลก็น่าจะรับผิดชอบได้แล้วไม่ใช่ไปรอคณะกรรมการชุดที่ตัวเองตั้ง อีกทั้งคณะกรรมการสิทธิฯก็มีความน่าเชื่อถือเรื่องของความเป็นกลาง

ไม่เห็นด้วยตั้ง“ส.ส.ร.3”

นอกจากนี้พล.ต.จำลอง ยังได้กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อเป็นทางออก ของประเทศว่า ไม่เห็นด้วยกับการตั้ง ส.ส.ร.3 ที่ตั้งมาโดยรัฐบาลคิดว่าไม่ได้มีความเป็นอิสระ และเมื่อไม่เป็นอิสระก็ถือว่าไม่ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นกลางตามที่ประชาชนคาดหวัง ตนเชื่อว่าการตั้ง ส.ส.ร.3 จะไม่เป็นผลเนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการติดต่อผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้มาเป็นประธาน ส.ส.ร.3 แต่ก็ได้รับการปฏิเสธหมด อย่างไรก็ตามทางพันธมิตรฯจะยังรอดูไปก่อนว่า ส.ส.ร.3 จะเดินหน้าอย่างไร แล้วทางกลุ่มพันธมิตรฯค่อยมาหารือกันว่าจะแสดงท่าทีอย่างไร

ห้ามนำเข้าสื่อเครือมติชน

ส่วนบรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ได้นำวีซีดีภาพเหตุการณ์ 7 ตุลา พร้อมด้วยหนังสือ ตำรวจฆ่าประชาชนอย่างละ 500 ชุดมาแจก ผู้ชุมนุมแต่ก็ไม่เพียงพอ แกนนำต้องสั่งให้ไปรีบนำมาเพิ่ม พร้อมนำตู้มาวางเพื่อรับบริจาค จำนวน 3 ตู้ ประกอบไปด้วย 1.ตู้รับบริจาคช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต 2.ตู้บริจาคแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และ3.ตู้บริจาคให้ทางเอเอสทีวี ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริเวณประตูทางเข้าทำเนียบฯ ฝั่งสะพานอรทัย มีการนำป้ายเขียนข้อความว่า ห้ามนำหนังสือในเครือมติชนเข้ามาในสถานที่ชุมนุมอย่างเด็ดขาด

กก.สอบ“7ตุลา”ลุยทำงาน

ด้านนายปรีชา พานิชวงศ์ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสรรหาบุคคลที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพเป็นอนุกรรมการ 5 คณะเพื่อช่วยตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงในแต่ละด้าน เนื่องจากคณะกรรมการชุดของตนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องมีอนุกรรมการแบ่งเบาภาระการทำงานซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะ แต่ยืนยันว่าจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ในการสอบสวนนั้นจะพยายามหาความจริงให้มาก โดยไม่ได้กะเกณฑ์ว่าต้องเป็นคนของฝ่ายไหน หากต้องมีการสอบสวนบุคคลจำนวนมากก็คงไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จภายใน 20-30 วัน

โต้นายกฯกำหนดเวลาไม่ได้

เมื่อถามว่านายสมชาย นายกฯระบุว่าได้หารือกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯแล้วจึงเชื่อว่าภายใน 15 วันคณะกรรมการฯจะรายงานผลให้ทราบได้ นายปรีชา กล่าวว่า ระยะเวลาแค่ 15 วันจะเป็นไปได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้นายกฯไม่เคยมาหารือกับตน การทำงานของตนจะมากำหนดกรอบเวลาไม่ได้ เพราะการตรวจ สอบข้อเท็จจริงต้องทำอย่างรอบคอบและใช้เวลา การที่ตนรับเป็นประธานชุดนี้ก็เพราะอยากทำ ความจริงให้ปรากฏซึ่งใครก็มาสั่งไม่ได้ ยืนยันตนจะไม่เอาชื่อเสียงที่สั่งสมตลอดชีวิตมาเสียหายเพราะเรื่องนี้แน่นอน ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 3 พ.ย.

ปชป.แฉคน“ระบอบทักษิณ”

ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกรรมการสอบสวนชุดนี้มีหลายคนที่อยู่ใน “ระบอบทักษิณ” อาทิ นายยุวรัตน์ กมลเวชช ที่เคยเป็นประธานบริษัท ไอบีซี. ซึ่งเคยเป็นคนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จากนั้นนายยุวรัตน์ ก็มาเป็นกกต.ต่อมาได้เป็นที่ปรึกษาของนายทนง พิทยะ รมว.คลังในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และมาเป็นประธานคณะกรรม การศึกษาและเสนอแนะมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ บริหารจัดการระบบการเงินของประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ (ศปร.3) ชี้ให้เห็นว่านายยุวรัตน์ เป็นคนในระบอบทักษิณโดยแท้แล้วจะหาความเป็น กลางได้อย่างไร ถ้านายกฯต้องการปลดล็อกการเมืองเพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นควรตัดสินใจโดยเร็ว เพราะประเทศชาติไม่ควรมาเสียเวลา กับเรื่องเหล่านี้อีกแล้ว

มือตบสงขลาไล่“ประดิษฐ์”

ด้านกลุ่มพันธมิตรฯสงขลา กว่า 100 คนพร้อมอุปกรณ์มือตบเดินทางไปรวมตัว ที่หน้าบ้านพักของ นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.เขต 1 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา เพื่อขับไล่ นาย ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง หลังจากที่ทราบข่าวว่านายประดิษฐ์ พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.สงขลา ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 17 ต.ค. เข้าพักที่โรงแรมบีพีสมิหลาบีช โดยเดินทางไปปฏิบัติราชการตรวจสถานที่ก่อสร้างด่านศุลกากร อ.สะเดา และด่านศุลกากรบ้านประกอบ อ.นาทวี รวมทั้งจะเดินทางมารับประทานอาหารเที่ยงที่บ้านของนายเจือ ก่อนจะไปเป็นประธานในพิธีทอดกฐิน ที่วัดประตูชัย อ.สิงหนคร แต่เมื่อทราบว่ามีกลุ่มพันธมิตรฯมาชุมนุมขับไล่จึงยกเลิกกำหนดการ

ตามเล่นงานถึงสนามบิน

อย่างไรก็ดีพันธมิตรฯส่วนหนึ่งติดตามไปดักนายประดิษฐ์ ขณะเดินทางไปรอขึ้นเครื่องที่สนามบินหาดใหญ่ เที่ยวบิน TG 1234 หาดใหญ่-ดอนเมือง เวลา 16.15 น. แต่คลาดกันเล็กน้อยเพราะมีตำรวจมาพานายประดิษฐ์ ออกจากห้องรับรองพิเศษไปยังห้องรอขึ้นเครื่องก่อนแล้ว ส่วนผู้ที่ต้องเจอมือตบไล่กลับกลายเป็น พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หน.พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่เดินทางมาพร้อมคณะกำลังจะเดินไปยังห้องรอขึ้นเครื่องพอดี ทำให้พล.อ. เชษฐา ถึงกับตกใจเล็กน้อย

ระดมพธม.14จว.ใต้เข้ากรุง

นายสุนทร รักษ์รงค์ แกนนำพันธ มิตรฯ ชุมพร และผู้ประสานงานพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า พันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้มีมติร่วมกันในการระดมสมาชิกจาก 14 จังหวัดภาคใต้เดินทางเข้าร่วมชุมนุม กับพันธมิตรฯ ส่วนกลางที่ทำเนียบรัฐบาลใน วันที่ 20 ต.ค.นี้ คาดว่าจะมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน วัตถุประสงค์ 3 ข้อคือ 1.เพื่อกดดันรัฐบาลให้รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 7 ต.ค. 2.เพื่อรับมือกับ นปช.ที่ระดมพลเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวงในวันที่ 21 ต.ค. และ 3.เพื่อเรียกร้องให้กองทัพไทยประกาศให้ชัดเจนว่าจะยืนอยู่ข้างประชาชนที่ได้รับการปฏิบัติจากรัฐบาลอย่างไร้มนุษยธรรมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา

“สล้าง”ทำบุญกู้วิกฤติชาติ

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ บช.น. พล.ต.อ. สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ พร้อมผศ.ดร.เมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ ผู้ประสานงาน กลุ่มองค์กรชาวพุทธ และพระครูสังฆพินัย เลขานุการองค์กรชาวพุทธ และคณะได้เดินทางมาเปิดแถลงข่าวถึงเรื่อง ทางกลุ่มพลังกู้วิกฤติชาติ (กพช.) ร่วมกับองค์กรชาวพุทธจัดกิจกรรม การเจริญพระพุทธมนต์ “กู้วิกฤติชาติ” วันที่ 22 ต.ค. เวลา 13.00 น. ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า รูปแบบกิจกรรมนอกจากจะมีการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ทั่วประเทศจำนวน 1 หมื่นรูปแล้วยังมีการบรรยายธรรมเพื่อสร้างความสามัคคีในสังคมไทย พร้อมทั้งเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมงานให้แต่งกายชุดขาวมาได้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ประเทศชาติ

ซึ้งใจตร.จะลาออกมาช่วย

พล.ต.อ.สล้าง กล่าวว่า สังคมของเราวันนี้เต็มไปด้วยความแตกแยก พระท่านก็เมตตาจะมาช่วยแก้ไขปัญหา อยากเชิญชวนพี่น้องมาร่วมงานกันมาก ๆ โดยไม่มีการแบ่งฝ่าย และ ยืนยันว่าเราจะจัดงานแค่ลานพระบรมรูปฯ เท่านั้นจะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯเด็ดขาด ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างแถลงข่าวช่วงท้าย พล.ต.อ.สล้าง ร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตันใจบอกว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้โทรศัพท์มาบอกว่า ขณะนี้มีตำรวจกว่า 1,000 นายสมัครใจพร้อมที่จะลาออกจากราชการเพื่อมาร่วมกู้วิกฤติชาติยึดทำเนียบรัฐบาลคืนมาให้พี่น้องชาวไทย และฝากถึงสื่อมวลชนเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาด้วย ขณะนี้ตนได้เขียนพินัยกรรมให้ลูก ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อเตรียมกอบกู้วิกฤติชาติ

“เสธ.แดง”ปูดนปก.กล้าสู้รถถัง

ด้านพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุ 100.5 ถึงกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารของกองทัพว่า ที่ผ่านมาตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติถึง 3 ครั้ง ล่าสุดผบ.ทบ.และ ผบ.สส.ซึ่งเป็นเพื่อนของตน แต่งเครื่องแบบเต็มยศออกรายการทีวีซึ่งเหมือนกับการปฏิวัติ และทั้ง 4 คนที่แต่งเครื่องแบบออกมานั้นเป็นการกดดันรัฐบาลให้ลาออกเป็นการข่มขู่นายกฯ การกระทำเช่นนี้เขาคิดที่จะ “ปฏิวัติเงียบ” เพราะหากทำปฏิวัติที่โฉ่งฉ่างจะน่าเกลียด แต่นายกฯไม่กลัวเพราะเขาเป็น รมว.กลาโหมจึงไม่ลาออก และหากทหารออกมาปฏิวัติก็มีข่าวว่า กลุ่มเสื้อแดง นปก.ที่ไม่ชอบทหารเขาเตรียมพร้อมจะเผารถถัง โดยเอาน้ำมันเบนซินผสมโซลาใส่ขวดแล้วปาเข้าไป ซึ่งต่างประเทศเขาทำกัน แต่ประเทศไทยยังไม่เคยทำ

ไม่เลิกแผนทวงคืนทำเนียบ

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ประชาชนมองทหารคิดจะปฏิวัติ ไม่ว่าจะรับใบสั่งใครมาก็ตามเพื่อไล่รัฐบาล ครั้งที่แล้วที่ทหารปฏิวัติมีคนมอบดอกไม้ให้ แต่ครั้งนี้ถ้าทหารปฏิวัติอีกครั้งประชาชนอาจวิ่งมาพร้อมขวดเบียร์ใส่ไฟและปาเข้าไปในรถถัง ส่วนแผนการยึดทำเนียบคืนนั้นยังคงใช้แผนเดิมคือ ใช้การปิดล้อม การตัดน้ำ ไฟ ใช้ลวดหนามล้อม 2 ชั้นตามถนน 7-8 ช่องทาง โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งตนจะยิงสายไฟ ระเบิดน้ำประปา ฉีดน้ำจากรถสุขาเข้าไป

นปช.เชียงใหม่หนุนช่วยรัฐ

ที่จ.เชียงใหม่ นายพรหมศักดิ์ แสนโพธิ์ ประธานสหพันธ์คนรากหญ้า จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มกรณีผู้นำเหล่าทัพออกมาพยายามบีบให้นายสมชาย นายกฯและรมว.กลาโหม ลาออกและยุบสภานั้น ทางกลุ่มขอให้กำลังใจและสนับสนุนให้นายกฯรวมไปถึงคณะ รัฐมนตรีทั้งหมดทำงานต่อไป แต่ขอประณามทหารการกระทำดังกล่าวทางกลุ่มถือว่าเป็นการใช้วาจาในการปฏิวัติซึ่งเป็นการกระทำไม่ถูกต้อง เราจะไม่ยอมให้ระบบทหารมามีอำนาจเหนือระบอบประชา ธิปไตยของพี่น้องประชาชน

ด้านนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ผู้ประสานงานรักเชียงใหม่ 51 หรือ นปช.เชียงใหม่ กล่าวเสริมว่า ความคิดเห็นของแต่ละคนเป็นสิ่งที่คิดและพูดออกมาได้ แต่การแสดงตนในฐานะผู้นำทหารแล้วออกมาชี้นำประเทศเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ทางกลุ่มยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลของพรรคพลังประชาชน และสนับสนุนตัวนายกฯ หากมีการปฏิวัติขึ้นมาทางกลุ่มจะรวมพลไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคนบุกกรุงเทพฯทวงประชาธิปไตยคืนทันที

ออกหมายจับขับรถไล่ชน ตร.

ด้านพ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก. สส.น.1 เปิดเผยความคืบหน้ากรณีพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้นำหลักฐานภาพถ่ายและภาพบันทึกเทปวิดีโอ เหตุการณ์รถยนต์ปิกอัพโตโยต้า 4 ประตู ทะเบียน วพ 1968 กรุงเทพมหานคร ถอยทับและพุ่งเข้าชนกลุ่ม ตร.ปราบจลาจล บริเวณถนนราชวิถี ใกล้แยกอู่ทองใน เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายนาย เสนอต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับนายปรีชา ตรีจรูญ อายุ 51 ปี ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ล่าสุดศาลอาญา มีความเห็นให้ออกหมายจับ เจ้าหน้าที่จึงไปติด ตามหาตัวนายปรีชา พบว่าได้รับบาดเจ็บถูกส่งไปรักษาตัวอยู่ที่ รพ.รามาธิบดี แต่ออกจากโรง พยาบาลไปแล้ว จึงได้ส่งสายสืบไปเฝ้าประกบตามที่ต่าง ๆ และบ้านพักแล้ว

ส่วนการติดตามตัวนายสุชาติ นาคบางไทร ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ได้ส่งกำลังตำรวจทั้งชุดสืบสวน ไปเฝ้าที่บ้านพักและตามบ้านญาติแล้วแต่ยังไม่เจอตัว

“ใส”ชี้อดีต ตร.หวังนองเลือด

ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการชุมนุมช่วงหัวค่ำ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สล้าง อดีต รอง อ.ตร. จะจัดทำบุญที่ลานพระบรมรูปทรงม้าว่า คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเผชิญหน้าและปะทะกัน ตนอยากถามกลับไปยัง พล.ต.อ.สล้าง ต้องการอะไรหรือต้องการที่จะให้ประชาชนเกิดการทะเลาะวิวาท เราในฐานะพันธมิตรฯก็มีสิทธิที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินมวลชนของพวกเรา เพราะต้องยอมรับว่าหากมาจัดงานบริเวณดังกล่าวก็คงเลี่ยงไม่พ้นอยู่แล้วที่จะเกิดการนองเลือด อีก ทั้งแกนนำก็ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะไปควบคุมฝูงชนนับหมื่นนับแสนได้ ดังนั้น พล.ต.อ.สล้าง อย่าพยายามสร้างเงื่อนไข เพราะภาพในขณะนี้ พล.ต.อ.สล้าง ก็เหมือนเป็นนอมินีให้มาปราบปรามประชาชน

เดินหน้าสร้างการเมืองใหม่

นายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวหลังการประชุมสัมมนาเรื่อง “การเมืองใหม่” ครั้งที่ 5 ว่า ที่ประชุมข้อสรุปในเรื่องการศึกษาว่าการเมืองใหม่จะส่งเสริมให้เรียนฟรีตามความต้องการของประชาชน โดยเนื้อหาหลักสูตรนั้นจะเน้นที่การปลูกจิตสำนึกให้รักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้มีการศึกษาวิชาชีพที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น การเมือง ใหม่จะไม่มีการบรรจุครูใหม่แต่จะใช้ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาอาชีพในท้องถิ่นเป็นผู้สอนแทน และยกระดับการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเท่าเทียมกันทุกแห่งทั่วประเทศ ส่วนรัฐวิสาหกิจในการเมืองใหม่จะต้องยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ ปี 42 พร้อมทั้งทวงคืนรัฐวิสาหกิจที่แปรรูปไปก่อนหน้านี้ทั้ง ปตท.หรือ กสท และจะตั้งกระทรวงรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้พันธมิตรฯจะประชุมสัมมนาการเมืองใหม่เป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 22 ต.ค.

สื่อหาช่องยุติความรุนแรง

ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดเวที ราชดำเนินเสวนาหัวข้อ “บทบาทสื่อกับการยุติความรุนแรง” โดยมีการเชิญบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และอดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย มาร่วมเสวนา เพื่อช่วยหาทางออกให้กับสังคมที่กำลังมีความแตกแยกอย่างน่ากลัว โดยมีการเสนอให้สื่อมีส่วนร่วมช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคม แม้จะถูกบีบคั้นอย่างไรก็ต้องปลดแอกจากความกลัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการยับยั้งไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ ที่สำคัญการยุติความรุนแรง คือ ต้องเสนอข่าวรอบด้านเป็นกลางสมดุล เปิดพื้นที่ข่าวให้พลังเงียบได้มีโอกาสเข้ามานำเสนอเพื่อคัดค้านการใช้ความรุนแรง

นอกจากนี้ยังมีการเสนอนำสื่อค่าย ต่าง ๆ มารวมกันเพื่อให้เกิดการพบปะพูดคุย ให้เกิดสติ ใช้ความคิดร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนแก้วิกฤติแทนที่จะใช้อารมณ์ ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเสนอข่าวรอบด้าน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้แสดงข้อเท็จจริง การเสนอ ความจริง คือ หลักสำคัญ ถ้ารายงานความจริงให้สังคมตัดสินเป็นทางออกที่ดีที่สุด.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์