ม็อบหนุนเชียร์ "สมชาย" สู้ๆอย่าลาออก "นายกฯ"ได้ทีลั่นไม่มีใครมีอภิสิทธิ์เหนือใคร ยืนยันมาตามกติกา เจอถามข่าวเคลียร์ ผบ.ทบ.ปิดปากสนิท โฆษกทบ.บอก "อนุพงษ์"พูดไปแล้ว
ม็อบตะโกนนายกสู้ๆไม่ต้องลาออก
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชน จ.อุบลราชธานี ระหว่างไปเป็นประธานเปิดงานการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2551 ที่ทางนางรจนา กัลป์ตินันท์ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี จัดขึ้นที่ลำน้ำมูล อ.เมือง เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม
นายสมชายที่ประกาศจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป ภายหลังผู้บัญชาการ 4 เหล่าทัพ หรือ ผบ. 4 เหล่าทัพ ออกมาเรียกร้องให้ลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เดินทางไปร่วมงานครั้งนี้เมื่อเวลา 10.30 น. พร้อมคณะ อาทิ นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศรีเมือง เจริญศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ส.ส.พรรคพลังประชาชน (พปช.) จาก จ.อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง
ทั้งนี้ ทันทีที่ขบวนรถนายสมชายถึงบริเวณงาน นายสมชายและคณะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนกว่า 5,000 คน โดยมีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. อุบลราชธานีนับพันคน ตั้งแถวและถือป้ายต้อนรับให้กำลังใจ พร้อมเปล่งเสียงร้องพร้อมกันว่า นายกฯสู้ๆ ไม่ต้องลาออก ทำงานต่อไป ดังลั่นเป็นระยะๆ ระหว่างทางเดินเข้าร่วมงานมีทั้งผู้มอบดอกไม้ มัดผ้าขาวม้ารอบเอวและห้อมล้อมนายสมชายจนแทบจะเดินไม่ได้
ลั่น"ไม่มีใครมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น"
ต่อมานายสมชายกล่าวระหว่างเปิดงานว่า "มีคนว่าการบ้านการเมืองมีปัญหา การเมืองมันยุ่ง รัฐบาลทำงานไม่ได้แล้ว ต่างพากันกล่าวหาวิพากษ์วิจารณ์กันไป เรื่องการเมืองเป็นเรื่องของคนทุกคน แต่ระบอบที่ทำอยู่นี้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมองให้เห็นถึงแสงสว่าง คือ ความอยู่รอดของบ้านเมือง ความสุข การกินดีอยู่ดี หรือความรักสามัคคี ที่บ้านนี้เมืองนี้ต้องการ ผมได้ยึดหลักเหล่านี้ในการบริหารกิจการบ้านเมือง เดินทางมาอุบลราชธานี ไม่ผิดหวังที่มีประชาชนจำนวนมากมาให้กำลังและแต่ละคนมีความสุข ชาวอุบลฯเป็นคนมีน้ำใจเป็นนักกีฬารู้แพ้รู้ชนะ เลือกตั้งแล้วชนะก็ชนะ แพ้ก็ยอมรับว่าแพ้ ยอมรับกติกา ผมเองขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ผมเคารพกฎหมาย กติกา กระบวนการทุกอย่างของกฎหมาย ไม่ทำอะไรที่ผิดและนอกเหนือกฎหมาย"
นายกฯกล่าวว่า "จะไม่สนับสนุนคนทำผิดกฎหมาย การแข่งเรือเป็นเรื่องของความสามัคคี เป็นเรื่องที่ตรงกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้คนไทยรักสามัคคีกัน ปรองดองกลมเกลียวกันเพื่อความสุขของทุกคน รัฐบาลเองมีคนสนับสนุน แต่ทุกคนคือหุ้นส่วนของประเทศไทย ไม่มีใครมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นแม้แต่คนเดียว ผมประทับใจเป็นอย่างมากตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบลง จังหวัดอุบลฯวันนี้จะลืมทุกอย่างที่เป็นสิ่งไม่ดี"
ยอมไม่ได้พวกแพ้แล้วก่อกวน
นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี กลุ่มเพื่อนเนวิน พปช. เปิดเผยว่า ได้รอต้อนรับนายสมชาย ร่วมกับ ส.ส.ภาคอีสานในหลายจังหวัด อาทิ จ.ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กว่า 30 คน โดย ส.ส.พปช.พูดคุยพร้อมให้กำลังใจนายกฯให้ทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองต่อไป
นายกรัฐมนตรียืนยันกับพวกผมว่าจะขออยู่ทำงานต่อไปเพราะเรามาด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งหาก ส.ส.มีทางออกอะไรก็ขอให้บอกมา นายกฯเปรียบเทียบให้ฟังว่า การเมืองก็เหมือนกับการแข่งขันเรือยาว ที่จะต้องมีน้ำใจเป็นนักกีฬา เมื่อแพ้แล้วก็ต้องกลับไปฝึกซ้อมเพื่อกลับมาแข่งขันใหม่ แต่ถ้าชนะก็ทำงานต่อ ไม่ใช่แพ้แล้วยังมาก่อกวนอยู่อย่างนี้มันไม่ได้ ท่านบอกกับพวกเราด้วยว่าถ้าใครมีหน้าที่ทำอะไรก็ทำไป ผู้แทนก็ทราบดีว่าเราจะต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชน ไปช่วยชี้แจงกรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้รับทราบความจริง สำหรับกลุ่มเพื่อนเนวิน ก็ยืนยันที่จะสนับสนุนนายสมชายให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป นายชูวิทย์กล่าว
นายกฯไม่ตอบปมเคลียร์ผบ.ทบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางเข้าร่วมงานแข่งขันเรือยาวที่ จ.อุบลฯครั้งนี้ คณะของนายสมชายเช่าเครื่องบินเหมาไปลงที่สนามบินทหารอากาศกองบินที่ 21 กองพลบินที่ 2 มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหารและตำรวจ ต้อนรับ โดยมีตำรวจปราบจลาจลกว่า 200 นาย พร้อมรถควบคุมผู้ต้องขังเตรียมพร้อม 2 คัน เตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก่อนนายกฯเดินทางด้วยรถยนต์ไปร่วมงานจัดแข่งเรือยาวฯ โดยไม่มีเหตุประท้วงหรือความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น
จากนั้นนายสมชายเดินทางไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับทหารกัมพูชา ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมชายแดนที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ต่อมาเวลา 16.30 น. ที่ห้องรับรองพิเศษ ระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานกรุงเทพ นายสมชายให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการปฏิบัติภารกิจหลายพื้นที่ในภาคอีสาน ถึงเหตุที่เลือกเดินทางด้วยเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ ไม่ใช้เครื่องบินของทหารเหมือนทุกครั้งว่า แล้วแต่เครื่องไหนว่าง เครื่องบินที่โดยสารไปเป็นเครื่องบินของกระทรวงคมนาคม ที่สังกัดกรมการขนส่งทางอากาศ เมื่อถามถึงกระแสข่าวพบกับ พล.อ.อนุพงษ์ เพื่อคุยกันเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้ว นายสมชายรีบกล่าวตัดบทว่า เดี๋ยวขอกลับบ้านไปนอนก่อน จากนั้นรีบขึ้นรถออกไปทันที เพื่อเดินทางเข้าบ้านพักภายในหมู่บ้านเบเวอร์ลี่ฮิลล์ ย่านแจ้งวัฒนะ
เฉไฉสงสัยผบ.ทบ.หลงกลคำถาม
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษก พปช.กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันกับพวก ส.ส.พรรคว่าจะไม่ยุบสภาหรือลาออก ซึ่งการแสดงท่าทีครั้งนี้เป็นไปตามมติของ ส.ส.พรรคในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ไม่ใช่เป็นใบสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีตามที่มีรายงานข่าวออกมาแต่อย่างใด เพราะ ส.ส.ได้วิเคราะห์กันแล้วว่าหากนายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภาก็จะไปเข้าทางกลุ่มคนบางกลุ่มซึ่งก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ดังนั้นวันนี้นายกรัฐมนตรีก็เปรียบเหมือนกับกัปตันที่จะต้องนำพาเครื่องบินลงอย่างปลอดภัย
"กรณีที่ ผบ.เหล่าทัพออกรายการในวันที่ 16 ตุลาคมนั้น มีเจตจำนงคือการแสดงความหนักแน่นของกองทัพไทย กรณีไทยกัมพูชาเท่านั้น แต่เมื่อผลปรากฏออกมาเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ ผบ.เหล่าทัพอย่างมาก โดยเฉพาะ ผบ.ทบ.ที่อาจจะตกเป็นเครื่องมือ และหลงกลของคนจัดรายการที่ต้องการช่วงชิงเรตติ้ง จึงถามคำถามการเมืองกับ ผบ.ทบ. ซึ่งเมื่อเป็นรายการสดถามมา พล.อ.อนุพงษ์ก็ต้องตอบไป โดยการตอบของ พล.อ.อนุพงษ์ก็ต้องคิดแล้วว่าจะแสดงท่าทีอย่างไรเพื่อให้เห็นว่า ผบ.ทบ.คิดถึงประชาชน ไม่ใช่ตอบไปแล้วถูกมือตบตามเล่นงาน คำตอบของ พล.อ.อนุพงษ์ อาจจะกังวลว่าตอบอย่างไรไม่ให้ตกเป็นขี้ปากถูกลากขึ้นเวทีพันธมิตร แต่คำตอบนั้นก็เป็นคำตอบที่ไม่ได้มอง 2 ด้าน เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคมมีแต่คนมองว่าทำไมถึงมีการสลายการชุมุนม แต่ทำไมไม่มีใครถามว่าถ้าไม่มีการสลายการชุมนุมแล้วจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น" ร.ท.กุเทพกล่าว
200ตร.ปราบจลาจลวางกำลังคุมเข้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางเข้าร่วมงานแข่งขันเรือยาวที่ จ.อุบลฯครั้งนี้ คณะของนายสมชายเช่าเครื่องบินเหมาไปลงที่สนามบินทหารอากาศกองบินที่ 21 กองพลบินที่ 2 มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหารและตำรวจต้อนรับ โดยมีตำรวจปราบจลาจลกว่า 200 นาย พร้อมรถควบคุมผู้ต้องขังเตรียมพร้อม 2 คันเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก่อนนายกฯเดินทางด้วยรถยนต์ไปร่วมงานจัดแข่งเรือยาวโดยไม่มีเหตุประท้วงหรือความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น
จากนั้นนายสมชายเดินทางไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับทหารกัมพูชา ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมชายแดนที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ต่อมาเวลา 16.30 น. ที่ห้องรับรองพิเศษ ระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานกรุงเทพ นายสมชายให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการปฏิบัติภารกิจหลายพื้นที่ในภาคอีสาน ถึงเหตุที่เลือกเดินทางด้วยเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ ไม่ใช้เครื่องบินของทหารเหมือนทุกครั้งว่า แล้วแต่เครื่องไหนว่าง เครื่องบินที่โดยสารไปเป็นเครื่องบินของกระทรวงคมนาคม ที่สังกัดกรมการขนส่งทางอากาศ เมื่อถามว่า ได้พบกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพื่อคุยกันแล้วหรือไม่ นายสมชายรีบกล่าวตัดบทว่า เดี๋ยวขอกลับบ้านไปนอนก่อน จากนั้นรีบขึ้นรถออกไปทันที เพื่อเดินทางเข้าบ้านพักภายในหมู่บ้านเบเวอร์ลี่ฮิลล์ ย่านแจ้งวัฒนะ
เชื่อเหมือนกันทหารไม่ปฏิวัติ
พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ทหารจะปฏิวัติว่า เชื่อว่าไม่น่ามีการปฏิวัติเกิดขึ้น เพราะผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนปัจจุบันก็ออกมายืนยันแล้ว อย่างไรก็ตามเห็นว่าสถานการณ์ขณะนี้ทหารไม่มีหน้าที่ที่จะมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ควรที่จะเก็บเนื้อเก็บตัวและไปทำหน้าที่ในการปกป้องประเทศชาติ ส่วนที่ พล.อ.อนุพงษ์ ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น เป็นการพูดในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่พูดในฐานะ ผบ.ทบ.
"ผมว่านายกรัฐมนตรีน่าสงสารนะ เพราะถูกกดดันหลายอย่าง แต่เราก็ต้องดูให้นายกฯทำงานต่อ ซึ่งผมและอดีตนายทหารหลายคนได้มีการพูดคุยกันบ้างว่าควรที่จะทำอย่างไรต่อไป แต่บ้างเรื่องเราก็เห็นว่าทหารทำถูกต้องแล้ว เช่นเรื่องชายแดนไทยกัมพูชา"พล.อ.เรืองโรจน์กล่าว
พธม.ชี้มี3งานต้องทำแค่ข้ออ้าง
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงที่ห้องสื่อมวลชน ทำเนียบรัฐบาล กรณีนายสมชายไม่ลาออกตามเสียงเรียกร้อง ผบ.ทบ.ว่า เป็นกรรมของประเทศไทยที่มีรัฐบาลแบบนี้ ในเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้สั่งการจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะว่าเห็นปัญหาเกิดขึ้นอย่างน้อย 3 ครั้ง ตั้งแต่เช้าถึงเย็น เป็นไปได้หรือไม่ที่นายสมชายจะไม่รู้ ซึ่งถ้าทราบแล้วสั่งหยุดก็ได้ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี
พล.ต.จำลองกล่าวว่า ความจริงรัฐบาลไม่ต้องรอให้คณะกรรมการอิสระที่ตั้งขึ้นมาสรุปผลเหมือนกับที่กล่าวอ้างจะตัดสินใจก็ต่อเมื่อมีการสรุปผลแล้วอีก เพราะประชาชนที่ติดตามข่าวสารมาตลอดย่อมรู้ว่าเป็นความผิดของใคร อีกทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก็ออกมาชี้มูลความผิดแล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องฟังคณะกรรมการที่รัฐบาลซึ่งเป็นเสมือนจำเลยจัดตั้งขึ้นมาสอบสวนตัวเอง ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ไม่ได้รับความเชื่อถือ
"ที่นายสมชายอ้างว่ารัฐบาลยังมีภารกิจจะต้องรับผิดชอบ 3 งาน ทั้งงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ งานเฉลิมพระชนมพรรษา และงานประชุมอาเซียน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้ออ้างมากกว่า ข้าราชการประจำหรือรัฐบาลไม่ว่าใครก็สามารถทำหน้านี้แทนได้ ไม่เชื่อก็ลองดู"พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลองกล่าวว่า ที่ พล.อ.อนุพงษ์ออกมาให้สัมภาษณ์กดดันรัฐบาล เป็นการพูดที่ชัดเจนแล้วว่าทหารรู้สึกอย่างไร และก็ต้องจับตาดูต่อไป เพราะการออกมาพูดอย่างนี้แสดงว่าทหารอดทนถึงที่สุดแล้ว
ปชป.ชี้เหตุยื้อ-โฆษกทบ.ปิดปาก
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ไม่แน่ใจว่า เรื่องที่นายกฯระบุมี 3 ภารกิจสำคัญที่จะต้องอยู่ทำหน้าที่ต่อไป เพื่อทำให้เสร็จนั้นจะเป็นจริงตามที่พูดหรือไม่ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของนายกรัฐมนตรีคือการยื้อเวลาออกไป มีความพยายามที่จะผลักดันให้มี ส.ส.ร.3 เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ และมีการเลือกตั้งในช่วงเวลาที่รัฐบาลได้เปรียบ และเพื่อหาประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดิน
"พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังไม่มีความพร้อมหากจะมีการเลือกตั้งใหม่ เพราะขาดกระสุนและเงินทุน ดังนั้น รัฐบาลจึงพยายามประวิงเวลาเพื่อเก็บเกี่ยวกระสุน" นายเทพไทกล่าว
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ปฏิเสธตอบคำถาม อ้างว่าไม่ได้รับอนุญาตจาก ผบ.ทบ.ให้ชี้แจงเรื่องที่พูด "เรื่องการเมืองต้องขออนุญาต เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ได้พูดไปแล้ว" พ.อ.สรรเสริญกล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
