อัยการรอคำพิพากษาคดีที่รัชดาก่อนส่งให้อังกฤษเรียกแม้วกลับ ยธ.เล็งหาซี11ปธ.สอบนายกฯคดีที่ดินศาล


โฆษกอัยการออกมาแก้ต่าง ยันไม่สั่งฟ้อง "ทักษิณ-พจมาน" คดีเอสซี ถูกต้อง อัดวิจารณ์ไม่เป็นธรรม ขณะที่อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ รอผลคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดาก่อนแปลภาษาให้อังกฤษส่งตัว "แม้ว" กลับมา ด้าน "ยธ." เล็งหาซี11นั่งปธ.สอบ "สมชาย" คดีค่าธรรมเนียมที่ดิน 70 ล้านหลังป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตการณ์คำสั่งไม่ฟ้องของอัยการที่สั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา กับพวก ในคดีจงใจปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) โดยนายธนพิชญ์ ยืนยันว่า การที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวกผู้ต้องหานั้น อัยการได้พิจารณาพยานหลักฐานที่ปรากฏอย่างละเอียดรอบรอบและครบถ้วนในทุกประเด็นแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาไม่ได้กระทำผิดตามที่พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 ข้อหา คือไม่ได้มีพฤติการณ์แสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดสาระสำคัญการถือครองซื้อขายหุ้น และไม่มีภาระหน้าที่ที่จะต้องรายงานการซื้อขายหุ้นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพราะมอบหมายให้กองทุนทำหน้าที่ให้ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของกองทุนที่จะต้องรายงาน ซึ่งข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่ากองทุนได้รายงาน กลต.อย่างถูกต้องแล้ว และไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ตามที่ถูกกล่าวหา อัยการจึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งคดีนี้ไม่เกี่ยวกับคดีซุกหุ้น
 
"คดีนี้อัยการพิจารณาสำนวนด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพราะสาธารณชนทั้งหลายเพ็งเล็งอยู่ ถ้าหากมีหลักฐานให้อัยการฟ้องผู้ต้องหาได้ อัยการก็ต้องสั่งฟ้องอยู่แล้ว ได้อ่านคำให้สัมภาษณ์ของผู้ที่ออกมาวิจารณ์แล้วเห็นว่าคนวิจารณ์ไม่มีความรู้และไม่ได้วิจารณ์ด้วยความเป็นธรรม" นายธนพิชญ์ กล่าว

ด้านนายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าว่า นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ได้ตั้งคณะทำงานอัยการชุดใหญ่ในการติดตามตัวนักการเมืองที่หลบหนีหมายจับไปอยู่ต่างประเทศเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาลในประเทศไทย มีนายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุดเป็นประธาน และอัยการจากฝ่ายคดีต่างประเทศและอัยการฝ่ายคดีพิเศษ รวมจำนวน 10 คนเป็นคณะทำงาน ส่วนตนเป็นเลขานุการ ซึ่งคณะทำงานชุดใหญ่จะแบ่งกันดูแลเป็นคดีๆไป ซึ่งคดีแรกที่อัยการจะดำเนินการตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือ การขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ที่หลบหนีไปอยู่ประเทศอังกฤษเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีหรือรับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกาพิพากษาอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลคำพิพากษาของศาลฎีกาฯในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ก่อนว่าศาลจะมีคำพิพากษาอย่างไร หากพิพากษาลงโทษอัยการจะขอคัดคำพิพากษามาแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อจัดส่งให้รัฐบาลอังกฤษดำเนินการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษตามคำพิพากษา แต่หากศาลฎีกาฯพิพากษายกฟ้องคดีก็จบ อัยการก็จะต้องดำเนินการในคดีอื่น

นายศิริศักดิ์ กล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นเรื่องขอลี้ภัยทางการเมืองต่อรัฐบาลอังกฤษว่า ก็ทำให้คดีมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะการขอลี้ภัยนั้นมีการอ้างเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะต้องหาพยานหลักฐานพิสูจน์ให้ศาลอังกฤษเห็น ส่วนอัยการก็ต้องพิสูจน์ให้ศาลเชื่อว่าการที่ทางการไทยขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับโทษตามคำพิพากษานั้นเป็นการทำความผิดในคดีอาญาไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งยอมรับว่าเป็นคดีที่ยากลำบากกว่าคดีทั่วไป แต่อัยการจะพยายามอย่างเต็มที่
 
อีกด้านหนึ่ง ที่กระทรวงยุติธรรม  (ยธ.) วันที่ 17 ตุลาคม นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.กพ.) กระทรวงยุติธรรม  กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กระทำผิดวินัยร้ายแรงขณะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม กรณีไม่เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียม 70 ล้านบาท จากการขายทอดตลาดที่ดิน  ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว หากป.ป.ช.ส่งเรื่องถึงกระทรวงยุติธรรม จึงจะพิจารณาว่าจะตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบ หรือจะมอบให้ดำเนินการอย่างไร ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจมีปัญหาข้อกฎหมายว่า อ.กพ.กระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการได้หรือไม่ หรือจะลงโทษย้อนหลังได้อย่างไร เพราะขณะนี้นายสมชายพ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมไปนานแล้ว คงต้องให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตาม ตนจะยึดกฎหมายเป็นหลัก แต่หากไม่มีกฎหมายรองรับก็ไม่เข้าใจว่าจะทำได้อย่างไร ขณะนี้จึงให้คำตอบอะไรไม่ได้จนกว่าจะได้พิจารณาประเด็นข้อกฎหมาย

รายงานข่าวระบุว่า อก.พ.กระทรวงยุติธรรมเตรียมหาคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พิจารณาว่าข้อกล่าว ทางป.ป.ช. ส่งเรื่องมาให้ ผิดวินัยร้ายแรงอย่างไรและต้องมีโทษอะไรบ้าง  ส่วนประธานสอบขัอเท็จจริงจะเป็นข้าราชการระดับ 11 เพราะนายสมชายจะถูกสอบสวนในฐานะข้าราชการบำนาญ ไม่ใช่ฐานะนายกรัฐมนตรี ส่วนคณะกรรมการอีก 2 คน จะเป็นคนจากภายนอกกระทรวง  ซึ่งคณะกรรมการต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน  270 วัน 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์