"สมชาย" เมิน ผบ.ทบ.กดดันประกาศลั่น "ไม่ออก" ชี้คำพูดเป็นแค่ความเห็น ให้รอ กก.สรุปผลสอบก่อน มั่นใจไม่ผิด บอกพรรคร่วมเช็คข่าวแล้วทหารไม่พร้อมปฏิวัติ พปช.ยุขัดขืนบ้าง อย่าโยนผ้าเป็นอันขาด โวยรับใบสั่ง ท้าลากรถถังอวดชาวโลก ขู่ไม่เลิกกดดัน ล่าชื่อถอดถอนแน่ สงสัยเป็นแผนหวังเปิดทางคนนอก "อภิสิทธิ์" ย้ำยุบสภาดีที่สุด ลาออก-เปลี่ยนขั้วไม่จบ พันธมิตรหนุน ปฏิวัติสังคม
"สมชาย" ถกพรรคร่วมถึงท่าทีผบ.ทบ.
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) เรียกประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ท่าอากาศยานกรุงเทพ เพื่อหารือสถานการณ์การเมือง ภายหลังผู้บัญชาการ (ผบ.) 4 เหล่าทัพ นำโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาเรียกร้องให้ลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ประกอบด้วย พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค นายมั่น พัธโนทัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) และ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ตัวแทนพรรคอีกคน นางพรทิวา นาคาสัย เลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิไตย (มฌ.) นางอุไรวรรณ เทียงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตัวแทนพรรคประชาราช (ปชร.) และตัวแทนพรรคชาติไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย รวมถึงนายชูศักดิ์ ศิรินิล เลขาธิการนายกฯ
เมิน"ออก"-ขอรอผลสอบก่อน
การประชุมครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยนายสมชายเก็บตัวอยู่ในห้องทำงานนายกฯรอจนกระทั่งตัวแทนพรรคชาติไทย ที่เข้าประชุมเป็นพรรคสุดท้ายมาถึง จากนั้นนายกฯจึงเข้าประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ทั้งนี้นายสมชายเกริ่นนำการประชุมด้วยการหยิบยกท่าที ผบ.เหล่าทัพขึ้นมาพูด ว่า ผมพอใจในสิ่งที่ ผบ.ทบ.พูด ว่าถ้าผมเป็นนายกฯ ถ้าทำผิด ผมก็จะลาออก ซึ่งผมเองก็เป็นสุภาพบุรุษ ถ้าผมผิด ผมก็พร้อมลาออก แต่อยากให้รอคำชี้ขาดจากคณะกรรมการอิสระสอบข้อเท็จจริงที่เป็นคนไต่สวนเรื่องนี้ก่อน ถ้าผิดผมออกเลย ไม่ได้ยึดติดอะไรอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าผมคงจะไม่ผิด เพราะเรื่องนี้มีมติ ครม.ที่ได้นัดประชุมกันอย่างเร่งด่วนในคืนวันที่ 6 ตุลาคมไม่ได้สั่งการให้มีการสลายการชุมนุม และเรายังเห็นด้วยว่า ถ้าจะมีอะไรรุนแรง เราย้ายที่แถลงนโยบายก็ได้ แต่เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบดูแลของทางสภา และเมื่อทางสภายืนยันว่าต้องแถลงที่เดิม เราก็ต้องไปตามนั้น
อ้างเช็คข่าวแล้วมั่นใจไม่มีปฏิวัติ
ขณะที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลคนหนึ่งถามนายสมชายว่า สถานการณ์ที่ ผบ.เหล่าทัพออกมาส่งสัญญาณ จะทำให้เกิดการปฏิวัติขึ้นได้หรือไม่ นายสมชายได้อธิบาย ว่า ได้เคยแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ได้ติดยึด พูดไปหลายครั้งว่า ถ้ากระบวนการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.3 เสร็จสิ้น ก็พร้อมจะคืนอำนาจให้ประชาชน ด้วยการจัดการเลือกตั้งใหม่ กอปรกับตอนนี้มีงานพระราชพิธีสำคัญหลายงาน ก็ควรจะเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มมาจัดงานเหล่านี้ แล้วถ้ากระบวนการต่างๆ เสร็จสิ้น ก็พร้อมออก ไม่ยึดติด
"ช่วงนี้มีข่าวลือออกมามากมาย ทุกวัน โดยเฉพาะข่าวเรื่องการปฏิวัติ แต่ผมได้โทรศัพท์ไปคุยกับพี่ๆ น้องๆ ที่รู้จักกันกับกองทัพให้ช่วยเช็คแล้ว ว่าข่าวปฏิวัตินั้นจริงไหม แต่ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหว เขายืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีความพร้อมที่จะทำ ผมเองก็เชื่อมั่นเช่นนั้นว่าทหารคงจะไม่ทำอะไรแบบนี้" แหล่งข่าวอ้างคำพูดของนายสมชาย
ไม่เคยหลบแต่ทิ้งงานสำคัญไม่ได้
ต่อมานายสมชายแถลงผลการประชุมกับตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลว่า ขณะนี้ไม่ต้องการหลบเลี่ยงอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องการรอผลสรุปจากคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นมาก่อน ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร รัฐบาลจะยอมรับผลตามนั้น
ถ้ามีใครส่วนใดต้องรับผิดชอบเราก็ต้องยอม นี่คือเจตนาที่แท้จริง ไม่ได้ต้องการจะหลบเลี่ยงอะไรทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากให้เกิด ก็ต้องไปดูว่ามีเหตุมีผลอย่างไร ต้องคอยฟังท่าน นายกฯกล่าว
นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ได้ เนื่องจากยังมีงานอยู่มากมาย ทั้งการดูแลทุกข์สุขของประชาชน พระราชพิธีถวายเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14-19 พฤศจิกายนนี้ งานเฉลิมพระชนมพรรษา และการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวกกับประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศ
พร้อมรับฟัง-ผบ.ทบ."แค่ความเห็น"
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะอยู่ได้อย่างไร หากกองทัพไม่ให้กองสนับสนุน นายสมชายตอบว่า ยังไม่มีใครบอกว่าไม่สนับสนุนนะ ผมเรียนแล้วว่าการแสดงความเห็นของ ผบ.ทบ.ก็เป็นเพียงความเห็น พร้อมกับยืนยันจะไม่เปลี่ยนตัว ผบ.ทบ. เมื่อถามว่ารัฐบาลกับกองทัพจะทำงานร่วมกันต่อไปได้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า การทำงานในราชการเป็นระบบ มีกฎหมาย มีกติกาอยู่ ทั้งข้าราชการการเมือง และข้าราชการประจำ รัฐบาลต้องทำงานร่วมกับข้าราชการ (ถามแย้งว่า แต่ดูเหมือนว่ากองทัพออกมาขับไล่รัฐบาล) ไม่มีใครขับไล่รัฐบาล คุณพูดเองนะ" เมื่อถามท่าที ผบ.เหล่าทัพเหมือนกับการปฏิวัติหน้าจอ นายกฯกล่าวว่า ผมไม่เข้าใจความว่าปฏิวัติหน้าจอ แต่เมื่อกี้ได้ตอบไปชัดเจนแล้วว่าใครจะพูด มีความเห็นอะไร รัฐบาลก็รับฟังแล้วนำมาวิเคราะห์พิจารณา"
พปช.ยุเมินอนุพงษ์เชื่อไม่กล้าปว.
แกนนำ พปช.ผู้ใกล้ชิด นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคที่ยังคงมีบทบาทสำคัญรายหนึ่ง เปิดเผยว่า แกนนำกลุ่มวังบัวบาน ซึ่งใกล้ชิดนายยงยุทธ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายสมชาย หารือร่วมกับรัฐมนตรีของพรรคนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงแกนนำ ส.ส.กลุ่มอีสานเหนือ ประมาณ 20 คน ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค ย่านเหม่งจ๋าย เมื่อค่ำวันที่ 16 กันยายน ภายหลัง ผบ.เหล่าทัพออกมาเรียกร้องนายกฯลาออก โดยที่ประชุมวิเคราะห์กันว่า การเคลื่อนไหวของ ผบ.เหล่าทัพครั้งนี้ เป็นการยื่นคำขาด เพื่อเตือนให้ดำเนินการตามที่เรียกร้อง และหากไม่ปฏิบัติตามเหล่าทัพอาจจะดำเนินการอย่างไรอย่างหนึ่ง แต่การยื่นคำขาดครั้งนี้ไม่น่าจะมีผลในทางปฏิบัติ เพราะเชื่อว่าถึงที่สุดแล้วหากนายสมชายไม่ยอมตาม ผบ.เหล่าทัพคงไม่กล้าดำเนินการใดๆ โดยเฉพาะการรัฐประหาร เนื่องจากหลายภาคส่วนของสังคมยังไม่ให้การยอมรับ แต่การออกมาแสดงบทบาทกดดันครั้งนี้ ยังไม่ใช่ครั้งสุดท้าย คงต้องการตรวจสอบท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลก่อน หากเห็นว่ายังไม่ได้ผลก็จะมีกระบวนการเช่นกันนี้เกิดขึ้นอีก
"ที่ประชุมแจ้งผลสรุปการประชุมไปยังนายยงยุทธ เพื่อให้แจ้งนายกฯว่าต้องนิ่ง และห้ามโยนผ้าเด็ดขาด ต้องยืนยันว่ายังไม่ยุบสภาหรือลาออก โดยไม่ต้องสนใจแรงกดดันต่างๆ แต่พร้อมรับผิดชอบหากผลสรุปของคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ 7 ตุลาคมออกมา และต้องใช้แนวทาง ส.ส.ร. 3 แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น" แหล่งข่าวกล่าว
ท้าลากรถถัง-โวยรับใบสั่ง
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พปช. กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ประหลาดที่ผู้ใต้บังคับบัญชาออกมาให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงผู้บังคับบัญชาไม่ทราบว่า ผบ.ทบ.คิดอะไรอยู่ เพราะตามปกติ เป็นคนดี แต่คงจะถูกมือที่มองไม่เห็นบังคับให้ทำเช่นนี้ ซึ่งหาก พล.อ.อนุพงษ์ต้องการให้นายกฯลาออกก็เอารถถังออกมาเพื่อให้ชาวโลกได้เห็น พปช.ก็จะไม่ต่อต้านขัดขืน อย่างไรก็ตาม สามารถฟันธงได้เลยว่าหากยุบสภา หรือลาออกจริง ก็จะไม่มีการเลือกตั้ง เพราะ ส.ว.ที่ทำหน้าที่รักษาการในสภาก็แก้ไขกฎหมาย และผลักดันเรื่องต่างๆ ตามใจชอบ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พปช. กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองไม่ใช่กิจธุระของฝ่ายทหาร หน้าที่ของทหาร คือ ปกป้องอำนาจอธิปไตยของประเทศชาติ ที่ผ่านมารัฐบาลอนุมัติงบประมาณพิเศษ 20,000 ล้านบาท ให้ใช้แก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ถึงปัจจุบันยังไม่เห็นผลเชิงรูปธรรมที่ทำให้ชายแดนภาคใต้ รวมถึงปัญหาพิพาทกับกัมพูชาดีขึ้น ทหารบาดเจ็บหลายคน ผบ.ทบ.ก็ไม่สนใจเท่าที่ควร ไม่ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา แต่กลับมาแสดงบทบาทซึ่งไม่ใช่บทบาทของตนเองต่อสาธารณชน
ขู่ไม่เลิกล่าชื่อถอด-จี้"สมชาย"ปลด
"พล.อ.อนุพงษ์รับรู้เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516, 9 ตุลาคม 2519 และพฤษภาคม 2535 มาตลอดคาดว่าทหารมีส่วนร่วมทุกเหตุการณ์ แต่วันนี้มาโจมตีว่าตำรวจไม่ดีสลายม็อบทำร้ายประชาชน แต่เทียบไม่ได้กับทหารฆ่าประชาชนในอดีต ไม่รู้ว่า พล.อ.อนุพงษ์คิดด้วยตนเอง หรือได้รับใบสั่งจากใครมา หาก พล.อ.อนุพงษ์ยังไม่ยุติบทบาทรุกล้ำอำนาจทางการเมือง ผมจะนำระดมรายชื่อ ส.ส.ในสภา 1 ใน 3 เพื่อยื่นถอดถอน พล.อ.อนุพงษ์" นายวิสุทธิ์กล่าว
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พปช. แถลงที่คุ้มภูคำ จ.เชียงใหม่ ว่า ส.ส.เชียงใหม่ 11 คน เห็นว่าข้อเรียกร้องของ พล.อ.อนุพงษ์ไม่ถูกต้อง ไม่สมควร เพราะ พล.อ.อนุพงษ์เป็นผู้ใต้บังคับบัญชานายสมชาย ก่อนหน้านี้อดีตนายกรัฐมนตรีเคยประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พล.อ.อนุพงษ์บอกว่าไม่ได้ทำหน้าที่นั้น ไม่เข้าไปสลายการชุมนุม ถามว่ารับผิดชอบต่อบ้านเมืองอย่างไร ถ้าไม่ปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่ควรอยู่เป็น ผบ.ทบ. ควรลาออกด้วย การออกรายการโทรทัศน์ของ ผบ.เหล่าทัพเหมือนส่งสัญญาณยึดปฏิวัติ เป็นภาพไม่ถูกต้อง ทั้งที่ทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบบ้านเมืองร่วมกัน
"นายกรัฐมนตรีให้นโยบาย แต่ข้าราชการผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานไม่ยอมทำตามก็ควรจะลาออกไปเสีย พล.อ.อนุพงษ์อย่ามาเรียกร้องซี้ซั้วให้นายกฯลาออก แต่ผมเนี่ยแหละจะเรียกร้องให้นายสมชายปลด พล.อ.อนุพงษ์ รวมถึงจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติให้ดำเนินการเอาผิด พล.อ.อนุพงษ์ ในข้อหาละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย"นายสุรพงษ์กล่าว
ปลุกสู้ปว.เงียบ-ชี้เปิดทางคนนอก
ขณะเดียวกัน ส.ส.พปช.กลุ่มอีสานพัฒนา กลุ่มภาคกลาง กลุ่มบ้านริมคลอง กลุ่มวังทองหลาง ร่วมกันแถลงจุดยืนที่อาคารไอเอฟซีที สำนักงาน พปช. ว่าสื่อมวลชนต่างนำเสนอว่าเป็นการปฏิวัติเงียบหรือปฏิวัติผ่านจอ เป็นการกระทำตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขอแจ้งกับประชาชนว่าหากมีการยึดอำนาจเงียบหรือไม่เงียบให้ออกมาต่อต้าน ซึ่งจะเป็นแนวทางของการต่อสู้ทุกอย่าง และเรียกร้องให้ ผบ.เหล่าทัพทำตามนโยบายรัฐบาล
นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี กลุ่มภาคกลาง กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาการกระทำของ ผบ.เหล่าทัพ ที่ออกมาเรียกร้องอย่างนี้ แต่การจะดำเนินการอย่างไรนั้นขอให้เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี การที่เราไม่ลาออกตามข้อเรียกร้องไม่ได้หมายความว่าดื้อด้านอะไร แต่เรามาจากการเลือกตั้งที่ถูกต้องของประชาชน ซึ่ง ผบ.ทบ.เป็นคนพูดเองว่าการปฏิวัติไม่ทำให้ประเทศชาติดีขึ้น จึงเชื่อว่าจะไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้น รวมทั้งเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ก็เป็นเรื่องที่ยังเป็นปรปักษ์กับรัฐธรรมนูญ" นายอำนวยกล่าว
นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พปช. กล่าวว่า ส.ส.พรรคประเมินว่ากระบวนการที่เป็นอยู่ในขณะนี้เป็นการกดดันให้นายกฯลาออกเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย จากนั้นจะหาวิธีการงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราเปิดทางให้คนนอกสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ชท.ไม่ถอนตัว-สุวิทย์ร่วมจี้สมชายออก
นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ในช่วง เกาะประเด็นร้อน แกะประเด็นลึก ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณ ผบ.เหล่าทัพที่พยายามเสนอทางออก แต่รัฐบาลได้หาทางออกแล้วด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งนายกฯได้แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าถ้าผิดจริง พร้อมแสดงความรับผิดชอบ นอกจากเรื่องการลาออกแล้ว ยังต้องรับผลในทางกฎหมายด้วย
"ถ้านายกฯลาออกตอนนี้ กระบวนการตรวจสอบต่างๆ ก็ต้องยุติลง เพราะคณะกรรมการอิสระตั้งขึ้นมาด้วยคำสั่งของนายกฯ จึงต้องสิ้นสภาพพร้อมกับนายกฯ นั่นหมายความว่าทุกอย่างก็ต้องรอนับ 1 ใหม่เมื่อมีรัฐบาลใหม่ นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์ยังให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงเกษตรฯด้วยว่า นายสมชายเคยให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อผลสอบเกี่ยวพันถึง พร้อมจะรับผิดชอบและดำเนินการตามกฎหมาย ดังนั้น จึงอยากขอร้องให้รอผลสอบก่อน พรรคยืนยันว่ายังไม่ถอนตัวจะรอผลสอบก่อน ถ้าผิดก็พร้อมจะพิจารณาถอนตัว
นายสุวิทย์กล่าวว่า หลายประเทศที่เจริญแล้ว คือใช้มติ ครม. แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เสร็จแล้วนายกฯก็ลาออก โดยที่คณะกรรมการยังทำหน้าที่ต่อไปได้ ไม่ต้องรอผล อันนี้จะทำให้หลายฝ่ายสบายใจ การลาออกของนายกฯ จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับรัฐบาล จากนั้นก็ค่อยหาคนที่มีความรู้ความสามารถคนใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหา
มฌ.อ้างอนุพงษ์ให้รอผลสอบก่อน
พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) กล่าวว่า ขอยืนยันว่ายังคงร่วมรับบาลต่อไป เพราะการที่จะให้นายสมชายลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือยุบสภา ไม่ใช่วิถีทางในการแก้ปัญหาในขณะนี้ และ พล.อ.อุนพงษ์กล่าวในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ก็ไม่ได้ระบุว่านายกฯจะต้องลาออก เพียงแต่บอกว่าหากผลการสอบสวนกรณีสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาระบุว่ารัฐบาลผิด นายกฯก็ควรจะลาออก ไม่ได้บอกให้ออกตอนนี้ สื่อไปตัดเอาคำบางคำมาเสนอ จึงทำให้มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 ให้เสร็จ และมีการตั้งส.ส.ร.3 ให้เป็นที่เรียบร้อย ร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ให้เสร็จภายใน 240 วัน เร็วกว่านั้น แล้วจึงมีการยุบสภา
"อภิสิทธิ์"ย้ำยุบสภาทางออกดีที่สุด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเรียกร้องของผู้นำเหล่าทัพไม่ต่างจากเสียงเรียกร้องหลายๆ ฝ่าย แต่ผมเห็นว่าการยุบสภาเป็นการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง และน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมกว่าสำหรับบ้านเมือง เพราะถ้านายกฯลาออก มี 3 ทางคือ 1.รัฐบาลชุดเดิมต้องหาบุคคลมาเป็นนายกฯแทน เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นรัฐบาลของนายสมชาย แต่ไม่คิดว่าจะสามารถสร้างความมั่นใจใดๆ ให้กับประชาชน เพราะยังมีบุคลากรจำนวนมากที่ร่วมทำผิดอยู่ในร่วมรัฐบาลต่อไป 2.ถ้ามีการเปลี่ยนขั้วที่เป็นประโยชน์ต่อพรรคประชาธิปัตย์ในการเป็นรัฐบาล แต่จะยังมีแรงต่อต้านและความขัดแย้งในสังคมยังมีอยู่ เนื่องจากยังมีผู้สนับสนุนฝ่ายรัฐบาลจำนวนไม่น้อยที่มองว่าการเปลี่ยนขั้วการเมืองเช่นนี้เป็นการจำนนต่อแรงกดดันที่เกิดจากคนกลุ่มหนึ่ง และ 3.ไม่มีขั้วหมายถึงการมีรัฐบาลพิเศษหรือรัฐบาลแห่งชาติ พรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลไม่พร้อมและไม่ยอมรับความคิดนี้ เพราะจะกระทบต่อสัดส่วนตำแหน่งต่างๆ ที่มีอยู่ในรัฐบาลของพรรคเหล่านั้น ส่วนการหาคนนอกมาเสริมในรัฐบาลก็ยากที่จะหาคนที่ทุกฝ่ายยอมรับว่าเป็นกลางจริงๆ เพราะฉะนั้น การนำกลับไปให้ประชาชนตัดสินใจน่าจะเป็นทางออกที่เป็นจริงมากที่สุด นายอภิสิทธิ์กล่าว
ชี้เลือกใช้วิธีนี้แสดงว่าจะไม่ป.ว.
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่การปลด ผบ.ทบ.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายกฯต้องพิจารณา หวังว่าจะไม่มีการปฏิวัติ พรรคไม่สนับสนุนการปฏิวัติรัฐประหาร เชื่อว่าที่เหล่าทัพเลือกที่พูดกับสื่อมวลชนในการให้ความเห็นก็เป็นการบ่งบอกว่าเขาไม่อยากที่จะทำรัฐประหาร ดังนั้น จึงย้ำว่านายสมชายมีความรับผิดชอบต่อประเทศ ต่อประชาชน และต่อระบอบประชาธิปไตย ถึงเวลาที่นายสมชายต้องตัดสินใจให้ประเทศเดินหน้าได้ ไม่ใช่คิดถึงแต่การอยู่ในอำนาจของตัวเองแล้วบ้านเมืองตกอยู่ในภาวะที่ไม่รู้จะพึ่งใคร เวลานี้อยู่ที่นายสมชายว่าจะตัดสินใจหรือไม่ ยิ่งช้า ประเทศยิ่งหมดโอกาสที่จะเดินหน้าและสิ่งที่เป็นคำตอบอาจไม่เป็นคำตอบอีกก็ได้ ความรุนแรงในเชิงอารมณ์และความขัดแย้งจะมีมากขึ้น ปัญหาจะแก้ยากขึ้น แต่ถ้ายิ่งทำเร็วเท่าไหร่ ความยอมรับที่จะให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ก็จะมีสูง
นายอภิสิทธิ์กล่าวกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลให้รอผลสรุปจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริก่อนนั้น คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเป็นอิสระแต่ชื่อเท่านั้น เมื่ออ่านอำนาจหน้าที่ ไม่รู้ว่าจะพิจารณาไปถึงว่ามีการสั่งการโดยใครหรือไม่ เมื่อครบ 15 วัน ผลก็อาจออกมาเพียงว่าการสลายการชุมนุมมีการใช้แก๊สน้ำตาที่ไม่ได้มาตรฐานหรือใช้ผิดวิธี ซึ่งทุกคนรู้อยู่แล้ว ต้องถามว่าเขาเรียกนายกฯและ ครม.ไปสอบหรือไม่ว่าในวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม.ฉุกเฉินใครมีความเห็นอย่างไร สั่งการอะไร แล้วใครจะรับผิดชอบ ซึ่งถ้าเขาไม่ทำตรงนี้ ยังนึกไม่ออกว่าผลสอบจะมีผลต่อรัฐบาลอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
พธม.ว่าทหารอึดอัด-หนุนปว.สังคม
นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงที่ห้องสื่อมวลชน ทำเนียบรัฐบาล ถึงท่าที ผบ.เหล่าทัพว่า เป็นการกระทำที่ถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาทหารเก็บความอึดอัดและความไม่เห็นด้วยกับการบริหารรัฐบาลแล้วมาทำการปฏิวัติ ดังนั้นรัฐบาลควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก โดยไม่ต้องรอผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการ เพราะรัฐบาลต้องรับผิดชอบทางการเมือง ส่วนความรับผิดชอบทางกฎหมายก็ให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไป ทั้งนี้ หากนายสมชายลาออกแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องแสดงความกล้าหาญด้วยการตัดผลประโยชน์และความขัดแย้งออกไป แล้วหันมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อนั้นรัฐบาลแห่งชาติอาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งรัฐบาลแห่งชาติต้องได้คนที่มีความสามารถและสังคมรับได้ "ผมไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารแบบเดิม แต่หากเป็นการปฏิวัติสังคมให้สังคมเข้ามาร่วมเปลี่ยนแปลงสังคมเองก็น่าจะทำได้ แต่ไม่ควรให้ทหารออกมาก็เพราะไม่ต้องการให้เลือดนองแผ่นดิน" นายพิภพกล่าว
สมชายลั่นสู้-ปัดลาออก เมินอนุพงษ์ อ้างเช็คทหารไม่พร้อมปฏิวัติ ท้าลากรถถัง-จี้ทหารหยุดขู่ถอดถอน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง สมชายลั่นสู้-ปัดลาออก เมินอนุพงษ์ อ้างเช็คทหารไม่พร้อมปฏิวัติ ท้าลากรถถัง-จี้ทหารหยุดขู่ถอดถอน