เมื่อถึงเวลา 14.00 น. ได้มีประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าหารือประกอบด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตร และรองหัวหน้าพรรคชาติไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม และประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน และร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร หน.พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และนาย ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรครวมใจไทยฯ นาย วิวัฒน์ นิติกาญจนา เลขานุการรมว.ทรัพยากรธรรมาชาติและสิ่งแวดล้อม และร.อ.รชฏ พิสิฐบรรณกรเลขานุการรมช.พาณิชย์ ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคมัชฌิมาธิปไตย นาง อุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน ตัวแทนพรรคประชาราช
หลังจากนั้นเวลา 15.50น.ได้ร่วมกันแถลงข่าวอย่างพร้อมเพียง โดยนายสมชายได้กล่าวว่าเป็นการร่วมแถลงกันตามปกติเพื่อรายงานให้ประชาชนได้ทราบฐานะที่รัฐบาลมาจากประชาชน
"จากมีข่าวหลายเรื่องนั้น ขอชี้แจงว่าเมื่อเข้ามาแล้วไม่ได้มีเปล่าหมายทำงานเฉพาะการเมืองแต่ต้องทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศ และนโยบายที่ได้แถลงไปนั้นก็เกี่ยวข้องกับประชาชนทั้งประเทศทั้งเรื่องราคาสินค้า"
นายสมชาย กล่าวและว่า
อยากจะพูดถึงเหตุที่เกิดที่ได้รับความสนใจอยู่ขณะนี้คือการแถลงนโยบายของรัฐบาล ก็เป็นหน้าที่ตามรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญจะต้องแถลงต่อรัฐสภา
พร้อมกันนี้นายสมชายได้กล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนมีการสลายการชุมนุมว่า ไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายจะมีการฆ่าใคร ตอนนี้ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้ว ผลออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับตามนั้น เพราะเราไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น
นายสมชายกล่าวต่อว่า
รัฐบาลจะละทิ้งงานที่สำคัญใหญ่ๆไปไม่ได้ ซึ่งจุดยืนพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรคเห็นน่าจะรอผลการพิจารณาร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญของส.ส.ร.3ให้ออกมาเสียก่อนที่จะกำหนดท่าทีทางการเมือง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของเหล่าทัพนายสมชาย กล่าวว่าก็เป็นเพียงความเห็นเท่านั้น ส่วนเหล่าทัพจะคุยกันอย่างไรนั้นก็อยู่ในสาระของการทำงาน
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า
นายสมชาย ทราบดีว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคโดนบีบ โดยมีข้อเสนอให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลเพื่อแลกกับคดียุบพรรค จึงเห็นได้ชัดว่าแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางคนก็ออกมากดดันให้นายกฯลาออกแล้ว เพื่อไม่ให้มีการยุบสภา
เพราะใบสั่งจากผู้ใหญ่บางคนในสังคมไทยต้องการให้พรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนขั้วไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่แนวทางที่นายสมชายวางไว้คือจะต้องเร่งจัดส.ส.ร. 3 ให้ได้ก่อนจากนั้นก็จะพิจารณาเพื่อลาออกหรือยุบสภา
เพราะนายสมชายเข้าใจดีว่ามีผู้ใหญ่บางคนพยายามทำทุกอย่างเพื่อกำจัดพรรคพลังประชาชนให้ได้ จึงใช้แรงบีบจากทุกด้านโดยเฉพาะพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
ประชาคมนิด้าตะเพิด“สมชาย”ออกจากศิษย์เก่า
ที่สถาบันบัณพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)เครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมือง ศิษย์เก่า ประชาคมนิด้า ร่วมแถลงข่าวพร้อมเสนอข้อเรียกร้องให้ถอนรายชื่อ “ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ” ออกจากบัญชีศิษย์เก่าของสถาบันนิด้าผ่าน ดร.วิชัย รูปขำดี อดีตณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม อดีต ส.ส.ร.
นายจักรกริช ธรรมศิริ อดีตนายกสโมสรนักศึกษานิด้า กล่าวว่า
จากการที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสลายการชุมชุม ด้วยความรุนแรง โหดเหี้ยม ไม่เป็นไปตามหลักสากลประเทศ เป็นเหตุให้มีคนบาดเจ็บ ล้มตาย จำนวนมาก ซึ่งการปล่อยให้ตำรวจกระทำ เข่นฆ่า ทำร้าย ทำลายประชาธิปไตย
แสดงให้เห็นว่านายสมชาย ได้ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้นำประเทศ ขาดเมตตาธรรม หัวใจโหดเหี้ยม อำมหิต ไม่สมกับการเติบโตในหน้าที่ กินเงินประชาชน
นายจักริช กล่าวอีกว่า
ในฐานะศิษย์เก่า รู้สึกสลดหดหู่เป็นอย่างยิ่ง ยิ่งเมื่อนายสมชาย เป็นศิษย์เก่าร่วมสถาบันอันทรงเกียรติ เช่นเหมือนพวกเราก็ยิ่งโศกเศร้า
ดังนั้นจึงอยากให้สังคมรู้ว่า สถาบันแห่งนี้ยังเป็นสถาบันของประชาชน สถาบันแห่งนี้ยังยืดหยัดอยู่ข้างประชาชน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง กับศิษย์เก่าสถาบันคนอื่นๆ จึงขอเรียกร้องให้สถาบันดำเนินการถอดถอนรายชื่อนายสมชาย ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีมือเปื้อนเลือด ออกจากรายชื่อทำเนียบศิษย์เก่าสถาบันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
“เรารับไม่ได้ และไม่ได้ภูมิใจกับการมีรุ่นพี่ รุ่นน้อง ของพวกเราไปเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วกระทำเฆ่นฆ่า ประชาชนผู้ชุมนุมกันอย่างบริสุทธิ์ ดังนั้นเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างของนักศึกษารุ่นต่อไป ไม่อยากให้เป็นที่ครหาว่าจบจากนิด้าไปแล้วมีพฤติกรรมโหดร้าย ทำลายประชาชน ทำลายระบอบการปกครองประชาธิปไตย ” นายจักริช กล่าว
ดร.วิชัย กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอที่ประชุมสภาคณาจารย์ในวันจันทร์ที่ 20 ต.ค.เพื่อเสนอถอดถอนรายชื่อนายสมชาย ออกจากทำเนียบศิษย์เก่าต่อไป ทั้งนี้เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับนักศึกษารุ่นต่อไป ซึ่งทางสถาบันเองก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการคัดเลือกบุคลากรเข้ามาทำการศึกษา และพยายามจะปรับเพิ่มหลักสูตรในการสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรมออกสู่สังคมต่อไป
ภายหลังการแถลงข่าวเครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมือง ร่วมกับสมัชชาการเมืองเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มพรรคการเมืองที่ไม่มีส.ส.ทำหน้าที่อยู่ในสภา อาทิ นายอนันต์ กาญจนสุวรรรณ หัวหน้าพรรคพลังเกษตรกรไทยในฐานะประธานสมัชชา นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ร่วมกันเสนอให้รัฐบาลลาออกทั้งชุด
และเสนอให้มีรัฐบาลเฉพาะกาลเข้ามาทำหน้าที่ในระยะเวลา 2 ปี สร้างระบบการเมืองการปกครองใหม่ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรการ หลังจากนั้นให้มีการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งตามปกติ จะเป็นทางออกเดียวที่นายสมชาย จะต้องรีบทำ โดยไม่มีเงื่อนไข
วิธีการดังกล่าวจะทำให้ปัญหาวิกฤติความขัดแย้งหมดสิ้นไปจากเมืองไทย อย่างไรก็ตามเป็นที่ตกลงร่วมกันว่าจะถวายฎีกาเรื่องรัฐบาลเฉพาะกาลในเร็วๆนี้