ไขปมน้องเขยแม้วต้องพ้นเก้าอี้นายกฯหรือไม่ หลังป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

นายสมชายถูกปลดออกจากราชการ ฐานประมาทเลินเล่อทำให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง ไม่ใช่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ จึงไม่เข้าลักษณะต้องห้ามในการสมัคร ส.ส.ตามมาตรา 102 สมาชิกภาพของ ส.สงจึงไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 จึงเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ ดังนั้น เมื่อสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายสมชายมิได้สิ้นสุดลง จึงยังคงอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้

มีผู้สงสัยว่า การที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)วินิจฉัยว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์   (สามีนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี)

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม มีมูลความผิดทางวินัย ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 84 วรรคสองซึ่งระบุว่า "การประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง" นั้นจะมีผลอย่างไรต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

 
ก่อนที่จะต้อบคำถามดังกล่าว ต้องดูว่า หลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางวินัยดังกล่าวแล้วจะมีขั้นตอน อย่างไร
 
ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนุญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ 2542 (มาตรา 92-93)กำหนดว่า เมื่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางวินัยแล้ว ให้ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งรายงานพร้อมความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติโดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัยอีก โดยให้ถือว่ารายงานและความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นสำนวนในการสอบสวนทางวินัย
 
เมื่อนายสมชายถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดขณะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บังคับบีญชาก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่เนื่องจากนายสมชายถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยร้ายแรง จึงต้องมีการนำเรื่องเข้าพิจารณาใน อ.ก.พ.กระทรวงยุติธรรมด้วย
 
เมื่อได้รับเรื่องจาก ป.ป.ช.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้องนำเรื่องเข้าพิจารณาใน อ.ก.พ.เพื่อลงโทษนายสมาชายภายใน 30 วันและแจ้งผลให้ประธาน ป.ป.ช.ทราบภายใน 15 วัน
 
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ อ.ก.พ.มีสิทธิ์ใช้ดุลพินิจว่า จะลงโทษนายสมชายในสถานใดเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ใช้ดุลพินิจกลับความเห็นหรือมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535มาตรา 104 วรรคหนึ่งกำหนดว่า  ผู้กระทำผิดวินัยร้ายแรงให้ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออก แต่ห้ามลงโทษต่ำกว่การปลดออก
 
"ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงให้ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษปลดออก หรือไล่ออก ตามความร้ายแรงแห่งกรณี ถ้ามีเหตุอันควรลดหย่อนจะนำมาประกอบการพิจารณาลดโทษก็ได้แต่ห้ามมิให้ลดโทษลงต่ำกว่าปลดออก "
 
จากบทบัญญัติใน พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนดังกล่าว หมายความว่า โทษขั้นต่ำสุดของนายสมชายคือถูกปลดออกจากราชการ ซึ่งมีสิทธิเป็นไปได้สูงเนื่องจากนายสมชายไม่ได้ถูกกล่าวหาว่า ทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติมิชอบ เป็นเพียงประมาทเลินเล่อ
 
ผลก็คือ นายสมชายยังมีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญ ตามบทบัญญัติที่ว่า " ผู้ใดถูกลงโทษปลดออกตามมาตรานี้ ให้มีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญเสมือนว่า ผู้นั้นลาออกจากราชการ"(มาตรา 104 วรรคท้าย)
 
คำถามคือ เมื่อนายสมชายถูกปลดออกจากราชการย้อนหลังแล้ว จะมีผลต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่
 
เรื่องนี้ ต้องดูที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 102 ว่าด้วยบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.(6) เคยถูกไล่ออกหรือปลดออกหรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่า กระทำทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
 
แต่นายสมชายถูกปลดออกจากราชการ ฐานประมาทเลินเล่อทำให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง ไม่ใช่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ จึงไม่เข้าลักษณะต้องห้ามในการสมัคร ส.ส.ตามมาตรา 102
 
เมื่อไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 102 แล้ว สมาชิกภาพของ ส.สงจึงไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 ดังนั้น เมื่อสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายสมชายมิได้สิ้นสุดลง จึงยังคงอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ แต่ทั้งหมดนี้ว่ากันตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญเท่านั้น มิได้พูดถึงจริยธรรมซึ่งขนาดงานในขณะเป็นข้าราชการประจำซึ่งขอบเขตความรับผิดชอบน้อยกว่านายกรัฐมนตรีเป็นอันมาก ยังประมาทเลินเล่อจนเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
 
แล้วงานระดับประเทศจะมีหลักประกันอะไรว่า นายสมชายจะไม่ประมาทเลินเล่อ จนเสียหายอย่างร้ายแรงอีก ดูจากการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา มีคนเจ็บคนตายเป็นจำนวนมาก
 
แต่นายสมชายไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆแม้แต่นิดเดียว
 
@@@@@@@@@@@@@@@

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์