ศึกนอก-ศึกใน


ขณะที่ประเทศไทยกำลังวุ่นกับสงครามการเมืองภายใน

เพื่อนบ้านที่นับวันชักทำตัวเป็นอริอย่างเขมร ก็ออกก่อกวนราวีหนักข้อขึ้น

นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ประกาศกร้าว ขีดเส้นให้ไทยถอนทหารจากพื้นที่เขาวิหารภายใน 24 ชั่วโมง

มิฉะนั้น จะแปรบริเวณเขาวิหารเป็นเขตมรณะ!

ช่างก้าวร้าวและมั่นใจตัวเองสุดๆ

ทั้งเป็นความก้าวร้าวที่ค่อนข้างไร้มารยาท เพราะว่า นายสมพงษ์ อมร วิวัฒน์ รมว.ต่างประเทศ เพิ่งบินไปจับมือเอิ๊กอ๊ากกับนายฮุนเซน อยู่หยกๆ

พอคล้อยหลังกัน พวกก็พูดกับสื่อออกมาอย่างนั้น

แปลเขมรเป็นไทยก็คือ ขู่จะทำสงครามกับประเทศไทย

ช่วงที่เขมรพยายามจะผลักดันเขาวิหารขึ้นเป็นมรดกโลก จนเกิดรายการประจันหน้ากันของกองกำลัง 2 ประเทศในพื้นที่

มีข่าวว่าทหารเขมรบางคน กระเหี้ยนกระหือรืออยากรบ

หล่นความเห็นผ่านสื่ออย่างมั่นใจ อ้างถึงประสบการณ์การรบอันโชกโชนตั้งแต่ยุคเขมรแดง

อ้างถึงความคล่องแคล่วว่องไว เหนือกว่าความเชื่องช้า

แต่ท่ามกลางความกร่างอยากรบของทหารเขมรบางคน เราก็ยังได้เห็นภาพน่าประทับใจแทบทุกวัน

ทหารไทยกับทหารเขมรชักรูปคู่กันอย่างกันเอง

เพราะทหารเขากับเราที่อยู่ตรงนั้น เห็นหน้าค่าตากันจนรู้จักมักคุ้นกันดี

คงน่าสะเทือนใจหากเพื่อนต้องฆ่ากัน เพราะนโยบายของชาติ

มีคำถามกันมากว่า สมมติว่าไทยกับเขมรต้องรบกันจริงๆ

ใครจะเป็นฝ่ายชนะ

มีการวิเคราะห์กันว่าโดยภูมิประเทศเขาวิหารแล้ว ตอนนี้ทหารเขมรกุมชัยภูมิได้เปรียบกว่า

ประสบการณ์การรบแบบเขมรแดง ก็เป็นสิ่งน่าประหวั่นพรั่นพรึง

เพราะเขมรแดงเป็นพวกรบอึดรบทน แม้แต่งองค์ทรงเครื่องจะดูมอซอ ลากรองเท้าแตะ

ทหารไทยที่สวมท็อปบู๊ต จะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ต้องรอจนถึงเวลาจริงเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ ไทยกับเขมรก็มีปะทะลองเชิงกันมาแล้วรอบนึง

ฝ่ายไทยออกข่าว ทหารไทยเจ็บ 2 เขมรเจ็บ 3

แต่ข่าวจากฝ่ายเขมร ทหารไทยเจ็บ 2 ตรงกัน แต่ทหารเขมรเจ็บ 1

จำลองสงครามย่อยๆ กันแล้ว คือที่ยิงก็ยิงกันไป สงครามข่าวก็ทำกันไป

ความมั่นใจของเขมร อาจมาจากชัยชนะเรื่องข้อพิพาทเขาวิหารครั้งล่าสุด

มีชาติมหาอำนาจหนุนหลัง แม้แต่ชาติที่ไทย(เผลอ)คิดว่าเป็นมิตรอย่างอเมริกา ก็ยังหันไปหนุนเขมร

ว่ากันว่าถ้าเคลื่อนกองกำลังใหญ่ถล่มกันจริงๆ

ความได้เปรียบของไทย น่าจะอยู่ที่กองทัพอากาศ ซึ่งมีเครื่องบินรบของแท้อย่างเอฟ 5 และเอฟ 16 อยู่หลายสิบลำ

ส่วนกองทัพอากาศเขมร คาดว่า ณ เวลานี้ไม่มีเครื่องบินรบ(แท้ๆ)ให้ใช้งานแม้แต่ลำเดียว

ยกเว้นจะได้รับการหนุนช่วยจากชาติที่เป็น "แบ๊กอัพ" ใกล้เคียง ก็จะมีแต้มต่อขึ้นมา

ขืนการทูตแก้วิกฤตหนนี้ไม่ได้

กองทัพคงง่วนกับภารกิจรบ จนไม่มีเวลามาฟังเสียงเรียกร้องเรื่องการเมืองอีกต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์