ผบช.น.มีสปิริตพร้อมรับคำตัดสิน
พล.ต.ท.สุชาติกล่าวด้วยว่า
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาที่ บช.น.ในคืนวันที่ 6 ต.ค. ตนมีภารกิจไม่ได้เข้าร่วมประชุม ไม่สามารถพูดได้ว่าท่านสั่งการหรือไม่ เพราะเป็นรายละเอียดในที่ประชุม ส่วนตอนเช้ายอมรับว่าเป็นผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์นำแผนกรกฎ 48 มาใช้ เพราะตนเป็น ผบช.น. ต้องเป็น ผบ. เหตุการณ์โดยตำแหน่งอยู่แล้ว แต่คนที่เข้าไปปฏิบัติการต่างๆ เข้าไปควบคุมการปฏิบัติในพื้นที่ มีทั้งผู้บัญชาการ และรองผู้บัญชาการต่างๆอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ตลอดเหตุการณ์มีการประชุมหารือตลอดว่า ภารกิจที่มอบหมายต้องปฏิบัติการอย่างไร ตั้งแต่จะต้องทำหรือไม่ ทำไมจะต้องทำ ต้องทำอย่างไร และทำอย่างไรที่จะสูญเสียน้อยที่สุด นี่คือหลักตามแผนกรกฎ 48 ผู้สื่อข่าวถามถึงความจำเป็นในการยิงแก๊สน้ำตาจำนวนมาก พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า เป็นความจำเป็นที่จะต้องยับยั้งฝูงชน แต่ไม่ใช่การสลายหรือขับไล่ เราต้องป้องกันสถานที่สำคัญของราชการ ทั้งหมดตนขอรับผิดชอบ มันชัดเจนในตัวมันอยู่แล้วที่ตนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดทั้งวันที่ 14 ต.ค. มีประชาชนจากชุมชนต่างๆนำกระเช้าดอกไม้ อาหาร และเครื่องดื่ม มามอบให้ตำรวจที่ บช.น. เพื่อเป็นกำลังใจทั้งวัน
ยืนยันตำรวจทำสมควรแก่เหตุ
พล.ต.อ.วิสุทธิ์กล่าวต่อว่า
ตำรวจใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างมาก ไม่มีแตกแถว การตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตา เพราะต้องการให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดทาง ไม่ให้เข้ามาประชิดตัวเพราะอาจได้รับอันตราย เป็นสิ่งที่ทำไปตามสมควรแล้ว สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทั้งของรัฐบาลหรือตำรวจ เป็นเพียงการหาข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่ได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หลังตั้งคณะกรรมการฯได้ ข้อเท็จจริงออกมาแล้ว เชื่อว่าจะมีประชาชนให้กำลังใจตำรวจมากขึ้น จะได้มีอะไรชัดเจนมากขึ้น แต่สิ่งที่ต้องจำไว้เป็นบทเรียนคือ เรื่องแก๊สน้ำตา เพราะเป็นของประเทศจีน จะเห็นว่าเวลาที่ประเทศจีนใช้สลายผู้ชุมนุมจะเกิดความรุนแรง เป็นอาวุธที่รุนแรง แต่ของอเมริกาจะคำนึงถึงประชาชนในประเทศมากกว่า ตรงนี้ถือว่าเป็นจิตวิทยาของแต่ละประเทศ
ยอมรับเพิ่งใช้แก๊สน้ำตาครั้งแรก
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม.กล่าวในฐานะรองหัวหน้าประชาสัมพันธ์ และเจรจาต่อรอง ว่า
ขอยืนยันตำรวจไม่ได้มีเจตนาทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ จากการใช้แก๊สน้ำตาควบคุมฝูงชน เพราะเหตุ ลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยอมรับว่าตั้งแต่มีการสั่งซื้อแก๊สน้ำตา ได้นำมาใช้เป็นครั้งแรกกับเหตุการณ์ จริงในการสลายผู้ชุมนุมครั้งนี้ โดยชุดปราบจลาจลที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ไม่มีใครคิดว่าจะมีเหตุการณ์ ความวุ่นวายของบ้านเมือง จนต้องใช้อุปกรณ์แก๊สน้ำตาเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์
ซัด 3 บิ๊ก ตร.สั่งการสลายชุมนุม
นายกล้านรงค์กล่าวว่า ส่วนนายสมชายและ พล.ต.อ.จงรัก ในชั้นนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า
มีส่วนร่วมในการสั่งการดังกล่าวด้วย ที่ประชุม ป.ป.ช.จึงมีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวน พล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.ท.สุชาติ และ พล.ต.ต.อำนวย โดยมีนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ทั้งนี้หากการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวนปรากฏว่า มีบุคคลอื่นร่วมในการกระทำความผิดครั้งนี้ด้วย ก็ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนรวมดำเนินการต่อไป ซึ่งการทำงานของ ป.ป.ช. นั้นยึดมั่นในการทำงานอย่างเคร่งครัดและเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ