"พรทิพย์ " ระบุ ตำรวจชั้นผู้ใหญ่สรุปว่าจะไม่ลุย 7 ตุลา แต่ฝ่ายการเมืองบีบให้สลายตี 2 ผบ.ตร.ต่อรองว่า ควรดำเนินการในช่วง 6 โมงเช้า อ้างผู้บังคับบัญชาสั่งการลูกน้องในพื้นที่ไม่ได้ ปัดตอบ"บิ๊กจิ๋ว"สั่งลุยเผยมีคนสั่งการมากกว่าสองคน
แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สำนักนิติวิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์รายการ "เจาะลึกทั่วไทย" เอฟ เอ็ม 98 เมกะเฮริทซ์ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ถึงกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.แต่งตั้งให้ร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.ว่า ตอนนี้ตนทำงานในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบสวนฯ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และงานที่ ผบ.ตร.มอบให้นั้นยังตนไม่ได้ดำเนินการ ในช่วงบ่ายวันที่ 7 ต.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เชิญไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการประเมินสถานการณ์ร่วมฯ เพราะตนทำงานในภาคใต้ร่วมกับ ผบ.ทบ. และ ผบ.ทบ.คงเห็นว่าการทำงานของตนนั้นสังคมเชื่อถือจึงโยนเผือกร้อนมาให้ การประชุมวันนั้น ผบ.ตร.ก็อยากให้ตนมาช่วยงานนี้
“ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการสลายการชุมนุมในวันนั้นว่า ตำรวจชั้นผู้ใหญ่สรุปว่าจะไม่ลุย แต่ก็โดนฝ่ายการเมืองบีบมาอีกที และยังทราบว่าผู้บังคับบัญชาสั่งการลูกน้องในพื้นที่ไม่ได้ และตั้งแต่วันนั้น ผบ.ทบ.ขอให้ไปช่วยทำงานมันก็ล่าช้า จน ผบ.ทบ.ถามว่าทำไมไม่ทำงานเสียที ก็ตอบไปว่า บช.น.ไม่ตอบสนองเลยในตอนนั้น จากนั้น ผบ.ตร.จึงแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวที่มีหมออยู่ด้วยขึ้นมา และทราบว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่สั่งลูกน้องไม่ได้ เพราะมีมาสเตอร์มายด์ เพราะโดนฝ่ายการเมืองบีบให้ลุยตั้งแต่ตอนตี 2 แต่ ผบ.ตร.ต่อรองว่า ควรดำเนินการในช่วง 6 โมงเช้า” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว
เมื่อถามว่า ผู้สั่งการในวันนั้น คือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ ในขณะนั้น และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูด เพราะเป็นข้อมูลจากการรายงานในที่ประชุม เพราะอาจมีคนสั่งการมากกว่าสองคน และขอให้ไปสอบถาม ผบ.ตร.ดีกว่า
หมอพรทิพย์แฉ ตร.ไม่คิดลุยม็อบแต่ถูกฝ่ายการเมืองบีบ
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ข้อมูลข้างต้นนั้นเป็นการพูดคุยกันนอกรอบการประชุม และตนไม่ทราบว่าใครสั่งใครแต่เท่าที่ทราบนั้นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในวันนั้นมีหลายคน
ฉะนั้นสิ่งที่ตนสรุปจากผลการประชุมในวันนั้นคือ 1. วันนั้นทำไมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายชุด และหลายเครื่องแบบ โดยหนึ่งในนั้นคือตำรวจตระเวนชายแดน
2.อาวุธและแก๊สน้ำตาเบิกมาจากหน่วยใด
3.ผู้ปฏิบัติการในวันนั้นเคยผ่านการฝึกหรือไม่
4.ผู้ใหญ่บางคนในที่ประชุมวันนั้น ตั้งข้อสังเกตว่าวันนั้นยิงเพียงสามนัดก็พอ ทำไมยิงเป็นร้อยนัดแบบนั้น
5.คำสั่งในวันนั้นใครสั่ง หก เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในวันนั้นทำไมประเมินว่าสลายการชุมนุมช่วงเช้าแล้ว ทำไมต้องสลายต่อในช่วงเย็นด้วย เรื่องเหล่านี้หลายคนอิหลักอิเหลื่อที่จะพูด แต่ข้าราชการควรพูดความจริงกันได้แล้วว่าใครสั่ง
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ขอเรียนว่า นิติวิทยาศาสตร์ทำงานเพื่อพิสูจน์และแสวงหาความจริงไม่ได้ทำงานเพื่อใคร
วันนี้ขอถามสังคมไทยว่าใช้ตนพอหรือยัง ทำไมไม่ตั้งโจทย์ว่าทำไมไม่ทำงานโดยใช้ระบบ ไม่ใช่อะไรๆก็ตน เสร็จงานนี้ตนจะได้กลับลงไปทำงานในภาคใต้ เพราะตนโดนพันธมิตรฯ บริภาษอย่างมากว่าหาประโยชน์จากเหตุการณ์และพาดพิงว่า ตนใกล้ชิดกับรัฐบาลนี้ หากพันธมิตรฯ ยังพูดกันแบบนี้ตนจะทำงานได้ยาก
เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.ขอให้มาช่วยงานแต่ทำไมโดนพันธมิตรฯ โจมตี พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามพันธมิตรฯ ตนมีหลักทำงานคือเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพราะตนเป็นข้าราชการที่ต้องทำงานให้ลุล่วงในระบบ และใครจะสั่งตนให้ซ้ายหันขวาหันไม่ได้
เมื่อถามว่า พันธมิตรฯ ดิสเครดิตทำไม พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ไม่รู้ ตนเข้าใจว่าหากใครเดินในเส้นทางเดียวกันคือพวกเดียวกัน หากใครไม่มาร่วมประท้วงคือคนละพวก ตนนั้นต่อต้านการประท้วงตั้งแต่สมัย 14 ตุลา 16 แล้ว แม้จะเห็นด้วยในหลักการแต่ตนคิดว่าไม่ควรไปชุมนุม ตอนนั้นตนโดนทั้งตำรวจและนักศึกษากล่าวหาเลย ฉะนั้นตนขอเตือนว่าทุกคนรู้ดีว่าใครทำในสิ่งที่ถูก - ไม่ถูก แต่ไม่ควรระรานคนอื่นและหยุดพูดในสิ่งที่ไม่รู้จริง
เมื่อถามว่า การทำงานนี้อาจโดนมองว่าไม่เอื้อประโยชน์กับพันธมิตรฯ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูด เพราะเรื่องนี้ตนจบแล้ว ขอเรียนว่าพันธมิตรฯ ต้องดูแลผู้ชุมนุมและรัฐบาลต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่าผลทดสอบการยิงและขว้างแก๊สน้ำตาที่สลายการชุมนุมนั้นมาจากจีน อเมริกาและสเปน และพบว่าอานุภาพของจีนแรงที่สุด พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ดังที่เห็นในภาพ ตนไม่ขอพูด เมื่อถามว่าได้ตรวจสอบรถจิ๊ประเบิดที่ด้านหน้าพรรคชาติไทยแล้วหรือยัง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ทีมงานตรวจสอบแล้วและส่งผลให้ตำรวจแล้วตนไม่ขอพูด
“เหตุแก๊สน้ำตาและรถจิ๊ปนั้นมันต้องมีคำตอบทั้งสองเรื่อง” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว