เด็กพปช.ยันบิ๊กจิ๋ว ยึดหลักสันติวิธีแก้ปัญหาบ้านเมือง

วันนี้ (13 ต.ค.) นายชวลิต วิชยสุทธิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน  พรรคพลังประชาชน ในฐานะคณะทำงานของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวที่เกิดขึ้นกับ พล.อ.ชวลิต

ในลักษณะที่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนในการดำเนินการทางการเมืองว่า การดำเนินการของ พล.อ.ชวลิตไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตามจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พล.อ.ชวลิต ได้ยืนยันมาโดยตลอดในชั้นการกำหนดนโยบายว่า การแก้ไขต้องอาศัยแนวทางสันติวิธี โดยวิธีการเจรจา ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนยืนยันได้ว่า ไม่ได้เป็นคำสั่งหรือความต้องการของ พล.อ.ชวลิต  แต่อย่างใด

“พล.อ.ชวลิต รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ 6 ต.ค. ซึ่งมีการประชุมครม.นัดพิเศษ ที่พล.อ.ชวลิต เสนอให้แก้ปัญหาโดยยึดหลักสันติวิธี พร้อมให้เปลี่ยนสถานที่แถลงนโนบายจากรัฐสภาเป็นหอประชุมกองทัพไทย หรือศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งรัฐมนตรีหลายคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ประกอบกับประธานรัฐสภา ยืนยันประชุมตามวัน เวลาและสถานที่เดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง พล.อ.ชวลิต จึงเดินทางไป ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อมอบนโยบายให้ตำรวจเจรจาด้วยความละมุนละม่อม สันติวิธี หากไม่สามารถปฏิบัติการได้ก็ขอให้ขอยุติไว้ก่อน รวมทั้ง พล.อ.ชวลิต ยังเห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยไม่หนักใจและพร้อมให้ข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งไม่คิดว่าการสลายการชุมนุมของตำรวจเป็นการหักหลังของคนบางกลุ่มในรัฐบาล” ส.ส.แบบสัดส่วน  พรรคพลังประชาชน กล่าว

ส่วนการที่ผู้บัญชาการทหารบกขอให้ พล.อ.ชวลิต ชี้แจงเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ผ่านมานั้น นายชวลิต  กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต เข้าใจผู้บัญชาการทหารบกดี โดยเชื่อว่า ไม่มีเจตนาพูดกระทบ

ส่วนการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองด้วยการปฏิวัติในความหมายของ พล.อ.ชวลิต นั้น วิธีการดังกล่าวคงต้องคิดตามหลายๆ ชั้น เพราะเป้าหมายสูงสุดของนายทหารที่ได้ชื่อว่า นายทหารประชาธิปไตย ก็คือ ต้องการไม่ให้เกิดการปฏิวัตินั่นเอง