สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในบ้านเมืองเรา แต่บางทีก็เกินกรอบไป อยากขอให้ทำการต่าง ๆ ให้อยู่ในกรอบ รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัติรย์เป็นประมุข
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด
ชุดแรก เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าจะนำเรื่องต่าง ๆ มารายงานต่อประชาชนได้ในเวลาไม่นานนัก ส่วนคณะกรรมการชุดสอง มีไว้เยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ “ขณะนี้เรามีปัญหามากมายไม่ใช่เฉพาะการขัดแย้งทางความคิด การขัดแย้งทางการเมือง แต่เรามีภัยทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น ในปี 2540 เราก็เคยเผชิญมาแล้ว คราวนี้มีทีท่าว่าจะเกิดกับเศรษฐกิจของโลก เกิดวิกฤติศรัทธากับสถาบันการเงินอย่างยิ่งใหญ่ เอเชียไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่และสำคัญในภูมิภาคนี้ ในส่วนประเทศไทยมีผู้มาลงทุนในบ้านเรามากมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุน การท่องเที่ยว แม้กระทั้งราคาสินค้าเกษตร เรามีความจำเป็นต้องเตรียมการรองรับสถานการณ์นี้ไว้ให้ดี เพราะถ้าไม่ดีจะกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เรายังมีงานสำคัญ พระราชพิธีถวายเพลิงพระศพพระพี่นางฯ งานนี้รัฐบาลเตรียมการมานานแล้ว
ซึ่งขณะนี้สมบูรณ์เกือบ 100 % ส่วนการสร้างพระเมรุ เสร็จสมบูรณ์ 99% เรามีความจำเป็นต้องถวายความจงรักภักดีให้พร้อมเพรียง หลังจากนั้นต่อด้วยงานเฉลิมพระชนม์พรรษา 5 ธันวา และการประชุมอาเซียนกลางเดือนธันวาคมนี้ ปีนี้ไทยเป็นเจ้าภาพเป็นศักดิ์ศรี ไม่อยากให้ไทยเกิดความเสื่อมเสีย อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งมีความจำเป็นต้องให้บ้านเมืองดูสง่า สวยงาม สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น
“ปัจจุบันนี้มีข่าวลือมากมาย อยากขอร้องให้ประชาชนให้วิจารณญาณในการฟัง มีเหตุผลที่ดี เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือ ขณะนี้มีหลายฝ่ายให้รัฐบาลยุบสภา ให้นายกฯลาออกจากตำแหน่ง ผมไม่ยึดติดตำแหน่ง ถ้าเป็นทางออกที่ดี แต่ตอนนี้มีหลายอย่างที่ต้องทำ ถ้าเห็นทางออกที่ดีผมจะไม่รอช้าที่จะไป ถ้าเรามีทางออกที่จะพาไปสู่ความสงบสุข แต่เวลานี้เราต้องหันหน้าเข้าหากัน เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ภายใต้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” นายสมชาย กล่าว.