พธม.เคลื่อนไปสตช.พรุ่งนี้ใช้วิธีสันติอหิงสา

เมื่อเวลา10.00 น. นายพิภพธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงถึงการเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที่ 13 ต.ค. นี้ว่า
 
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนำสายบังคับบัญชาที่เป็นผู้สั่งการสลายการชุมนุมด้วยอาวุธหนักมารับผิดชอบ พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบด้วยการลาออก

ซึ่งการเรียกร้องครั้งนี้ถือว่าเข้มข้นกว่าทุกครั้งที่พันธมิตรฯ เรียกร้อง เพราะผ่านมาเป็นการเรียกร้องในฐานะที่นายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทน พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เท่านั้น แต่ครั้งนี้พันธมิตรเรียกร้องนายกรัฐมนตรีในฐานะฆาตกร

พันธมิตรฯยืนยันว่า

การเคลื่อนขบวนไปหน้า สตช. พันธมิตรฯจะไม่บุกเข้าไปข้างในเป็นอันขาด และจะไม่กระทำการใดๆ ที่นำไปสู่ความรุนแรง ดังนั้น ก็ขอให้ตำรวจ อย่าได้ใช้ความรุนแรงกับพันธมิตร เนื่องจากไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้า และจะใช้วิธีสันติ อหิงสาเท่านั้น หากเจอแนวกั้นของตำรวจ พันธมิตรก็จะนั่งลง เพราะพันธมิตร ยังเชื่อในวิธีสันติอหิงสา เชื่อในกระบวนการยุติธรรม ให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำงาน ป้องกันไม่ให้ความรุนแรงขยายตัว หากพันธมิตรไม่เชื่อมั่นในสันติก็จะทำให้เหตุการณ์บานปลายได้ ซึ่งจะเป็นที่น่าเสียดายเมื่อความสันติ อหิงสาหมดไป นายพิภพกล่าว

นายพิภพกล่าวว่า

ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจะฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อศาลทุกศาล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้กลุ่มพันธมิตรฯ จะรณรงค์แจกหนังสือ "ตำรวจฆ่าประชาชน" และวีซีดีในสถานที่ต่างๆเพื่อให้คนในสังคมได้รับรู้ รับทราบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งจะจัดส่งไปให้ทางสถานทูตทั่วโลก เพื่อให้ได้ทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเช่นกัน

เนื่องจากเหตุการณ์ 14 ตุลาจนถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ นั้นข้อมูลข้อเท็จจริงไม่ถูกนำมาเปิดเผยจึงไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษได้ เห็นได้ชัดว่าคนที่เคยทำผิดยังได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีเลย

ส่วนกระแสข่าวที่กลุ่ม นปช. จะเดินทางมายังสตช. ในวันเดียวกันกับกลุ่มพันธมิตรฯนั้น นายพิภพ กล่าวว่า

เราไม่เผชิญหน้ากับคนที่ใช้ความรุนแรง แต่เราจะประเมินสถานการณ์ในขณะที่เราเดินขบวนอยู่ ทั้งนี้ รัฐบาลควรออกมาห้าม นปช. และไม่ควรสนับสนุนคนของรัฐบาลที่อยู่ในนปช. ซึ่งรัฐบาลต้องพูดให้ชัดในเรื่องนี้ไม่เช่นนั้น แสดงว่ารัฐบาลสนับสนุนกระบวนการที่ต้องการให้เกิดความรุนแรง เพื่อต่อต้านประชาชนที่ใช้สิทธิในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อมูลของพันธมิตรฯ ที่ไปยื่นต่อสถานทูตนั้น คิดว่าทางสถานทูตจะยอมฟังข้อมูลของทางพันธมิตรหรือไม่ นายพิภพ กล่าวว่า คิดว่าทางสถานทูตคงไม่ฟัง รัฐบาลฝ่ายเดียว เนื่องจากทางสถานทูตก็มีคนของเขาคอยสังเกตการณ์

นายพิภพกล่าวว่า

ตั้งแต่วันนี้ (12 ต.ค.) จนถึงวันที่21 ต.ค. ที่จะมีการตัดสินคดีที่ดินรัชดาถือเป็น 10 วันอันตรายเพราะเราทราบมาว่าคนในพรรคพลังประชาชน รวมทั้งลิ่วล้อ พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องออกมาช่วยกันยับยั้งและให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าสู่ กระบวนการยุติธรรม เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงใดๆ ขึ้นมา ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความรุนแรงกระจายตัว และทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในสันติวิธี ซึ่งเป็นอันตรายต่อ สังคมไทย และคิดว่าข้อมูลก็คงไม่ได้มาจากทางฝ่ายรัฐบาล แต่มาจากองค์กรภาคประชาชนด้วย

เมื่อถามว่าขณะนี้มีกระแสเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติรัฐประหาร กลุ่มพันธมิตรฯ มีจุดยืนในเรื่องนี้อย่างไร นายพิภพ กล่าวว่า

กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เรียกร้องให้ทหารออกมาทำปฏิวัติ รัฐประหาร แต่เรียกร้องให้ทหารออกมาทำในสองบทบาทคือ
หนึ่งทหารต้องดูแลปกป้องประชาชน สองทหารต้องมีมโนธรรม จิตสำนึกของความถูกต้อง และแม่ทัพนายกองผู้นำทางสังคม ปลัดกระทรวงทุกกระทรวงต้องออกมาแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลนายสมชาย ที่สั่งฆ่าและทำร้ายประชาชน

นอกจากนี้ ทหารในฐานะที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธ ควรออกมาชี้แจงว่า

อาวุธที่รัฐบาลใช้ในการสลายการชุมนุมนั้น เป็นอาวุธที่รุนแรงขนาดไหน ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ออกมาแสดงท่าทีแล้วแต่ก็ยังถือว่าน้อยเกินไป ควรจะออกมาแสดงบทบาทมากกว่านี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์