"สล้าง" เตรียมตั้งกองกำลังยึดทำเนียบคืนยอมขายทรัพย์สินส่วนตัวเป็นทุน 7 แกนนำพันธมิตรฯได้ประกันตัวทั้งหมดแล้ว 3ส.ว.ใช้ตำแหน่งยื่นประกัน ค้ำคนละแสน ตร.นัดรายงานตัวอีก 24 ต.ค."สนธิ"บอกตร.ให้ความร่วมมือดี เตรียมฟ้อง"สุรพล ทวนทอง" ใส่ร้ายน้องโบว์"พกระเบิด ตร.นัด7แกนนำรายงานตัว 24ต.ค. เชื่อไม่ถูกเบี้ยว
"สล้าง" เตรียมตั้งกองกำลังยึดทำเนียบคืนยอมขายทรัพย์สินส่วนตัวเป็นทุน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) วันที่ 10 ตุลาคม พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ได้นำตัวส.ต.ต.ณัฐวุฒิ จันทร อายุ 22 ปี ตำรวจสังกัดกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.)หรือ191 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งชันเข่าเล็งอาวุธปืนพกสั้นในแนวระนาบในคลิปที่เผยแพร่ในสื่อมวลชน มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมกันนี้ก็มีส.ต.อ.ประคอง พันระกา อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 2 บก.ตปพ.ซึ่งเป็นคู่ทำงานมีหน้าที่คอยคุ้มกันรถให้ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์มาร่วมแถลงข่าวด้วย
"ตอนนี้ตำรวจตกเป็นจำเลยของสังคมจึงเลือกแถลงข่าวที่นี่เพราะเห็นว่าเป็นสื่อมวลชนที่เป็นกลาง ที่ผ่านมาตำรวจถูกเยาะเย้ยถากถาง กลุ่มพันธมิตรอ้างเบื้องสูงไปเอาน้ำดื่ม ตรา "จิตรลดา" มาแจกกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วอ้างว่าเป็นน้ำจากฟ้าประทานมา ซึ่งจริงๆ น้ำดื่มจิตลดาใครก็ซื้อได้ จนท่านผู้หญิงคนหนึ่งทนไม่ได้ไปซื้อน้ำดื่มจิตรลดามาแจกเจ้าหน้าที่ตำรวจ พูดจาอ้างเบื้องสูงอยู่ทุกวันเพื่อถากถางตำรวจ หลังเกิดเหตุแพทย์โรงพยาบาลหนึ่งก็ไม่รักษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ให้กำลังใจตำรวจว่าหมอดีๆ มีอีกเยอะมากกว่าหมอชั่วๆ " พล.ต.อ.สล้าง กล่าว
“มีตำรวจมาพูดกับผมว่าตอนนี้ตำรวจไม่กล้าทำงานเพราะผู้ใหญ่ไม่กล้าตัดสินใจ ผมจึงคิดกับเพื่อนตำรวจนอกราชการที่อดีตเคยเป็นครู ตชด. ปจ. คอมมานโด กองปราบปราบ ตั้งกองกำลังกู้ทำเนียบรัฐบาล โดยจะเสนอรัฐบาลว่าจะเข้าไปยึดทำเนียบคืนเอง เบื้องต้นรวบรวมตำรวจนอกราชการได้กว่า 1,000 นาย ซึ่งถ้าหากตำรวจในราชการอยากร่วมด้วยก็ขอให้ไปลาราชการมาร่วมกันทำงาน ส่วนชาวบ้านทั่วไปก็มาร่วมได้แต่ให้มาทำงานในส่วนอื่นเพราะไม่ได้รับการฝึกมา ซึ่งกองกำลังสามารถรวบรวมได้ภาย ใน 5 วัน ส่วนเรื่องเงินทุนถ้าไม่มีใครบริจาคสนับสนุน จะขายทรัพย์สินส่วนตัวซึ่งเป็นเหรียญที่มีค่าที่ตนเองเก็บไว้มานาน จะมีการประมูลขายใครสนใจสนับสนุนก็ให้ติดต่อมาได้" พล.ต.อ.สล้างกล่าว
ตร.นัด7แกนนำรายงานตัว 24ต.ค. เชื่อไม่ถูกเบี้ยว
พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น. 1 เปิดเผยภายหลังสอบสวนแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจำนวน 7 คน ซี่งเข้ามอบตัวตั้งแต่ช่วงเช้า วันนี้(10 ต.ค.) ว่า ทางพนักงานสอบสวนได้นัดแกนนำกลุ่มดังกล่าวมารายงานตัว ในวันที่ 24 ต.ค. ซึ่งข้อหาจะแจ้งเพิ่มหรือไม่ขึ้นอยู่กับขั้นตอนสอบสวน แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้แจ้งเพียงข้อหาตามที่ศาลได้ออกหมายจับให้ ทั้งนี้ไม่สามารรถบอกได้ว่าจะสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการเมื่อใด ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะสรุปสำนวนแล้วเสร็จเมื่อใด ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่มีข้อหนักใจ เชื่อว่าวันที่ 24 ต.ค.แกนนำพันธมิตรฯทั้ง 7 คนจะมารายงานตัวตามที่พนักงานสอบนัดหมาย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครองไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับประชาชนผู้ชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า ตำรวจไม่รู้สึกหนักใจ และที่ผ่านมาก็ได้ใช้ความละมุ่นละม่อนมาตลอด
แกนนำพันธมิตรฯได้ประกันตัวหมดแล้ว
นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตรฯ เปิดเผยภายหลังได้รับการประกันตัว เมื่อเวลา 12.40 น. ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาตให้แกนนำทั้ง 6 คนให้ประกันตัวได้ โดยไม่มีเงื่อนไข โดยมีใช้ตำแหน่ง ส.ว. ประกัน 3 คน คือนายคำนูญ สิทธิสมาน, นายสาย กังกเวคิน และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ในวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกันคนละ 1 แสนบาท แต่ในส่วนของนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นส.ส. มีเอกสิทธิ์คุ้มครองตัวเองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯยังคงจะเดินหน้าทวงถามความชอบธรรมกับการสลายการชุมนุมของตำรวจเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ต่อไป ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานมีผู้สูญหายกับเหตุการณ์กว่า 10 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด
นายสุริยะใส กล่าวต่อไปว่า จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมทั้งในและต่างประเทศ ตามช่องทางรัฐธรรมนูญ ทั้งป.ป.ช. และศาลปกครอง เพื่อหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ส่วนที่เหลืออีก 2 ข้อหาที่พันธมิตรฯ ถูกระบุมีการมั่วสุมนั้น พันธมิตรฯ ยืนยันมาตลอดว่าเราชุมนุมอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ซึ่งภายหลังจากนี้แกนนำจะหารือวางยุทธศาสตร์ เคลื่อนไหวต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการตรวสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า หากเป็นคณะกรรมการที่น่าเชื่อถือ และมีอำนาจเต็ม พันธมิตรฯ รับได้ แต่ยอมรับทุกเงื่อนไขที่ให้ความสำคัญกับการใช้กลไกของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และศาลยุติธรรมมากกว่า เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ
"สนธิ"เตรียมฟ้อง"สุรพล"ใส่ร้าย"โบว์"พกระเบิด
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่า ตนจะให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการฟ้องร้อง พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะรองโฆษกสำนักงบานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้สัมภาษณ์ใส่ร้ายผู้ชุมนุม โดยเฉพาะพูดถึงการเสียชีวิตของนางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ ว่า เพราะพกระเบิดใส่กระเป๋ามาเองแล้วเกิดระเบิดขึ้นถึงเป็นชนวนเหตุให้เสียชีวิต
แกนนำพันธมิตรฯ ได้ประกันตัวแล้ว "สนธิ"บอกตร.ร่วมมือดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 10 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.นางเลิ้ง ได้ให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ถูกออกหมายจับ ประกันตัวแล้ว หลังจากถูกสอบสวนนานเกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าแกนนำที่เหลือ ประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายอมร อมรรัตนานนท์ และ นายเทิดภูมิ ใจดี จะได้ประกันตัวเช่นเดียวกัน
นายสนธิ กล่าวว่า การมอบตัวในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีการกักขังแต่อย่างใด
แกนนำพธม.มอบตัวแล้ว ใช้ตำแหน่ง3ส.ว.ประกันตัว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.45 น. เช้าวันที่ 10 ตุลาคม นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำทีมแกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกออกหมายจับรวม 7 คน ประกอบด้วยนายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายอมร อมรรัตนานนท์ และ นายเทิดภูมิ ใจดี เดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อเข้ามอบตัวและยื่นขอประกันตัวต่อพนักงานสอบสวน
ขณะที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรฯ มั่นใจว่า แกนนำทั้งหมดจะได้รับการประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไข เหมือนเช่นกรณี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แต่หากได้รับการประกันตัวแต่มีเงื่อนไข หรือไม่ได้รับการประกันตัวเราจะขอประกันตัวในชั้นศาล ทั้งนี้ จะเตรียมวงเงินประกันตัวคนละ 1 แสนบาท และใช้ตำแหน่ง ส.ว. 3 คนยื่นขอประกันตัว ซึ่งนำโดยนายคำนูน สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา
ทั้งนี้ นายสมเกียรติ กล่าวว่า จะไม่ใช้เอกสิทธิ์ในการเป็น ส.ส.ยื่นประกันตัว และเรื่องการมามอบตัวก็ยังไม่ได้แจ้งต่อรัฐสภาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การมามอบตัวของแกนนำพันธมิตรฯเป็นไปอย่างเงียบๆ โดยไม่มีผู้ชุมนุมมาให้กำลังใจ และมีผู้ติดตามส่วนหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีการกระทบกระทั่งเล็กน้อยระหว่างการ์ดพันธมิตรฯและสื่อมวลชน แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง
7 แกนนำพธม.ติดต่อขอมอบตัวสน.นางเลิ้ง 10 โมงเช้า
พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 7 คนได้ประสานขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้งแล้ว ในเวลา 10.00 น. ภายหลังที่ศาลอุทธรณ์เพิกถอนหมายจับข้อหากบฏ ทั้งนี้ เมื่อแกนนำเข้ามอบตัวแล้ว พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำโดยไม่มีเงื่อนไขในการประกันตัว แต่หากมีการยื่นประกัน ก็ต้องพิจารณาไปตามกฎหมาย ป.วิอาญา หากพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วให้ประกันตัว ก็ให้ปล่อยตัว แต่หากไม่ให้ประกันตัว ก็ต้องเสนอเรื่องมาที่ตนอีกครั้งเพื่อพิจารณา
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า การเข้ามอบตัวครั้งนี้คงไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจาก แกนนำได้ประสานขอเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง และแกนนำคงทราบดีว่า การนำผู้ชุมนุมมาเป็นจำนวนมาก อาจสร้างความวุ่นวายหรือความล่าช้าในการปฏิบัติหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้
แม่"สารวัตรจ๊าบ"รับศพลูกชาย ยันไม่ใช่เจ้าของรถจี๊ป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นางบุปผา ชาติมนตรี มารดาและครอบครัว พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี แกนนำพันธมิตรฯ จังหวัดบุรีรัมย์และน้องเขยนายการุณ ใสงาม แกนนำพันธมิตรฯ ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดรถจี๊ปเชอโรกี หน้าที่ทำการพรรคชาติไทย เดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยนางบุปผากล่าวยืนยันว่า รถจี๊ปดังกล่าวไม่ใช่ของบุตรชาย ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานตำรวจ สน.ดุสิต รอผลการสอบสวนในที่เกิดเหตุ มาใช้ประกอบกับผลการตรวจดีเอ็นเอของโรงพยาบาล ที่ยืนยันว่า เป็นศพบุตรชาย อย่างไรก็ตาม ส่วนงานศพยังไม่ตัดสินใจว่า จะจัดที่กรุงเทพฯ หรือบุรีรัมย์
ขณะที่นางรุ่งทิวา ธาตุนิยม อายุ 45 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุม โดยมีอาการกล้ามเนื้อสมองช้ำ ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลราชวิถีได้ผ่าตัดเอาเลือดคั่งในสมองออกถึง 3 ครั้ง ล่าสุดได้ย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์แทนแล้ว และทางโรงพยาบาลเตรียมผ่าตัดให้ด่วน
พธม.โคราชแห่โลงศพ ชู"สารวัตรจ๊าบ-โบว์"วีรชนคนกล้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยภาคเอกชนและแพทย์-พยาบาลต่อต้านรัฐบาล โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนกว่า 500 คน ได้ร่วมตัวกันใส่ชุดดำและเดินประท้วงพร้อมแห่โลงศพ พวงหรีดและรูปของพ.ต.ต.เมธี ชาติมนตรี และนางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ตำรวจปะทะกลุ่มพันธมิตรฯ ตามถนนสายต่างๆ เพื่อประณามการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้น กลุ่มดังกล่าวได้เดินเท้าไปปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3ให้ระงับการจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด เข้าไปสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมในกรุงเทพฯ และเคลื่อนตัวไปยังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องต่อนายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และไปยังกองทัพภาคที่ 2 หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้าไปรวมกันที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) เพื่อประกาศสดุดีวีรชนคนกล้าของพันธมิตรฯ ก่อนจะสลายตัวไป โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆเกิดขึ้น
"สนธิ"นัดเคลื่อนพลบุกสตช.จันทร์นี้
ก่อนหน้านี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล กล่าวเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 9 ตุลาคมว่า วันนี้เป็นวันปลิ้มปีติ ยิ่งเห็นภาพ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ถูกปล่อยตัวแล้วยิ่งปลื้มใจ จนน้ำตาไหล
จากนั้น นายสนธิ ได้เปิดโปงนายตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข่นฆ่า และทุบตีประชาชน โดยได้ระบุชื่อนายตำรวจบางคนที่ได้รับข้อมูลมาเบื้องต้น ซึ่งเป็นคนอรัญประเทศ นำกำลังมาจากอรัญประเทศ เป็นคนสั่งยิงพี่น้องประชาชนในวันสลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาคม
นายสนธิ กล่าวว่า ในวันจันทร์นี้ เวลา 09.00 น.จะไปแสดงประชามติที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะนัดพบกันที่สนามกีฬาแห่งชาติ พร้อมกันนี้ ระหว่างทางจะแจกภาพถ่าย หลักฐานที่ตำรวจทุบตีเข่นฆ่าประชาชนด้วย เพื่อประจานหลักฐานที่ว่าตำรวจบอกว่ามีแต่แก๊สน้ำตา
แจกหนังสือประจานชั่ว 5 ล้านเล่ม
นายสนธิ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้กำลังจัดพิมพ์หนังสือรวบรวมภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยใช้ชื่อหนังสือว่า "ตำรวจฆ่าประชาชน" เพื่อรวบรวมภาพถ่ายจับโกหกตำรวจ และรวบรวมหลักฐานว่าตำรวจคนใดบ้างที่ร่วมเข่นฆ่าประชาชน โดยจะพิมพ์จำนวนไม่อั้น ประมาณ 5 ล้านเล่ม เพื่อจะให้คนไทยเก็บหลักฐานนี้ไว้เป็นประวัติศาสตร์ และให้พวกตำรวจและครอบครัวได้อาย ทั้งนี้ หนังสือเล่มนี้จะแจกพร้อมซีดีจะแจกไปทั่วประเทศจำนวนไม่อั้น
“จำลอง” ท้า “สมชาย” ยืนเป็น“เป้ายิง” ระยะเผาขน
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรก เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม หลังจากได้รับอิสระภาพจากข้อหากบฏ โดยกล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้อาวุธหนักสลายการชุมนุม เป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กับนายตำรวจ ออกมาชี้แจงเป็นพัลวัน เรื่องใช้เพียงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ แต่คำชี้แจงเหล่านั้นโกหก โดยเฉพาะ นายสมชาย ที่บอกว่า จะไม่สลายการชุมนุม และที่เขาไม่สลายการชุมนุม เพราะเขากลัวว่าประชาชนจะลุกฮือขึ้นต่อสู้ อีกทั้งวันนี้ศาลปกครองได้ออกคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินห้ามาตำรวจใช้ความรุนแรง ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องกลัว และถ้ารัฐบาลอยากจะสลายการชุมนุมก็ทำได้เลย เพราะจะได้จบสิ้นเสียที
“ที่ นายสมชาย ออกมาระบุว่า การสลายการชุมนุมนั้น เป็นการปฏิบัติการที่ไม่รุนแรง แต่แพทย์ซึ่งรักษาคนเจ็บออกมามาเปิดเผยว่า บาดแผลที่รักษาคนที่ไปร่วมชุมนุมนั้น ไม่ได้เกิดจากแก๊สน้ำตา อีกทั้งการยิงแก๊สน้ำตาตามหลักสากลที่นายสมชาย ระบุนั้น ก็ไม่ใช่วิธีการตามที่หลักสากลเขาใช้กัน ถ้านายสมชายแน่จริง ก็ขอให้มายืนแล้วให้ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ตัวในระยะเผาขน” พล.ต.จำลอง กล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ที่แย่ที่สุด คือ ตำรวจทำร้ายประชาชน ถ้าหากใครมีญาติเป็นตำรวจที่สลายการชุมนุม ขอให้ฝากไปบอกด้วยว่า หากแน่จริงให้ลงไปในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ ตนผ่านสนามรบมามากมาย ถึงขนาดฆ่าต้องฆ่า จับต้องจับ และถ้าฆ่าศึกไม่มีอาวุธ เราก็ต้องจับ แต่ตำรวจที่สลายการชุมนุมกลับใช้อาวุธกับประชาชนมือเปล่า ฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องกลัวว่าจะโดนสลายการชุมนุม
เตือน7แกนนำ มอบตัวต้องประกันโดยไม่มีเงื่อนไข
พล.ต.จำลอง เปิดเผยต่อว่า ที่มีการถามว่า ทำไมแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 9 คน ถึงไม่ไปมอบตัวตั้งแต่ต้น นั่นก็เพราะว่าเราไม่ยอมรับข้อหากบฏ ทั้งๆ ที่พวกเขานั่นแหละที่เป็นกบฏ ที่สำคัญวันนี้ศาลตัดสินแล้วว่า ข้อหากบฏที่เราถูกกล่าวหานั้น เลื่อนลอย รวมทั้งศาลยังรับรองว่า จะให้ประกันโดยไม่มีเงื่อนไข ฉะนั้นเราจึงประกันตัวออกมา
พล.ต.จำลอง กล่าวเตือนว่า พวกเราแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 7 คนที่เคยถูกออกหมายจับด้วยกันว่า จะต้องระวังตัวเอาไว้ ถ้าประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไข เราถึงจะยอมไปมอบตัว
ศาลให้ประกัน3นักรบศรีวิชัยบุกNBTเพิ่ม เหลืออีก4คน
ก่อนหน้านี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นางรัศมี ไวยเนตร ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ เดินทางมายื่นคำร้องขอประกันตัวอีก 7 นักรบศรีวิชัยการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันใช้กำลังบุกรุกเข้าไปยึดอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) เมื่อเช้ามืดวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยใช้กำลังและมีอาวุธและความผิดอื่นรวม 6 ข้อหา ซึ่งความผิดที่มีโทษจำคุกสูงสุดคือ ฐานบุกรุกซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบด้วย นายจำแลง คุ้มสังข์ ผู้ต้องหาที่ 5 , นายจีรวัฒน์ คงหนู ที่ 31 , นายวิเชียร เขียวเล็ก ที่ 33 , นายสุรสิทธิ์ แย้มประชา ที่ 36 , นายมานิต อรรถรัฐ ที่ 42 , นายสุรเดช วราภรณ์ ที่ 49 และ นายอำไพ สิริชยานนท์ ที่ 73 ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นชุดสุดท้ายจากจำนวนผู้ต้องหาทั้งหมด 82 คน ที่ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ย่านพรระโขนง เนื้อที่ 1 ไร่ 57 ตารางวา
โดยศาลพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์แล้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาเพียง 3 คนประกอบด้วยนายจีรวัฒน์ คงหนู ที่ 31 , นายวิเชียร เขียวเล็ก ที่ 33 และ นายมานิต อรรถรัฐ ที่ 42 ซึ่งศาลตีราคาประกันคนละ 200,000 บาทและมีข้อกำหนดห้ามมิให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไปก่อเหตุอันตรายประการใดในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้นศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกัน โดยศาลกำหนดให้ผู้ต้องหามารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 13 ตุลาคมนี้
ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 คนประกอบด้วย นายจำแลง คุ้มสังข์ ผู้ต้องหาที่ 5, นายสุรสิทธิ์ แย้มประชา ที่ 36 , นายสุรเดช วราภรณ์ ที่ 49 และ นายอำไพ สิริชยานนท์ ที่ 73 ศาลยังไม่พิจารณาประกันเนื่องจากผู้ต้องหายื่นเอกสารประกอบคำร้องไม่ครบถ้วน
ทั้งนี้ นางรัศมี ไวยเนตร ทนายความ กล่าวว่า จะประสานให้ญาติผู้ต้องหานำเอกสารมาเพิ่มเติมให้ครบถ้วนเพื่อยื่นคำร้องขอประกันใหม่ต่อไป
ศาลอุทธรณ์ถอนหมายจับ "กบฏ"
ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเพิกถอนหมายจับข้อหากบฏแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 9 คน แต่ยังคงให้มีหมายจับในข้อหาทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 ตุลาคม ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 701 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้ร้องขอออกหมายจับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตร นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายอมร อมรรัตนานนท์ และนายเทิดภูมิ ใจดี แนวร่วมพันธมิตร ผู้ต้องหาที่ 1-9 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏและอื่นๆ รวม 5 ข้อหา โดยผู้ต้องหาทั้ง 9 คนยื่นอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนหมายจับ
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้การกระทำต่างๆ ของผู้ต้องทั้ง 9 คนอาจเป็นความผิดต่อกฎหมาย และพนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาว่าผู้ต้องหาทั้ง 9 คนกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ แต่ก็ยังไม่มีเหตุอันควรที่จะออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 คนในความผิดดังกล่าว เพราะเป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ค่อนข้างจะเลื่อนลอย
อย่างไรก็ตาม การกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 9 คน การชุมนุมที่บริเวณถนนราชดำเนินนอกก็ดี ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ก็ดี และการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลก็ดี เป็นการก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองจนเป็นเหตุให้ประชาชนเดือดร้อน คำสั่งของศาลชั้นต้นในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และมาตรา 215 วรรค 3 ส่วนนี้จึงชอบแล้ว
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 คน เฉพาะข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 114 และ 216 นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ส่วนผู้ต้องหาที่ 2-6, 8 และ 9 ให้ออกหมายจับใหม่ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และมาตรา 215
ศาลให้ประกัน "จำลอง-ไชยวัฒน์"
ต่อมานายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ส.ว.สรรหา ยืนคำร้องพร้อมใช้ตำแหน่ง ส.ว. ของตัวเอง ตีราคาได้ 1,043,300 บาท ขอประกันตัว พล.ต.จำลองและนายไชยวัฒน์ ที่ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยื่นประกันตัวไป โดยตีราคาประกันคนละ 100,000 บาท
เมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่นำคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อปล่อยตัว พล.ต.จำลองและนายไชยวัฒน์ โดยมีนายณัฐพร โตประยูร ทนายความ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และผู้สนับสนุนมารอรับด้านหน้าเรือนจำ และทันทีที่เจ้าหน้าที่นำตัว พล.ต.จำลองและนายไชยวัฒน์ออกจากประตูเรือนจำ ทั้ง 2 คนได้ยกมือไหว้พระพุทธรูปด้านหน้าเรือนจำ จากนั้นขึ้นรถเบนซ์ ทะเบียน ชร-3633 ออกไป
พล.ต.จำลองให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้ที่ไม่ยื่นประกันตัวเพราะไม่ยอมรับในข้อหากบฏ เนื่องจากมันเป็นเรื่องเลื่อนลอย และการที่ตนถูกจับในวันที่ 5 ตุลาคม เพราะต้องการไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ตามกฎหมายไม่มีนัยใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากนี้จะฟ้องร้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
"จำลอง" ตัดผมก่อนไปร่วมม็อบ
ต่อข้อถามว่า จะป้องการสูญเสียและบาดเจ็บของผู้ชุมนุมอย่างไร พล.ต.จำลอง ย้อนถามอย่างมีอารมณ์ว่า ความสูญเสียเกิดจากใคร พันธมิตรใช้ยุทธการดาวกระจายมาหลายครั้งไม่เคยเกิดเหตุสูญเสีย สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพวกนรกป่วนกรุง ไม่ใช่ความผิดของเรา เขาไม่ได้เจ็บและตายเพราะเรา ส่วนเหตุระเบิดในรถเชอโรกีของแกนนำพันธมิตร ตนไม่ขอตอบคำถามนี้
"นายกฯและตำรวจยืนยันว่าใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมตามหลักสากล ก็ไม่เป็นความจริงเพราะมีคนตาย แขนขาขาด ผมขอเสนอให้สาธิต จ่อยิงแก๊สน้ำตากับนายกฯ เพื่อดูว่าผลจะออกมาอย่างไร" พล.ต.จำลองกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หลังจากนี้จะทำอะไรต่อไป พล.ต.จำลองกล่าวว่า จะออกไปตัดผม เพราะผมยาว หลังจากนั้นจะไปพบกับพี่น้องที่ทำเนียบรัฐบาล
หลังให้สัมภาษณ์ พล.ต.จำลองกลับไปให้ พ.ต.หญิง ศิริลักษณ์ ศรีเมือง ภรรยา ตัดผมที่บ้าน จากนั้นไปร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 18.20 น. ทั้งนี้ช่วงเช้า พ.ต.หญิงศิริลักษณ์เข้าเยี่ยมและแนะนำให้ พล.ต.จำลองประกันตัว
7พันธมิตรประสานตร.ขอมอบตัว
ด้านนายณัฐพร โตประยูร หัวหน้าทีมทนายความ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า หลังจากนี้ฝ่ายกฎหมายจะฟ้องกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ออกหมายจับข้อหากบฏกับแกนนำพันธมิตร
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนำพันธมิตร กล่าวว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายกข้อหากบฏและความมั่นคงทั้งหมด คงเหลือแต่มาตรา 116 คือการปลุกปั่นยุยงประชาชนให้กระด้างกระเดื่อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และมาตรา 215 คือ มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ผู้ใดเป็นหัวหน้ามีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ชี้ให้เห็นว่าพนักงานสอบสวนทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 200 คือแจ้งข้อหาเกินจริง ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่จะต้องหารือกับแกนนำอีกที
เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากแกนนำพันธมิตรว่า ผู้ต้องหาอีก 7 คนขอเข้ามอบตัวในวันที่ 10 ตุลาคม
ศาลปค.สั่งตร.สลายชุมนุมเท่าที่จำเป็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจรวม 6 คนขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งฉุกเฉินมิให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมอีก วันเดียวกันนี้ ศาลปกครองกลางพิจารณาว่าการที่ผู้ฟ้องแสดงเจตนาไปรัฐสภาเพื่อไม่ให้มีการประชุมรัฐสภาในวันที่ 7 ตุลาคม โดยปิดล้อมประตูทางเข้าทุกด้านเพื่อมิให้ ส.ส.และ ส.ว.เข้าและออกรัฐสภาได้ โดยใช้รั้วลวดหนาม ยางรถยนต์ราดน้ำมันขวางกั้นถนนไว้ การกระทำดังกล่าวจึงมีลักษณะทำให้ผู้อื่นกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย และเสรีภาพ จนไม่กล้าเข้าและออกจากรัฐสภา อันเป็นการกระทบสิทธิเสรีภาพผู้อื่น การชุมนุมดังกล่าวจึงมิใช่การชุมนุมโดยสงบอันจะได้รับการคุ้มครองตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ
อีกทั้งการปิดกั้นดังกล่าวเป็นไปเพื่อมิให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา อันจะทำให้คณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดินไม่ได้ตามมาตรา 176 ของรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีหน้าที่ที่จะเข้าสลายการชุมนุมได้
อย่างไรก็ตาม การสลายการชุมนุมของตำรวจจะต้องกระทำเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความเหมาะสม มีลำดับขั้นตอนตามหลักสากล ไม่อาจดำเนินการตามอำเภอใจได้ ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าการสลายการชุมนุมในวันดังกล่าวมีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากโดยผู้ร่วมชุมนุมไม่ได้รับการแจ้งเตือน ประกอบกับขณะนี้ยังมีการชุมนุมของประชาชนกลุ่มต่างๆ อยู่ที่อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายและไม่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจต้องเข้าสลายอีก ศาลจึงมีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินการเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความเหมาะสม และมีลำดับขั้นตอน และให้ ผบ.ตร.บังคับบัญชาให้เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล และให้นายกฯใช้อำนาจหน้าที่ดำเนินการให้ สตช.ปฏิบัติตามมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองชั่วคราวตามคำสั่งศาลจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอื่น
นปช.ให้กำลังใจตร.-โห่ไล่พันธมิตร
เมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน กลุ่มวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ กลุ่มวิทยุชุมชนคนจริงใจ วิทยุชุมชนคนรู้ใจ องค์กรพิทักษ์ความเป็นธรรม กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และ นปช. ไปมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และขอบคุณตำรวจที่สลายการชุมนุม ระหว่างนั้น ผศ.ดร.ร.ท.สัตวแพทย์หญิง เนาวรัตน์ สุธัมนาถพงษ์ สัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์จุฬา แต่งชุดดำ ถือพวงหรีดสีดำ มีข้อความ แด่..ผู้ที่ควรจะ พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่ทำร้ายประชาชน ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง มายืนอยู่หน้าป้ายสำนักงานงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีชายสวมเสื้อแดง แนวร่วม นปช. ตะโกนด่าทอด้วยคำหยาบคาย จากทางเดินลอยฟ้า ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเดินลงมาข้างล่างและด่าทอ ผศ.ดร.ร.ท.หญิง สัตวแพทย์หญิง เนาวรัตน์ในระยะประชิด โดยตำรวจได้แต่ยืนดูอยู่ห่างๆ ก่อนที่ ผศ.ดร.ร.ท.หญิง สัตวแพทย์หญิงเนาวรัตน์จะวางพวงหรีดไว้หน้าป้าย ตร. และเดินทางกลับ
ผศ.ดร.ร.ท.หญิง สัตวแพทย์หญิงเนาวรัตน์ กล่าวว่า ตนมาในนามส่วนตัว ไม่เอาสถาบันมาเกี่ยวข้อง เพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยการกระทำของตำรวจ และขอประณามในฐานะคนไทยคนหนึ่ง
นปช.ชี้ "พลังเงียบ" จะเต็มแผ่นดิน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน (พปช.) อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่แผด็จการ (นปก.) กล่าวถึงกรณีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดกิจกรรมที่สนามหลวงเมื่อวันที่ 10-14 ตุลาคม ว่า สถานการณ์วันนี้เชื่อว่ากลุ่มคนที่รักประชาธิปไตยไม่มีใครอดทนเป็นพลังเงียบอยู่บ้านเฉยๆ ได้แล้ว แต่ทุกคนต้องการออกมาแสดงพลังเพื่อรักษาบ้านเมือง
"เชื่อว่าคนจะออกมาเต็มแผ่นดิน หากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งวันเวลานั้นเรายังไม่ได้นัดหมายกัน แต่มีสถานการณ์เป็นตัวกำหนด ผมเชื่อว่าคงไม่นานจากนี้เท่าใดนัก" นายจตุพรกล่าว
นายศักดา นพสิทธิ์ ว่าที่โฆษกพรรคเพื่อไทย คนสนิทนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) ให้สัมภาษณ์ "มติชน" กรณีศาลอุทธรณ์เพิกถอนหมายจับข้อหากบฏ 9 พันธมิตรว่า ถือเป็นการใช้กฎหมายที่สร้างบรรยากาศที่ดีต่อการพูดคุยเจรจากัน บรรยากาศขณะนี้มีความเหมาะสมที่รัฐบาลจะเปิดการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรต่อไป
นายศักดากล่าวว่า ขณะนี้แกนนำในรัฐบาลหารือกัน เพื่อเตรียมตั้งคณะกรรมการในลัก
อดีตรองอธิบดีฯตร. เตรียมลุยม็อบประกาศตั้งกองกำลังยึดทำเนียบคืน ยอมขายทรัพย์สินส่วนตัวเป็นทุนสู้
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง อดีตรองอธิบดีฯตร. เตรียมลุยม็อบประกาศตั้งกองกำลังยึดทำเนียบคืน ยอมขายทรัพย์สินส่วนตัวเป็นทุนสู้