ส่วนกรณีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศล้มไม่เข้าร่วมประชุม4ฝ่าย นายประสพสุข กล่าวว่า เ รื่องนี้ยังอยู่อีกไกล กว่าจะถึงวันที่ 20 ต.ค.สถานการณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และการหารือเป็นเพียงมาตรการหนึ่งข้อหายุติความขัดแย้งทางการเมือง สำหรับตนยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเด็ดขาด แต่คิดว่าเมื่อเข้าไปร่วมแล้วก็น่าจะร่วมต่อไป อย่างน้อยที่สุดก็เข้าไปเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาโครงสร้างที่มาของส.ส.ร.ที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์และนำมาเปิดเผยได้ ส่วนฝ่ายค้านถอนตัวไปก็คงมีผลบ้าง แต่ถ้าเราไม่หาช่องที่จะแก้ไขเยียวยาปัญหาปล่อยไปตามยถากรรมก็คงเป็นไปไม่ได้
เมื่อถามว่าทางกลุ่มพันธมิตรยืนยันต่อต้านรัฐบาลว่าไม่มีความชอบธรรมแล้ว นายประสพสุข กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุดการประชุม 4 ฝ่ายก็จะได้ความเห็นทางทุกฝ่าย รวมถึงความเห็นจากนายกฯด้วยในการแก้ไขสถานการณ์ว่าจะนำสังคมกลับคืนสู่ความสงบสุขร่มเย็นอย่างไร ดีกว่าจะไม่พูดคุยกันเลย และปล่อยให้รัฐบาลทำไปตามยถกรรมอย่างเดียว ส่วนใครจะไม่เชื่อถือรัฐบาลเป็นอีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งตนเห็นว่าการพูดจากันยังได้ประโยชน์อยู่
ต่อข้อถามว่าถึงเวลาที่รัฐบาลจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการยุบสภาหรือยัง นายประสพสุข กล่าวว่า จะบอกว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล และสภา วุฒิสภาไปก้าวล่วงไม่ได้ ทางออกต้องทำให้นุ่มนวล เหมาะสม ทุกฝ่ายยอมรับได้ อย่างน้อยที่สุดต้องเจรจากัน ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยังมีอยู่ อย่าทิ้งเรื่องการเจรจา ไม่อย่างนั้นก็คงจบด้วยดีไม่ได้ ถึงแม้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯจะลาออกไป ก็หาคนใหม่ ซึ่งสื่อก็คงทราบดีว่าใครที่เป็นกลางและสังคมที่เชื่อ เมื่อถามต่อว่าผู้ใหญ่อย่างนพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโสก็ออกมาปฎิเสธ นายประสพสุข กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่านพ.ประเวศยังคงเหมาะสมที่เป็นผู้ใหญ่ในการเจรจากับทุกฝ่าย และไม่คิดว่าท่านจะปฎิเสธเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องผู้ใหญ่ที่เป็นกลางทางที่ประชุม 4ฝ่ายได้ข้ามไปถึงขั้นตอนการตั้งส.ส.ร.3แล้วและการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของคปพร.มาพิจารณาทำให้กลุ่มพันธมิตรเคลื่อนไหว นายประสพสุข กล่าวว่า คิดว่าส.ส.ร.ยังไม่มีโครงสร้างอะไรมาเลย จะไปบอกว่าใช้ไม่ได้อย่างไร ตอนนี้มีคนจำนวนมากที่พิจารณาว่าควรจะแก้หรือไม่ควรแก้ ส.ส.ร.3ที่จะตั้งขึ้นมาก็คือการกำหนดว่าจะแก้ไขส่วนไหน ถ้าไม่แก้ไขก็ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดยังเป็นช่องทางให้นักวิชาการและประชาชนทุกฝ่ายได้มาพูดกันได้ ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็น่าไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่าทางส.ว.จะพูดคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาของชาติได้อย่างไร นายประสพสุข กล่าวว่า กำลังพูดคุยหาช่องทางกันอยู่ ทุกคนล้วนเป็นห่วงสถานการณ์ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้น เมื่อถามว่ากลุ่ม 40 ส.ว.เรียกร้องให้รัฐบาลควรจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกและยุบสภา นายประสพสุข กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น แต่ก็เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งระบอบประชาธิปไตยมีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่ไม่ใช่ความแตกแยก ถ้ามีความเห็นเหมือนกันก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านและส.ว.บางส่วนมองว่าการแถลงนโยบายของรัฐบาลเป็นการสถาปนาอำนาจและตีตรายางให้กับรัฐบาล นายประสพสุข กล่าวว่า เราต้องอยู่ในกรอบกติกาของกฎหมาย กฎหมายระบุว่ารัฐบาลจะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งมีองค์ประกอบส.ส.และส.ว. หากองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งก็ถือว่าทำถูกต้องตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นการแถลงนโยบายน่าจะใช้ได้ หลังจากนี้รัฐบาลก็จะได้บริหารราชการแผ่นดินได้ เมื่อถามว่าฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมประชุมถือว่าขาดความชอบธรรมหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า การเข้าร่วมประชุมหรือไม่ถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละท่าน แต่ก็ไม่ทำให้องค์ประกอบของรัฐสภาเสียไป เมื่อถามว่าทางการเมืองถือว่าถูกต้องหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ทางการเมืองตนไม่ขอวิจารณ์ ขอพูดเรื่องกฎหมายอย่างเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาเรื่องกัมพูชาที่ค้างการพิจารณาหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ช่วงนี้ยังไม่มี เพราะยังไม่จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องประชุมรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่า ที่ห้องทำงานน.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานวุฒิสภา มีรอยกระสุนปริศนาที่ไม่ทราบที่มาที่ไป ยิงเข้ามาที่บริเวณหน้าต่าง ซึ่งใกล้กับโต๊ะที่ทำงาน โดยน.ส.ทัศนาได้มาตรวจพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่รอยกระสุนดังกล่าวไม่ได้ทะลุกระจก จึงคาดว่าน่าจะเป็นกระสุนยาง
ด้านนางสุวิมล ภูมิสิงหราช เลขาธฺการวุฒิสภา กล่าวถึงกระแสข่าวว่าทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้สั่งให้เจ้าหน้าที่หยุดพักงาน 1 วันว่า ไม่ทราบแต่ในส่วนของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาไม่มีคำสั่งให้ข้าราชการหยุดงาน ยังคงทำงานตามปกติ แต่ข้าราชการคนใดที่ไม่มีภารกิจในสำนักงานเลขาธิการฯ อาคารรัฐสภา2 ให้ไปทำงานที่ตึกสุขประพฤติหรือตึกดีเอสไอแทน ข้าราชการที่มีภารกิจที่นี่ยังคงทำงานตามปกติ ส่วนกระแสไฟฟ้าที่ถูกกลุ่มพันธมิตรฯตัดสายเมนใหญ่นั้น ทางการไฟฟ้าได้เข้ามาดำเนินการซ่อมแซมแล้ว.