เวลา 06.20 น. ที่รัฐสภา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มาปักหลักชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมแตกกระจายไปกันคนละทิศละทาง ขณะที่แกนนำพันธมิตรฯรุ่น 2 นำโดยนายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ได้ปลุกระดมให้ผู้ชุมนุมปักหลักต่อไป และเรียกกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบเข้ามาสมทบ ขณะที่หน้าทำเนียบรัฐบาล นายสนธิ ลิ้มทองกุล เตรียมจัดขนคนขบวนละ 500 คน เข้าไปสมทบที่รัฐสภา พร้อมประกาศขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันปักหลักชุมนุมต่อ
เวลา 07.00 น. ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กทม. เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ หลังตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม เบื้องต้นนายสาวิทย์ แก้วหวาน แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ รุ่น 2 เผยว่า มีผู้ชุมนุมข้อเท้าขาดจากการถูกระเบิด ทราบชื่อภายหลังคือนายปัญญา พูลแก้ว และนายกิตตินนท์ แก่นสาร ผู้สื่อข่าว จส.100 บาดเจ็บบริเวณแผ่นหลัง
เวลา 07.40 น. กลุ่มพันธมิตรฯ ยังปักหลักชุมนุมหน้ารัฐสภา ถ.อู่ทองใน ท่ามกลางการคุ้มกันของนักรบศรีวิชัย หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมบริเวณ ถ.ราชวิถี
เวลา 07.45 น. ตำรวจนครบาล สนธิกำลังตำรวจภูธร จำนวน 30 กองร้อย รักษาความปลอดภัยเข้มอาคารรัฐสภาและทำเนียบรัฐบาล
เวลา 08.00 น. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เรียกประชุมด่วน ถกท่าทีใหม่ว่าจะร่วมเข้าประชุมแถลงนโยบายหรือไม่
เวลา 08.15 น. หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ส่งผลให้มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวน 70 คน ส่วนใหญ่ถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลวชิระพยาบาล 42 ราย และบางส่วนถูกส่งไปรักษายังโรงพยาบาลรามาธิบดี 22 ราย และโรงพยาบาลราชวิถี 1 ราย ขณะที่แพทย์ผู้รักษา เปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ ได้พระราชทานเงินสดจำนวน 1 แสนบาท ให้โรงพยาบาลวชิระพยาบาลเพื่อรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และให้ทางโรงพยาบาลแจ้งยอดค่ารักษาไปที่สำนักราชเลขาธิการ
เวลา 08.30 น. รัฐสภา ถูกตัดน้ำตัดไฟครั้งที่ 1
เวลา 08.35 น. กระทรวงการต่างประเทศ เตรียมรวบรวมข้อเท็จจริง และรอฟังคำแถลงของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งโทรเลขไปยังสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก หากมีการสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เวลา 08.50 น. ปลัด กทม.เรียกประชุมด่วน ผอ.เขตในพื้นที่ใกล้เคียงรัฐสภาและทำเนียบฯ เพื่อประเมินติดตามสถานการณ์การชุมนุมอย่างใกล้ชิด