พันธมิตรฯ อัด 3 มี.ค.ปาหี่ แม้ว - แฉใช้อำนาจรัฐขนเชลียร์กว่า 2 แสน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 มีนาคม 2549 20:57 น.
องค์กรเครือข่ายพันธมิตร ซัด 3 มี.ค.วัน แม้ว-ปาหี่ ระบุกำลังลากสังคมเข้าหาความรุนแรง-เผชิญหน้า ชี้ขนคนเชลียร์ตัวเองเพื่อหวังปลุกม็อบชนม็อบกลางสนามหลวง แฉมีการใช้อำนาจรัฐเต็มกำลัง-จ้างรถบัสกว่า 3 พันคันขนชาวบ้านให้ถึง 2 แสน จี้ กกต.ออกมาตรวจสอบเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ จวกดันเลือกตั้ง 2 เม.ย. รักษาอำนาจมากกว่ารักษาประเทศ
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา องค์กรเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ กองเลขานุการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันแถลงข่าวต่อกรณีการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เตรียมจัดปราศรัยใหญ่ 3 มี.ค. และแนวทางการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
โดย นายสุริยะใส กล่าวว่า ทางเครือข่ายพันธมิตรประชาชนฯ เห็นว่า แม้การชุมนุมในวันที่ 3 มี.ค.จะเป็นสิทธิที่จะสามารถชุมนุมได้ แต่เป็นความพยายามที่กำลังดึงสังคมไทยเข้าสู่ความรุนแรงและการเผชิญหน้า เพราะการปราศรัยที่จะเกิดขึ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการจัดชุมนุมเพื่อเชียร์และสนับสนุนตัวเองโดยหวังผลทางจิตวิทยา ซึ่งอาจจะมีการสร้างสถานการณ์ให้เกิดเหตุการณ์ม็อบชนม็อบ เพื่อประกาศภาวะฉุกเฉิน และหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเรียนว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และเราก็ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับใครทั้งสิ้น
เลขาธิการ ครป.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังทราบมาว่าการชุมนุมในวันที่ 3 มี.ค.จะมีการใช้กลไกและทรัพยากรของรัฐหลายส่วน เพื่อจัดชาวบ้านเข้ามาให้มากกว่า 2 แสนคน โดยทางรถบัสโดยสารที่จะขนคนเข้ามาจากต่างจังหวัดถึง 3,000 คัน รวมทั้งยังมีการสั่งการไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านให้หาคนให้ได้ตามจำนวนที่กำหนด โดยถ้าหากหาไม่ได้จะถูกประเมินผลงาน เพราะฉะนั้น การชุมนุมครั้งนี้พรรคไทยรักไทยต้องการให้เกิดปรากฏการณ์คนไทยรักทักษิณจนล้นสนามหลวง และหวังให้สังคมเห็นว่าคนเชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ มีจำนวนมากกว่าคนไล่ จึงเรียกร้องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้ามาตรวจสอบว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้เวทีการชุมนุมครั้งนี้เพื่อทำสัญญาประชาคมซ้ำซากกับชาวบ้านที่มาชุมนุม โดยเตรียมแถลงบนเวทีว่าหลังเลือกตั้ง 2 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทยจะเป็นเจ้าภาพแก้รัฐธรรมนูญภายใน 6 เดือน หรือ 180 วัน หลังจากนั้นจะยุบสภาอีกครั้งเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งวิธีการแบบนี้เป็นการเปลือยธาตุแท้ผู้นำประเทศที่เอาระบบการเมือง ทั้งการเลือกตั้ง และการยุบสภา มาฟอกตัวเองเพียงเพื่อรักษาอำนาจทางการเมืองไว้ให้อยู่กับตัวเองนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่สนใจถึงวิกฤตการณ์บ้านเมืองที่กำลังขยายตัวมากขึ้นที่มีสาเหตุมาจากผู้นำขาดความชอบธรรม และตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เปรียบเสมือนผู้ใหญ่บ้านที่ถูกลูกบ้านจับได้คาหนังคาเขาว่าขโมยเงินวัด แต่จู่ๆ ก็มาประกาศเป็นเจ้าภาพทอดกฐินเสียเอง ก็อยากถามประชาชนทั่วไปในฐานะลูกบ้านว่า เราจะยอมทำบุญร่วมกับผู้นำที่ทำบาปหรืออย่างไร นายสุริยะใส กล่าว
สำหรับการอดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ไม่ส่งผู้สมัครลงรับการเลือกตั้ง และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปสมัครรับเลือกตั้งในวันนี้ (2 มี.ค.) นายสุริยะใส กล่าวว่า ทางพันธมิตรประชาชนฯ เห็นว่าฝ่ายค้านมีสิทธิ์ที่จะไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง เพราะรัฐธรรมนูญไม้ได้บังคับให้ส่งคนลงสมัคร และไม่ได้เป็นเหตุให้ยุบพรรค นอกจากนี้ การตัดสินใจของพรรคการเมืองทั้ง 3 พรรคถือว่ามีความชอบธรรมเต็มที่ เพราะการประกาศยุบสภาที่ไร้เหตุผลเท่ากับเป็นการมัดมือชกประชาชน และบีบให้สังคมการเมืองไทยแก้ปัญหาวิกฤตของชาติด้วยผลการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่นายกฯ ทักษิณกำลังตกเป็นผู้ต้องหาคอร์รัปชันใช้อำนาจมิชอบและเอื้อประโยชน์คนในตระกูล ซึ่งที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถทำการชี้แจงได้ ถึงแม้จะใช้สื่อของรัฐทุกวิถีทางก็ตาม ทั้งนี้ สำหรับพี่น้องประชาชนที่กลัวเสียสิทธิ ก็ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว.ในวันที่ 19 เม.ย. ซึ่งก็จะทำให้ได้สิทธิทั้ง 8 ประการกลับคืนมา
กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคไทยรักไทยนั้นยิ่งตอกย้ำเป็นเกมการสืบทอดอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่วางแผนไว้ตั้งแต่การยุบสภาเพื่อแก้ปัญหาของตนเองแล้วมาลงปาร์ตี้ลิสต์เพื่อตนเองจะได้สืบทอดอำนาจต่อไป ซึ่งการสืบทอดอำนาจของครั้งนี้จะนำมาซึ่งความรุนแรงที่ไม่รู้จบ จะมีการประท้วงการเลือกตั้งหรือไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากนายกรัฐมนตรีทักษิณเพียงบุคคลเดียว ที่อ้างเสื้อคลุมประชาธิปไตย นั่นคือการเลือกตั้ง ทั้งที่การเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม นายสุริยะใส กล่าว
ผู้ประสานงานองค์เครือข่ายพันธมิตรประชาชนฯ กล่าวต่อว่า ถึงแม้ในวันที่ 3 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณจะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกฯ กลางเวที หรือจะใช้การแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วยุบสภาภายใน 180 วัน เป็นเพียงการฟอกตัวของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่ใช่การเสียสละทางการเมือง ซึ่งการเสียสละทางการเมืองมีทางเดียวเท่านั้น คือประกาศลาออก และเว้นวรรคทางการเมือง โดยที่การเว้นวรรคทางการเมืองไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่เกินเลย แต่เป็นการยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ สืบทอดอำนาจทางการเมืองโดยหมดความชอบธรรมอีกต่อไป
นายสุริยะใส ยังชี้แจงถึงกระแสข่าวที่มีการระบุว่าทางองค์กรเครือข่ายพันธมิตรประชาชนฯ เตรียมเคลื่อนขบวนกดดันนายกฯ ในหลายสถานที่ว่า เป็นเพียงข้อเสนอของประชาชนทั่วไป ซึ่งทุกๆ วันตนต้องรับโทรศัพท์จากประชาชนวันละหลายร้อยสายที่โทร.เข้ามา ที่แนะนำเสนอแนวทางการเคลื่อนไหวรูปแบบการไปกดดันที่หน้าทำเนียบฯ บ้านจันทร์ส่องหล้า รัฐสภา หรือที่ทำการพรรคไทยรักไทยก็เป็นแค่ความเห็นที่ชาวบ้านเสนอมา ไม่ใช่มติและความเห็นของพันธมิตรประชาชนฯ แต่อย่างใด
เรายังยืนยันชุมนุมที่สนามหลวงแน่นอน ในวันอาทิตย์ที่ 5 มี.ค.ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป และประการสำคัญยังยึดหลักสันติวิธีและแนวทางอหิงสาเป็นสำคัญ ถ้าจะมีการปรับแผนหรือปรับขบวนเราจะประกาศและแถลงอย่างเป็นทางการจึงอยากเรียนพี่น้องประชาชนว่าอย่าสับสนขอให้ฟังมติและท่าทีที่เป็นทางการ ผู้ประสานงานพันธมิตร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเลือกแก้เกมด้วยการอาศัยเวทีปราศรัยใหญ่ในวันที่ 3 มี.ค. โดยประกาศลาออกกลางเวที หรือประกาศจะเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสุริยะใส กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ทั้ง 2 ด้าน แต่แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะลาออกก็ยังลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อันดับ 1 ซึ่งหมายความว่าจะเป็นว่าที่นายกฯ หมายเลขหนึ่ง
วิกฤตการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะแก้ได้ก็ต่อเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศลาออก และเว้นวรรคทางการเมือง ซึ่งจะเป็นการเสียสละอันใหญ่หลวง เหมือนเช่นในอดีตที่นายปรีดี พนมยงค์ เคยทำมาแล้ว และสุดท้ายเมื่อท่านลงจากอำนาจ ก็สละซึ่งทรัพย์สมบัติทั้งหมด คงเหลือไว้เพียงชื่อเสียงและเกียรติยศ แต่นายกฯ ทักษิณ กลับเลือกที่จะเผชิญหน้า นายสุริยะใส กล่าว
เมื่อถามต่อว่า สำหรับข้อเสนอของหลายฝ่ายที่จะให้มีนายกฯ พระราชทาน ทางพันธมิตรฯ มีจุดยืนในเรื่องนี้อย่างไร นายสุริยะใส กล่าวว่า ทางองค์กรเครือข่ายพันธมิตรประชาชนฯ ไม่เคยหารือถึงเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าการเมืองไทยยังไม่ถึงทางตันที่จะต้องใช้มาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญมาแก้ไขปัญหา ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องเสียสละ แต่ถ้ายังดื้อดึงต่อไปก็จะเป็นการลากสังคมเข้าสู่ทางตัน
ด้าน นายนิติรัตน์ กล่าวถึงรูปแบบในการจัดการชุมนุมวันที่ 5 มี.ค.ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าจะยังคงมีการเปิดปราศรัยเช่นเดิม โดยจะเพิ่มเติมข้อมูลในการปราศรัยให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบธรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการซุกหุ้นภาค 2 การเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐฯ (เอฟทีเอ) การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ฯลฯ โดยจะเชิญนักวิชาการเข้ามาร่วมมากขึ้น
นอกจากนี้ กิจกรรมบนเวทีจะมีสีสันและความหลากหลาย โดยเฉพาะการแสดงงิ้วการเมือง และการแสดงดนตรีเพื่อชีวิต โดยพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย พันธมิตรฯได้เตรียมการไว้อย่างหนาแน่น โดยมีอาสาสมัครจากองค์กรภาคประชาชนกว่า 1,000 คน และจะเปิดรับสมัครเพิ่มเติมในวันนี้ที่ 5 มีนาคม
นอกจากนี้ กิจกรรมบนเวทีจะมีสีสันและความหลากหลาย โดยเฉพาะการแสดงงิ้วการเมือง และการแสดงดนตรีเพื่อชีวิต โดยพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย พันธมิตรฯได้เตรียมการไว้อย่างหนาแน่น โดยมีอาสาสมัครจากองค์กรภาคประชาชนกว่า 1,000 คน และจะเปิดรับสมัครเพิ่มเติมในวันนี้ที่ 5 มีนาคม
ขณะที่ นายเมธา มาสขาว ประธานศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (ศยป.) กล่าวว่า นายกฯ นอกจากเสียสัตย์ที่ยุบสภาแล้ว การจัดเวที 3 มีนาฯ นี้นั้นก็กลืนน้ำลายตัวเอง เพราะเคยด่าว่าพวกที่ชุมนุมไม่เป็นไปตามประชาธิปไตย เลยไม่รู้ว่าจุดยืนของนายกรัฐมนตรีคืออะไรกันแน่ หรือถือการเมืองเป็นแค่เกมที่ต้องได้ฝ่ายเดียว การกระทำทั้ง 2 อย่างนั้น จึงเท่ากับว่า นายกไม่มีจุดยืนหรืออุดมการณ์ทางการเมืองอะไรทั้งสิ้น
การจัดเวทีสนามหลวงวันที่ 3 นี้ แค่สร้างภาพทางการเมืองว่ามีคนสนับสนุนมาก แม้ว่าจะยอมเสียงบประมาณไปมากแค่ไหนก็ตาม แต่ในฐานะนายกมีเครื่องมือกลไกรัฐมากมาย ไม่จำเป็นต้องจัดแบบภาคประชาชนเพราะเขาไม่มีเครื่องมืออื่นนอกจาก 2 แขน 2 ขา มาชุมนุม นายกฯ อยากแก้ตัวก็สามารถตอบคำถามในรายการนายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน ทางวิทยุได้ ซึ่งกว้างขวางกว่าด้วย แต่ทำไมเมื่อก่อนไม่เคยตอบข้อกังขา ทำไมเพิ่งมาอยากคุยเวลานี้ ถือเป็นนายกที่แปลกมาก คิดเอาแต่ได้ เหมือนเล่นปาหี่ทั้งที่มีทีวี โทรทัศน์ให้พูดได้ ประธาน ศยป.
อย่างไรก็ตาม เมื่อจัดแล้วอยากให้รัฐบาลดูแลความปลอดภัยให้ดี เพราะในกรุงเทพฯ มีคนที่ไม่ชอบรัฐบาลมากอาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้ อย่าคิดเอาแต่ได้โดยเอาประชาชนเป็นเครื่องมือ เพราะประชาชนทุกคนเป็นสมาชิกแห่งรัฐ คนออกมาด้วยใจกว่าแสนคน นายกฯ น่าจะรับฟังบ้าง ต่อไปหากเกิดความขัดแย้งมากขึ้น นายกฯจะต้องรับผิดชอบอย่างถึงที่สุด
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday