พันธมิตรจัดพิธีรดน้ำศพผู้เสียชีวิตที่ทำเนียบเย็นวันนี้

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรได้ชขึ้ปราศรัยระบุว่า การชุมนุมวันนี้ที่หน้ารัฐสภาแม้ว่าจะสามารถประชุมได้ แต่ก็ถือว่าเราทำได้สำเร็จ เพราะการแถลงนโยบายวันนี้ กลายเป็นโจ๊กระดับโลกเพราะองค์ประชุมสภาเกือบไม่ครบ และไม่มีใครใส่ใจฟังการแถลงนโยบาย

นายสุริยะใสกล่าวว่าช่วงเย็นวันนี้จะจัดพิธีรดน้ำศพให้คนเสียชีวิตที่ทำเนียบรัฐบาลขอให้ผู้ชุมนุมคอยฟังสัญญาณจากแกนนำให้ดีว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมผู้ร่วมชุมนุมจำนวนมากต่างทยอยหลับนอนในมุมต่าง ๆ เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการชุมนุมทั้งวันในขณะที่มีผู้ชุมนุมบางส่วนกลับบ้านไปเรียบร้อยแล้ว

ยอดผู้บาดเจ็บพุ่ง381คน
สรุปผู้บาดเจ็บกระจายตามโรงพยาบาลต่างๆรวมทั้งหมด 381 คน เสียชีวิต 2 ราย ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 48 ราย ขาขาด 4 ราย นิ้วขาด 2 ราย กำลังผ่าตัด 10 ราย

"อังคณา นีละไพจิตร"ประณามใช้ความรุนแรงสลายม็อบ

แถลงการณ์คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ Working Group on Justice for Peace ประณามการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา

จากการที่ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ปิดล้อมอาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่คืนวันที่ 6 ตุลาคม 2551 ก่อนที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และรัฐบาลโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งให้มีการสลายการชุมนุมโดยใช้แก๊ส น้ำตายิงเข้าใส่ประชาชนบนถนนราชวิถีด้านข้างอาคารรัฐสภาเพื่อเปิดทางให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สามารถเข้าไปประชุมรัฐสภาได้ ผลของการสลายการชุมนุมดังกล่าวทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิต บาดเจ็บ และทุพพลภาพ

การสูญเสียดังกล่าวก่อให้เกิดความสงสัยในหมู่ประชาชนผู้รักความเป็นธรรมว่า แท้จริงการใช้แก๊สน้ำตาจะสามารถทำให้เกิดการเสียชีวิต และบาดเจ็บโดยมีบาดแผลฉกรรจ์ดังที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ แม้ที่ผ่านมารัฐบาลพรรคพลังประชาชนจะให้สัญญากับประชาชนในการใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหา แต่ในทางปฏิบัติทั้งรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กลับไม่เคยแสดงความจริงใจในการใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง และปิดหนทางในการเจรจาเพื่อสร้างความปรองดองของคนในชาติอย่างสิ้นเชิง รัฐบาลพรรคพลังประชาชนจึงเป็นรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชน เหมือนเช่นรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประสบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการใช้ความรุนแรง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้จึงหมายถึงความล้มเหลวของระบบรัฐสภา เพราะระบอบประชาธิปไตยมิได้หมายถึงการเลือกตั้งแต่เพียงอย่างเดียว แต่หากยังหมายถึง การเคารพเสียงส่วนน้อย การเปิดพื้นที่ของการเมืองภาคพลเมือง และการยึดมั่นในหลักนิติธรรม อย่างเคร่งครัด

คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเรียกร้องให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัดิ์ แสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้

1.ขอให้รัฐบาล และหน่วยงานต่างๆของรัฐยุติการใช้ความรุนแรง พร้อมทั้งคืนอำนาจให้ประชาชนโดยการยุบสภา

2. ให้มีการสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามหาตัวผู้รับผิดชอบในการสังหาร และทำร้าย ประชาชนผู้บริสุทธิ์มาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมตามหลักนิติธรรมภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย

3. ให้มีการเยียวยา แก่บรรดาผู้สูญเสียและครอบครัวผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง อย่างเหมาะสม

4.ให้รัฐยึดหลักนิติธรรมและสันติวิธีเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง โดยอดทน อดกลั้น และยุติการยั่วยุต่างๆ อีกทั้งควรให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างความปรองดอง และนำความสงบสุขสันติให้คืนกลับสู่สังคมไทยโดยเร็วที่สุด

อังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ