ตะลุยข่าว : -จับตา...ตำรวจหมากตาต่อไป ?

นับตั้งแต่ถูกตำรวจจับเมื่อ 4 วันก่อน "ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์" ถูกนำตัวไปควบคุมที่ บก.ตชด.ภ.1 และเรือนจำพิเศษกรุงเทพ วันนี้ 1 ในแกนนำพันธมิตรที่มีหมายจับข้อหากบฏได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่า การจับกุมของตำรวจมิชอบด้วยกฎหมาย

แต่ท้ายที่สุดแล้วศาลมีความเห็นว่า ระหว่างที่ศาลอุทธรณ์กำลังพิจารณาเรื่องเพิกถอนหมายจับนั้น ให้ถือว่าตำรวจได้จับกุมโดยชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ไชยวัฒน์ต้องอยู่ในการควบคุมตัวต่อไป จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

เรื่องการจับกุมแกนนำพันธมิตรช่วงนี้กำลังเป็นที่สนใจ ทั้งฟากฝ่ายการเมือง ประชาชน และตำรวจในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือจะพูดให้ถูกก็คือในฐานะผู้จับกุม เมื่อแกนนำคนสำคัญอย่าง ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ถูกจับ ตามมาด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่มีความสำคัญยิ่งกว่าออกมาให้ตำรวจจับ จะส่งผลอย่างไรต่อสถานการณ์การเมืองนับจากนี้ไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนาคตของ 7 แกนนำที่เหลือจะเป็นอย่างไร ?

นายตำรวจใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความเห็นว่า ตำรวจจะพยายามติดตามจับกุมแกนนำที่เหลือต่อไป เนื่องจากคำสั่งศาลกรณีที่ไชยวัฒน์ยื่นคำร้องเรื่องการจับกุมมิชอบ เป็นสิ่งการันตีได้ดีว่าตำรวจทำตามหน้าที่ ตามขอบเขตของกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยขณะนี้ได้รวบรวมเบาะแสต่างๆ เกี่ยวกับแกนนำที่เหลือที่ได้จากชุดสืบสวนที่แฝงตัวปะปนอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม

อย่างไรก็ตาม นายตำรวจคนเดิมยืนยันว่า หากไม่พบเห็นซึ่งหน้าก็จะไม่ดำเนินการใดๆ แต่ถ้าออกมานอกทำเนียบรัฐบาลเมื่อพบเจอก็ต้องจับกุมไปตามหน้าที่

"ตอนนี้ตำรวจจะยังไม่ดำเนินการใดๆ กับแกนนำที่เหลือทั้ง 7 คน หากอยากจะอยู่ในทำเนียบรัฐบาลก็อยู่ไป จะอยู่นานเท่าไรก็อยู่ไป แต่ถ้าตำรวจพบเจอภายนอกก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย"

ท่าทีที่ตำรวจแสดงออกต่อ 7 แกนนำที่เหลือบ่งบอกให้รู้เป็นนัยๆ เช่นกันว่าไม่ต้องการให้เกิดการใช้กำลัง แม้ว่าช่วงนี้หน่วยงานด้านการข่าวจะเล็งเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มลดน้อยลงกว่าเมื่อก่อนก็ตาม แต่ถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้น อาจจะกลายเป็นชนวนเหตุของการเผชิญหน้า หรือเป็นการปลุกระดมมวลชนทำให้สถานการณ์แปรเปลี่ยนไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ พล.ต.จำลอง-ไชยวัฒน์ถูกจับแล้วเช่นนี้ กระแสมวลชนที่เริ่มออกมาเคลื่อนไหวก็ทำให้ตำรวจต้องหยุดไตร่ตรองเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคต โดยฝากความหวังไว้กับกระบวนการทางกฎหมาย นั่นคือรอฟังคำสั่งของศาลอุทธรณ์ว่าจะมีออกมาอย่างไร ต่อกรณีที่พันธมิตรยื่นคำร้องเพิกถอนหมายจับ !?!

 ในวงประชุมของข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ขณะนี้เองก็กำลังประเมินสถานการณ์และเตรียมรับมือเอาไว้แล้วทั้งสองแนวทาง นั่นคือหากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ จะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระทันที การชุมนุมของพันธมิตรจะมีความชอบธรรมมากขึ้น

 นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่วิเคราะห์ว่าหากออกมาในแนวทางนี้ ประชาชนที่อยู่ระหว่างกล้าๆ กลัวๆ ที่จะมาร่วมชุมนุม จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกมาร่วมกับพันธมิตร และนำไปสู่เหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง

"หากผลออกมาแนวทางนี้ พล.ต.จำลอง กับคุณไชยวัฒน์จะเดินออกมาอย่างวีรบุรุษ พร้อมกับมองว่าการกระทำของตำรวจไม่ชอบด้วยกฎหมาย คนที่ตกที่นั่งลำบากคือตำรวจกับรัฐบาล ประชาชนจะเข้ามาชุมนุมเพิ่มมากขึ้น" นายตำรวจคนหนึ่งวิเคราะห์สถานการณ์

ขั้นตอนทางกฎหมายหลังจากนี้ไปของตำรวจก็คือ การยื่นฎีกา !?!

แต่ระหว่างนี้ได้มีการเตรียมการรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมเอาไว้ด้วย โดยจะกันไม่ให้ประชาชนที่คาดว่าจะเดินทางมาสมทบกับพันธมิตรที่ทำเนียบรัฐบาล เข้าสู่ศูนย์กลางการชุมนุมเพิ่มไปมากกว่าที่เป็นอยู่ หรือเข้ามาได้น้อยที่สุด ซึ่งจนถึงขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งสแตนด์บายกำลังพลเดิมที่เคยทำหน้าที่ดูแลการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรเอาไว้แล้ว

ส่วนอีกแนวทางหนึ่งซึ่งตำรวจชั้นผู้ใหญ่วิเคราะห์เอาไว้ คือ หากศาลอุทธรณ์มีความเห็นยืนตามศาลชั้นต้น ก็จะดำเนินการกับแกนนำที่เหลือทั้ง 7 คนทันที แต่ก็เป็นไปตามแนวทางข้างต้น คือ พบเห็นซึ่งหน้าถึงจะจับกุม !

สำหรับสถานการณ์การชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลหากผลออกมาตามแนวทางที่สองนี้ นายตำรวจระดับสูงยืนยันว่า ยังไม่มีนโยบายที่จะใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม เนื่องจากเกรงว่าภาพลักษณ์ของตำรวจจะเสีย สิ่งที่ทำได้คือการเสริมกำลังเข้ากันไม่ให้ประชาชนเข้าไปสมทบในทำเนียบรัฐบาลเพิ่มมากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน