6 ตุลาฯ เหตุการณ์ที่ประวัติศาสตร์ไทย ไม่กล้าบันทึก


วันที่ 6 ตุลาได้เวียนมาบรรจบครบรอบ 32 ปี ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งทางความคิดระหว่างคนไทย ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง คนไทยเจ็บแล้วมักลืม หรือว่าเราไม่เคยเรียนรู้ความจริงจากอดีต ?!?

บึ้ม บึ้ม! เปรี้ยง เปรี้ยง!

เป็นเสียงที่คนไทยคว้าอาวุธเข้า "ห้ำหั่น" กันเอง ที่สนามหลวงแและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์  มีการใช้อาวุธปืนยิงฝ่ายตรงข้าม รุมกระทืบ ลากนักศึกษาไปแขวนคอหรือเผานั่งยาง กลางสนามหลวงท่ามกลางสายตา (ที่มืดบอด) ของคนไทยทั้งชาติ

เหตุการณ์ข้างต้น เป็นเพียงการเล่าเรื่อง แค่เศษเสี้ยวหนึ่งของวันที่ 6 ตุลา 2519 .... ที่คนรุ่นใหม่หลายคน อาจไม่เคยแม้ได้ยินหรือรู้จัก เพราะสังคมไทยยังพูดถึงและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อยไปมาก ตามหน้าหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ก็จารึกถึงโศกนาฏกรรม "คนไทยฆ่ากันเอง" นี้ อยู่เพียงแค่ย่อหน้าเดียว ทั้งที่ 6 ตุลาเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ ที่คนไทยทุกคนไม่ควรลืมและควรถูกตอกย้ำให้รู้ถึงสาเหตุ ขบวนการและผลที่ตามมา เพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำรอยอีก!!!

สาเหตุของเรื่องสลดนี้ คนที่ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน ก็เดาได้ว่ามาจาก "ความแตกแยกของคนไทย" และความพยายามบิดเบือน เพื่อใส่ร้ายจุดชนวนให้ฝ่ายตรงข้ามกลายเป็น "ฝ่ายถูกกระทำ"

ขณะนั้น คนไทยแตกแยกทางความคิดอย่างหนักทางการเมือง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สนับสนุนบทบาทของนิสิตนักศึกษาทั้งแนวคิดทางการเมืองและการต่อต้าน 2 จอมพล และกลุ่มที่ต่อต้านนิสิตนักศึกษา แบ่งเป็นฝ่ายซ้าย (นักศึกษา) ฝ่ายขวา (เช่น พวกกลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง วิทยุยานเกราะ) ใครเป็นใครเคยอยู่ในฝ่ายไหนคงรู้กันดี เพราะหลายคนยังคงมีบทบาททางการเมืองอย่างสำคัญอยู่จนถึงปัจจุบัน


ชนวนสำคัญซึ่งเป็นฟางเส้นสุดท้ายหรือข้ออ้างของฝ่าบขวาคือการแสดงละครของนักศึกษาที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรณีฆ่าแขวนคอพนักงานการไฟฟ้า ในวันที่ 4 ตุลาคม  2519 ที่ถูกพวกบางฝ่ายร่วมกันบิดเบือนว่า เป็นการหมิ่นพระบรมราชานุภาพ ต่อมาสื่ออย่างหนังสือพิมพ์บางฉบับ ก็นำภาพการแสดงล้อการแขวนคอดังกล่าวไปพาดหัวข่าว

เป็นการเริ่มกระพือเชื้อไฟความรุนแรงให้เกิดขึ้น เพราะจากนั้นฝ่ายขวาก็ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนและลูกเสือชาวบ้านชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการจับกุมผู้กระทำการหมิ่น ซึ่งในที่สุดเหตุการณ์ก็ปลายบาย จนคุมไม่อยู่ กลายเป็นเหตุการณ์ที่น่าสังเวชที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย!!!

เพราะมันทำให้คนไทยต้องเสียชีวิตลงไม่ต่ำว่า 41 คนภายในคืนเดียวกลางเมืองหลวง หลายศพถูกเผาจนแยกไม่ออก และผลักดันให้นักศึกษาที่มีความคิดแตกต่างกระจัดกระจายหนีไปอยู่ตามป่า

ผ่านมา 32 ปี หลายคนได้ "ลืม" อุดมการณ์ในสมัยวัยุร่นกลายพันธุ์เป็นนักการเมืองฉ้อฉล ขณะที่หลายคนยังเจ็บไม่ลืม !!

ผ่านมา 32 ปี คนไทยยังแตกแยกเหมือนเดิม

ผ่านมา 32 ปี เราจะยังปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นซ้ำรอยอีกหรือไม่ ?

และทำไมผ่านมาถึง 32 ปี คนไทยจึงยังไม่กล้ายอมรับและพูด "ความจริงให้กระจ่าง" เสียที

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์