"อนุพงษ์" ไม่สบายใจ "จิ๋ว" ขอคุมใต้ หวั่นยุทธศาสตร์ไม่ตรงกัน แจ้งนายกฯเรื่อง "ชวลิต" เข้าหารือ ย้ำแนวคิดเจรจากลุ่มก่อความไม่สงบ คนสนิทรองนายกฯอ้าง "สมชาย" เคยรับปาก แต่กลับเปลี่ยนใจ ทำคำประกาศสงบศึก 13 ต.ค.ชะงัก เผย"นาย"ใช้เงินส่วนตัวทำมาแล้ว 3 ปี กลุ่มโจรยิงทหารชุดคุ้มครองโรงเรียนดับ 2 ขโมยเอ็ม 16-เครื่องยิงลูกระเบิดหลบหนี
พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ หรือ เสธ.หมึก นายทหารคนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางรายการ "ลับ ลวง พราง" ออกอากาศทาง สถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 เมกกะเฮิร์ซ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ว่า สาเหตุที่พล.อ.ชวลิต ตัดสินใจเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะตั้งใจมาทำงานในเรื่องใหญ่ๆ คือ 1.ปัญหาความยากจน 2.ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา 3.ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พล.อ.ชวลิตทำมาแล้ว 3 ปี โดยใช้เงินส่วนตัวไปดำเนินการจำนวนมาก ทั้งนี้ คนไทยมุสลิมให้ความเชื่อถือพล.อ.ชวลิต เพราะเป็นคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธคนเดียวที่เป็นประธานตาดีกา ซึ่งในการดำเนินการในการยุติปัญหาของพล.อ.ชวลิต ได้ใช้มวลชนที่ก่อตั้งขึ้นดำเนินการเพื่อให้เกิดความสงบ
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ชวลิต จะประกาศสงบศึกภาคใต้ในวันที่ 13 ตุลาคม พล.ท.พิรัช กล่าวว่า ต้องชะงักไป เพราะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่าจะดูแลและเป็นหลักรับผิดชอบปัญหาภาคใต้เอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุย แต่วันรุ่งขึ้นก็เปลี่ยนใจ จึงลำบากที่จะมีการประกาศสงบศึกในวันที่ 13 ตุลาคม อย่างไรก็ตาม พล.อ.ชวลิต ไม่ได้ลดละความพยายามในการแก้ไขปัญหา โดยจะดำเนินการเองต่อไป
เมื่อถามว่า หากให้พล.อ.ชวลิต ดูแลปัญหาภาคใต้ ปัญหาน่าจะจบในวันที่ 13 ตุลาคมหรือไม่ พล.ท.พิรัช กล่าวว่า ไม่ถึงกับจบ แต่จะยกระดับความสามัคคีของชาวบ้านขึ้นเพื่อต้านทานสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
"ถือเป็นวิบากกรรม แต่ท่านคงไม่ถอดใจ เพราะท่านตั้งใจ หากเขาไม่ใช้เราก็ทำเท่าที่จะทำได้ ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็กลับไปสู่สภาพเดิม คือท่านต้องทำเอง ทำด้วยทุนของตัวเอง"พล.ท.พิรัช กล่าว
ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน (พปช.) ที่ใกล้ชิดพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีการผิดเงื่อนไขระหว่างเชื้อเชิญกันอย่างไร รวมไปถึงการแบ่งงานในกำกับดูแลของผู้ใหญ่ที่ยังไม่ลงตัว
"ท่านบอกกับลูกน้องที่ติดตามว่าเป็นห่วงบ้านเมือง ซึ่งการแก้ไขปัญหาความแตกแยกนั้นจะให้สำเร็จ ท่านก็ต้องยอมเจ็บตัวก่อน และครั้งนี้ท่านก็จะยอมเจ็บตัวอีกครั้ง เหมือนทุกๆ ครั้งที่ท่านเคยโดนมา"
ด้านพล.ต.ศรชัย มนตริวัต ส.ส.สัดส่วน พปช. กล่าวว่า คนที่ไปเชิญพล.อ.ชวลิต มารับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี คือนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ทราบว่าในการพูดคุยกัน มีข้อตกลงอะไรกันหรือไม่ อย่างไร
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.อ.ชวลิต เคยเดินทางไปพบพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งพล.อ.ชวลิต มีแนวคิดที่เจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเพื่อแก้ไขปัญหา แต่พล.อ.อนุพงษ์ ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว รวมไปถึงข้อมูลพื้นฐานในปัญหาพื้นที่ภาคใต้แตกต่างกัน จึงทำให้พล.อ.อนุพงษ์ ไม่สบายใจ และเกรงว่า หากพล.อ.ชวลิต มาดูแลปัญหาภาคใต้ อาจทำให้การแก้ปัญหาไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ จึงนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เมื่อนายกรัฐมนตรีทราบข้อมูลทั้งหมด จึงแจ้งให้พล.อ.ชวลิต ทราบว่า จะรับผิดชอบปัญหาภาคใต้ทั้งหมดเอง
พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สงขลา กล่าวถึงกรณีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์โปรยใบปลิวในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ข่มขู่ว่า จะวางระเบิดโรงแรมระดับ 5 ดาวทุกแห่ง ใน อ.หาดใหญ่, อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส, อ.เบตง จ.ยะลา, จ.ภูเก็ต จ.กระบี่ จ.พังงา และ จ.สตูล พร้อมห้ามประชาชนเข้าไปใช้บริการหรือพัก ว่ามอบหมายให้ สภ.หาดใหญ่ ตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงหาที่มาของใบปลิวดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยไม่ได้ให้น้ำหนักในเรื่องความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพียงเรื่องเดียว แต่ยังมีประเด็นความขัดแย้งอื่นๆ ในพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงในเชิงลึก ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัววัยรุ่นมือโปรยใบปลิวอยู่ ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวในเร็ว ๆ นี้ แล้วจะขยายผลต่อไป
นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานแจ้งให้ทางโรงแรมทราบเพื่อให้เตรียมความพร้อม โดยโรงแรมเกือบ 100 แห่งใน อ.หาดใหญ่ ได้ว่าจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) เพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นทางสมาคม เน้นย้ำให้โรงแรมติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งภายในและภายนอกโรงแรม เพื่อจับภาพบุคคลต้องสงสัยที่อาจจะลอบเข้ามาก่อเหตุร้าย
ด้านเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเวลา 06.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร 4 นาย สังกัดร้อย ร.133 ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คน เป็นพาหนะเดินทางกลับฐาน หลังเข้าเวรรักษาความปลอดภัยที่โรงเรียนบ้านคลอง ต.ดอน อ.ปะนาเระ เมื่อมาถึงหมู่ 2 ต.ดอน ได้ถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ใช้รถกระบะเป็นพาหนะตามหลังมา ใช้อาวุธสงครามยิงพลฯสมหมาย ผลแสน อายุ 22 ปี และพลฯกิตติพงษ์ บุญเพ็ง อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บและตามมายิงซ้ำจนเสียชีวิต ขณะที่ทหารอีก 2 นายได้ยิงต่อสู้กันประมาณ 5 นาที คนร้ายจึงนำอาวุธปืนเอ็ม 16 และเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 203 ของทหารที่เสียชีวิตหลบหนีไป
เวลา 15.31 น. นายสูลายมัน เจ๊ะเด็ง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/2 หมู่ 6 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ขี่รถจักรยานยนต์ มีนายมะตาเร๊ะ เจ๊ะเง๊าะ อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 38 หมู่ 8 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ ซ้อนท้ายออกจากตลาดเทศบาล ต.ตันหยงมัส มุ่งหน้ากลับบ้านใน ต.บองอ ถึงหมู่บ้านจือนงปือเร๊ะ หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส ถูกคนร้ายขับรถกะบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน ขับแซงขึ้นหน้า แล้วใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงใส่กระสุนถูกนายสูลายมัน เสียชีวิต ส่วนนายมะตาเร๊ะ บาดเจ็บสาหัส ร.ต.ท.นเรศ พุ่มแก้ว ร้อยเวร สภ.ระแงะ ไปตรวจที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ 1 ปลอก คาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ
เผยเหตุทำ จิ๋ว อกหักอดคุมไฟใต้ อนุพงษ์ ขอเปลี่ยนตัว อ้างนโยบายไม่ตรงกัน เด็กชวลิต โวย นาย ทุ่มไปเยอะ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง เผยเหตุทำ จิ๋ว อกหักอดคุมไฟใต้ อนุพงษ์ ขอเปลี่ยนตัว อ้างนโยบายไม่ตรงกัน เด็กชวลิต โวย นาย ทุ่มไปเยอะ