คณาจารย์นิด้าชี้ ทักษิณ ถ้าดีจริงต้องกล้าลาออก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 มีนาคม 2549 15:11 น.

กลุ่มคณาจารย์นิด้า ชี้ ทักษิณ ถ้าดีจริงอย่ากลัวการตรวจสอบ พร้อมระบุถึงเลือกตั้งใหม่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาจริยธรรมของทักษิณได้ พร้อมจัดงานเสวนา ทำไมต้องไล่ทักษิณฯ ทำไมต้องไปสนามหลวง

หลังจากคณาจารย์ ข้าราชการ พนักงาน นักศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมกันลงนามออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2549 เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัญมนตรี เพราะหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศนั้น

ล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร ยังคงยืนยันว่าจะไม่ลาออก พร้อมเลือกหนทางแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการยุบสภาเมื่อเย็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ 3 พรรคฝ่ายค้านเดิม (ประชาธิปัตย์ ชาติไทย มหาชน) บอยคอตไม่ส่งสมาชิกพรรคลงแข่งขันในการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ทักษิณประกาศจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน 2549 และนั่นเป็นสาเหตุที่คณาจารย์ ข้าราชการ พนักงาน นักศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง

วันนี้ (2 มี.ค.) คณาจารย์ที่เข้าร่วมการแถลงการณ์เรียกร้องในครั้งนี้ว่า นอกจากทักษิณจะไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ โดยไม่ไขข้อข้องใจเรื่องความชอบธรรม พร้อมๆ กับยืนยันต่อสาธารณชนโดยตลอดว่าจะไม่ลาออก และจะไม่ยุบสภา แต่กลับคำพูดยุบสภาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยอ้างว่าเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน แท้จริงแล้วเป็นการกลบเกลื่อนปัญหาที่แท้จริงที่ทักษิณหมดความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

การยุบสภา ไม่ได้ทำให้ปัญหาความชอบธรรมหมดไปแต่อย่างใด แต่กลับสร้างปัญหาที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นความพยายามของนายกฯ ที่จะเบี่ยงเบนประเด็น สร้างความสับสนให้ประชาชน และทางกลุ่มคณาจารย์เห็นว่าการจะทำสัญญาประชาคมที่จะทำการปฏิรูปการเมืองนั้น ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะดำเนินการโดยผู้ที่ขาดความชอบธรรม และศักดิ์ศรีในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ในคำแถลงการณ์ระบุประเด็นปัญหาวิกฤตทางการเมืองในขณะนี้มี 2 ประเด็น คือ

1. กติกาตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันมีความบกพร่อง เปิดโอกาสให้นายกฯ ครอบงำฝ่ายนิติบัญญัติและองค์กรอิสระ นำไปสู่เผด็จการจากการเลือกตั้ง
2. วิกฤตทางการเมืองในขณะนี้ คือวิกฤตจริยธรรมของนายกฯ การเลือกตั้งตามกติกาเดิมจะไม่สามารถแก้ไขวิกฤตขณะนี้ได้

ดังนั้น คณาจารย์ ข้าราชการ พนักงาน นักศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ขอให้ทักษิณออกจากตำแหน่งนายกฯ ในทันที เพื่อแก้ปัญหาภาวะผู้นำบกพร่อง และเปิดโอกาสให้มีการสรรหาผู้เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน

ผศ.ทวีศักดิ์ สูทกวาทิน หนึ่งในคณาจารย์ที่เรียกร้องให้ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่ง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังเล่นเกมการเมืองรายวัน ตีความเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ผิดแผกออกไป เช่น

1. ส.ส.บัญชีรายชื่อรัฐบาลเลือกเอาตัวบุคคลมาเป็น รมต.ตามอำเภอใจ ทุกวันนี้แทบไม่มีใครเชื่อแล้ว เพราะรัฐบาลพูดไปก็ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องไหเป็นเรื่องจริงหรือไม่ใช่เรื่องจริง
2. รัฐธรรมนูญกำหนดเรื่องของการเลือกตั้งไว้ว่า หากหมดสภาตามวาระจะต้องให้มีการเลือกตั้งครั้งต่อในอีก 45 วัน แต่หากเป็นกรณียุบสภาก่อน รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าให้เวลา 60 วัน

นัยทั้ง 2 กรณีต่างกัน ในการยุบสภาครั้งนี้ใช้เวลาแค่ 37 วันก็ให้มีการเลือกตั้งใหม่แล้ว อันนี้คืออะไร รัฐบาลกำหนดตามอำเภอใจใช่หรือไม่ ผศ.ทวีศักดิ์ กล่าว พร้อมทั้งยกตัวอย่างต่ออีกว่าการเลือกตั้งรัฐสภาต้องมีพรรคฝ่ายค้าน รัฐบาลก็อุปโลกน์พรรคการเมืองอื่นๆ ขึ้นมาเพื่อจะให้มีพรรคอื่นๆ ส่งคนสมัครเป็น ส.ส. และโดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีข้อตกลงบางประการในการส่งคนลงสมัครเป็น ส.ส.ในครั้งนี้ด้วย

ความถูกต้องของรัฐสภาหลังการเลือกตั้งจะมีปัญหา และอาจจะนำไปสู่ปัญหาที่ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ หากนายกฯ ยังไม่ลาออกจากตำแหน่ง รัฐบาลรักษาการอาจจะต้องอยู่ต่อไปอีกนาน บ้านเมืองก็จะอยู่อย่างติดขัดไปอย่างนี้ เพราะหากจำนวน ส.ส.ไม่ครบ และมีจำนวน ส.ส.ไม่เพียงพอก็ไม่สามารถจะเปิดสภาได้ ดังนั้น รัฐบาลรักษาการก็จะต้องอยู่ต่อไป แต่ก็ไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ได้

เพื่อแก้ปัญหาภาวะผู้นำรัฐบาลบกพร่อง และเปิดโอกาสให้มีการสรรหาผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน หากนายกรัฐมนตรีลาออกแล้วสนับสนุนให้ดำเนินการตามกระบวนการรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 7 ที่ระบุว่า ในเมื่อไม่มีบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งในอดีตที่ผ่านมานั้นได้เคยมีรัฐบาลพระราชทานเข้ามาบริหารประเทศในภาวะวิกฤติและนำประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดีมาแล้ว

ด้าน ผศ.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของกลุ่มคณาจารย์นิด้า พยายามมองไปข้างหน้าก็ได้ข้อสรุปว่า ปัญหาหลักๆ ของนายกฯ ก็คือการแก้ไขปัญหาให้ตัวเอง

คำถามก็คือ ทำไม นายกฯ ถึงไม่ลาออก ตัวผมเองมองว่าการที่ท่านไม่ยอมลาออก เพราะ 1.กลัวพรรคแตก 2.กลัวการตรวจสอบ ผมว่าถ้าดีจริงต้องกล้าให้ตรวจสอบ และกล้าก้าวขาลาออกก่อน แล้วถ้าผ่านการตรวจสอบแล้ว ก็จะกลับมาอย่างสง่างามได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าทักษิณไม่ยอมลาออกทางกลุ่มจะเคลื่อนไหวอย่างไร กลุ่มคณาจารย์ตอบว่า ปัจจุบันนี้ ทักษิณ ชินวัตร ล้มละลายทางการเมืองแล้ว และยังเอาเปรียบคนอื่น โดยไม่ละอาย เช่น พรรคฝ่ายค้านเดิม ไม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่หน่วยงานอิสระ รัฐบาลรักษาการ ยังคงเดินหน้าที่จะให้มีการเลือกตั้งครั้งต่อไปให้เร็วที่สุดให้ได้ อีกทั้งยังอ้างการบริหารของสิงคโปร์ที่ไม่มีฝ่ายค้านก็สามารถทำงานได้

เรื่องนี้ท่านพูดจริงไม่หมด เพราะสิงคโปร์ได้คะแนนเป็นอันดับ 5 ในเรื่องความโปร่งใส แต่ของเราการดำเนินงานของรัฐบาลเป็นกระจกฝ้า แล้วตอนนี้นอกจากนายกฯ จะไม่ลาออกแล้ว ยังมีความพยายามที่จะทำให้ตัวเองถูกต้องให้ได้ ดังนั้น หากนายกฯ ไม่ลาออกพวกเราจะพยายามรวบรวมพันธมิตรให้มากขึ้นแบบไม่สิ้นสุดเพื่อขยายเครือข่าย ทั้งประชาชน นักวิชาการที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับเราให้ออกมาแสดงพลังที่ไปในทิศทางเดียวกัน

ส่วน ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ กล่าวว่า เท่าที่เห็นกลุ่มคนที่มาให้กำลังใจนายกฯ กับกลุ่มคนนับแสนที่มาร่วมการชุมนุมขับไล่ ทักษิณ ชินวัตร นั้น ไม่เหมือนกัน

เท่าที่เห็นคนที่มาให้กำลังใจนายกฯ จะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการเอื้ออาทรต่างๆ เป็นกลุ่มระดับรากหญ้า ในขณะที่กลุ่มที่ร่วมการชุมนุมไล่ทักษิณจะเป็นกลุ่มนิสิต นักศึกษา ประชาชน นักธุรกิจ ที่ไม่มีส่วนได้เสียกับโครงการใดๆ ของรัฐบาล และการยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องของจริยธรรมและการเมืองได้ รวมทั้งผู้นำประเทศต้องเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับพยายามสร้างกลุ่มขึ้นมาต่อต้าน ทำให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยกในสังคมมากขึ้น ตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ปัญหาความแตกแยกก็จะมีเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ศ.ดร.สมบัติ ยังกล่าวถึงสื่อทีวี สื่อวิทยุ ที่เลือกเสนอข่าวแบบกลัวภาครัฐ ว่า ทำไมสื่อทีวีถึงกลัวนายกฯ ขนาดนี้ ตอนนี้รู้สึกว่าไม่มีคุณภาพทั้งทีวี-วิทยุ ทั้ง 2 อย่างเสนอข่าวเรื่องความพยายามถอดถอน ข่าวการชุมนุมไล่ทักษิณเสมือนว่าเรื่องนี้ไม่เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นต่อประเทศชาติ ผมรู้สึกว่าบทบาทของทีวี-วิทยุ นำเสนอแบบปิดหูปิดตาประชาชน ต่างจาก หนังสือพิมพ์ที่กล้านำเสนอกันมากขึ้นแล้ว

สุดท้าย ศ.ดร.สมบัติ ให้ทัศนะว่า การชุมนุมไล่ทักษิณจะไม่หยุดการเคลื่อนไหวแน่ๆ
แสงสว่างในกลุ่มคนหนี่งจะมากขึ้นเรื่อยๆ แล ในที่สุดจะทำให้นายกฯ รู้ว่า อธรรมไม่สามารถครอบครองประเทศได้....

ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกด้วยว่า ที่สถาบันนิด้าในช่วงเย็นวันนี้ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนบึงกุ่ม บางกะปิ หัวหมาก เพื่อประชาธิปไตย จัดกิจกรรม เสรีภาพทางความคิดครั้งที่ 2 ยุบสภาฯ ไม่ใช่ทางออกของประชาชน

ภายในงานมีงานเสวนา ทำไมต้องไล่ทักษิณฯ ทำไมต้องไปสนามหลวง นำโดยนักพูด อภิชาติ ดำดี ตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้นำนักศึกษา สนนท. ผู้นำนักศึกษา ม.รามคำแหง ผู้นำกลุ่มนักเรียนเพื่อประชาธิปไตย (ม็อบขาสั้น) ส.ว.การุณ ใสงาม วสันต์ สิทธิเขตต์ และศิลปินเพื่อชีวิต

เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. ณ ลานหน้าอาคารอเนกประสงค์ นิด้า