นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การรวมตัวในวันนี้ (19 ก.ย.) ที่ท้องสนามหลวง จะประกาศจุดยืนต่อสู้ตามครรลองระบอบประชาธิปไตย
ไม่ยอมรับการแก้ไขปัญหาการเมืองด้วยรัฐประหาร ยืนยันการชุมนุมจะมีขึ้นเพียงวันเดียว โดยไม่เคลื่อนย้ายกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจจัดกำลังรักษาความปลอดภัย เกรงผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวน และในเดือนหน้าจะจัดชุมนุมเคลื่อนไหวในต่างจังหวัด จัดตั้งอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตย เป็นคนรุ่นใหม่ เพื่อร่วมอุดมการณ์
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "พรุ่งนี้ประเทศไทย"
เนื่องในโอกาสครบรอบ 55 ปี สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหามาก หลายคนท้อแท้ แต่ส่วนตัวอยากให้มองว่า ประเทศไทยกำลังมีการเปลี่ยนแปลง เพราะความขัดแย้งมักจะก่อให้เกิดสิ่งใหม่ แม้อาจมีจุดเสียที่ต้องแก้ไขบ้าง การปกครองที่ไม่เป็นธรรม คือ ความขัดแย้งในสังคม ดังนั้น ตราบใดที่ไม่แก้ปัญหาพื้นฐานความไม่เป็นธรรมในสังคม วันข้างหน้าจะเกิดความขัดแย้งอีก
"สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่าไปตกใจ เพราะสมัยก่อนรุนแรงกว่านี้ยังแก้ไขได้ 76 ปีที่มีประชาธิปไตยก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นตลอด มีรัฐประหารเกิดขึ้น 27 ครั้ง การไม่เป็นประชาธิปไตยจนถึงวันนี้ เพราะต่างฝ่ายต่างก็อ้างความเป็นธรรม อย่าง นปก.ก็บอกว่า พันธมิตรฯ เป็นเผด็จการ มายึดทำเนียบรัฐบาล ส่วนพันธมิตรฯ ก็ชี้ว่า นปก.มาจากการเลือกตั้งที่ไม่ถูกต้อง ซื้อเสียงเข้ามา และแย่งกันเป็นรัฐมนตรี" อดีต นายกรัฐมนตรี กล่าว
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาชุมนุม ต้องเข้าใจว่าเขารู้สึกทนไม่ได้ที่การเมืองมาจากการซื้อเสียง
จึงได้เสนอแนวทางประชาธิปไตยที่มาจากตัวแทนที่มีความสมบูรณ์ ไม่ใช่ตัวแทนที่มีเงินก็มาได้ ดังนั้น การเสนอเรื่องประชาภิวัฒน์ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะต้องการให้อำนาจประชาชนสูงขึ้น ถือว่าตรงกับความต้องการของหลายคน เพียงแต่ต้องแสวงหาจุดร่วมกันให้ได้ วันนี้ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย น่าจะถอยไปก่อน หรือถ้าอยู่ก็อย่าทำเสียหาย ทางที่ดีควรกลับบ้าน ป่านนี้ลูกเมียคิดถึงแล้ว
พล.อ.ชวลิต กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวอยากเสนอว่า การเลือกตั้งน่าจะเป็นสูตร 50-50
เลือกตั้งทั่วไปร้อยละ 50 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 ให้เลือกมาจากกลุ่มคน เช่น กลุ่มอาชีพชาวนา นักธุรกิจ อย่างไรก็ตาม หากจะทำจริงๆ นักวิชาการ คนที่เกี่ยวข้องต้องมานั่งคุยกัน หรืออาจตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมา ใช้เวลา 5-6 เดือน แล้วเลือกตั้งใหม่ก็จะได้รัฐบาลที่ดี โดยเรื่องนี้ควรมีการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อแสวงหาจุดร่วมกันก่อน แล้วค่อยมาหาจุดต่าง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
