ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถวายคำนับพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้ว
จึงอัญเชิญพระบรมราชโองการฯไปวางที่โต๊ะหมู่บูชา ถวายคำนับ กลับไปยืนประจำที่ จากนั้นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ถวายคำนับ แล้วเดินออกไปยืนตรงกลางหน้าโต๊ะหมู่บูชา ถวายคำนับพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดกรวยกระทงดอกไม้แล้วกราบ จากนั้นลุกขึ้นยืนถวายคำนับ จึงเป็นเสร็จพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จพิธีรับพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว นายชัย ชิดชอบ ได้เข้าไปแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีประมาณ 10 นาที
โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งกับนายกรัฐมนตรีว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีรับสั่งให้นายกรัฐมนตรีตั้งคณะรัฐมนตรีเร็วๆ และให้นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันที่ 22 ก.ย.นี้ จากนั้นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงเปิดใจว่า “วันนี้ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ผมนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินสนองพระเดชพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ล้นพ้นหาที่สุดไม่ได้ในครั้งนี้ เป็นสิริมงคลแก่กระผมและครอบครัวอย่างสูงสุด กระผมจะขอเทิดทูนไว้เหนือชีวิตด้วยความจงรักภักดีตลอดไปพี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพทุกท่าน กระผมขอยืนยัน ณ โอกาสนี้ว่าจะบริหารราชการแผ่นดิน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยการทุ่มเทเสียสละด้วยวิริยะอุตสาหะ ด้วยความมีคุณธรรม ยึดมั่นในหลักกฎหมาย ยึดมั่นในหลักแห่งกระบวนการยุติธรรมเพื่อความเป็นธรรมเรียบร้อยในบ้านเมืองของเรา
“พี่น้องประชาชนที่เคารพ ขณะนี้ในประเทศบ้านเมืองของเรานั้นก็มีปัญหาที่จะต้องดำเนินการแก้ไข เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าบางครั้งเรามีความขัดแย้งทางความคิด ความขัดแย้งเหล่านั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่เราจะต้องมองว่าเกิดขึ้นแล้วทำอย่างไร จึงจะนำพาไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์และความเป็น ปึกแผ่นของบ้านเมืองเราต่อไป ผมคิดว่าสิ่งนี้คงต้องคิดกันอย่างรอบคอบและมีเหตุผล ผมประสงค์ที่จะให้พี่น้องประชาชนชาวไทยของเรา ได้กลับมาร่วมกันคิด คิดว่าความเป็นพี่เป็นน้องของเรานั้นจะต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง ความเป็นชาติ ความเป็นปึกแผ่นแน่นหนา ความเจริญก้าวหน้าของพี่น้องประชาชนร่วมกันนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เราน่าจะหันหน้าเข้ามาสู่ความปรองดองความอะลุ่มอล่วยให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่ถือโทษโกรธกันและจะต้องมีความเมตตาอารี เอื้ออาทรแก่กัน ผมคิดว่าสิ่งนี้ย่อมมีอยู่ในหัวใจของเราทุกคนว่าถ้าหากว่าเราได้ดำเนินการมีวิธีคิดที่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม พ่อแม่พี่น้องเคารพทุกท่านครับ ผมคิดว่าหากเราได้ยึดหลักอย่างนี้แล้ว ประเทศชาติของเราจะกลับคืนมาสู่ความร่มเย็นเป็นสุขภายใต้พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา จะทำให้เราร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้พัฒนาถาวรต่อไป”
นายสมชายกล่าวต่อว่า ขณะนี้เรามีปัญหาอื่นๆที่จะต้องร่วมกันแก้ไขกันอีกมากมาย ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องของประชาชน
ซึ่งรัฐบาลของตนที่จะได้เกิดขึ้นโดยสมบูรณ์ในเร็ววันนี้จะคำนึงถึงประโยชน์สุข ความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน เป้าหมายสูงสุดก็คือการร่วมกันนำพาประชาชนของเรา ประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและวัฒนาถาวร เรามีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าหลายด้าน อย่างปัจจุบันนี้เรื่องเกี่ยวกับเงินทุนที่ค่อนข้างจะไหลเข้ามาน้อยในประเทศของเราหรือปัญหาที่บริษัทต่างชาติ ซึ่งมีเงินทุนจำนวนมากเกิดประสบความล้มเหลวในการบริหาร กระทบกระเทือนถึงภาวะเศรษฐกิจในบ้านเรา หลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ผสมผสานกัน ตนคิดว่าถ้าหากไม่ช่วยกันแก้ไขแล้วใครจะมาช่วยเราแก้ไข คนไทยเท่านั้นที่จะต้องหันหน้าเข้าหากันและร่วมมือกันแก้ไขสิ่งซึ่งมีปัญหาเกิดขึ้นในบ้านเรา
“ผมขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่านช่วยกันครับ ทุกท่านเป็นหุ้นส่วนของประเทศของเรา รัฐบาลนั้นเป็นผู้มีหน้าที่ให้เกิดพลัง และผลักดันให้ประเทศชาติของเราได้เดินหน้าต่อไป แต่หากมีมุ่งมั่นอย่างไรก็ตาม ประชาชนในชาติไม่รักสามัคคีกัน ไม่ร่วมกันผลักดันแล้วก็คงสำเร็จลงไปได้ยาก ผมหวังว่าพี่น้องประชาชนทั้งหลายคงได้ร่วมกัน ณ โอกาสนี้ ขอขอบคุณประชาชนชาวไทยทุกท่านที่จะได้มีโอกาสเข้ามาร่วมกันนะครับ เข้ามาร่วมกันในการที่จะสรรค์สร้างความรักความสามัคคี ในการที่จะร่วมกันเสริมสร้างภาวะเศรษฐกิจที่ดีให้แก่บ้านเมืองของเรา ขอขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนเพื่อนข้าราชการที่จะได้นำเอานโยบายทั้งหลายความประสงค์ ของพี่น้องประชาชนทั้งหลายไปปฏิบัติการให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นถ้าทุกฝ่ายทุกท่านได้ร่วมมือกันแล้ว ผมมั่นใจว่าความประสงค์ของเราทุกคนจะประสบความสำเร็จพร้อมกันนำพาประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในที่สุด ขอกราบขอบคุณทุกท่านครับ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 กล่าว