สมชาย วงศ์สวัสดิ์นายกฯคนที่ 26

แล้วประเทศไทยก็ได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ชื่อ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์"

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกนายกฯ เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ไม่มีเกมป่วนจาก 5 พรรคร่วมและในพรรคพลังประชาชน เหมือนตอนเสนอชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช

ส่งผลให้นายสมชายชนะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คู่แข่งจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปอย่างขาดลอย 298 ต่อ 163 เสียง

เหตุที่นายสมชายได้รับเสียงสนับสนุนตรงตามเป้า ไม่ตกหล่น

นอกจากการโหวตที่ใช้วิธีขานชื่อ ล็อกคอพรรคร่วม และ 73 ส.ส. กลุ่มเพื่อนเนวินที่เคยฮึ่มๆ ก่อนหน้า ไม่ให้แหกโผแล้ว

เป็นเพราะบุคลิกส่วนตัวของ นายสมชาย ที่สุภาพนุ่มนวล อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นที่ยอม รับของนักการเมืองด้วยกัน

หลังเสร็จสิ้นการโหวตในสภา สิ่งแรกที่นายสม ชายทำคือเดินไปหานายอภิสิทธิ์ จับไม้จับมือเชื้อเชิญให้ทำงานร่วมกัน

ตามด้วยการยกมือไหว้ขอบคุณแกนนำพรรคร่วมจนครบ

ก่อนเดินฝ่าสายฝนไปรับดอกไม้จากม็อบที่บุกมาให้กำลังใจหน้าสภา แล้วรีบเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยที่อยุธยา

พร้อมปล่อยมุขอ้อนคนไทยทุกภาค ทั้งแหลงใต้ เว้าอีสาน อู้คำเมือง

งานนี้นอกจากได้ภาพแล้ว ยังได้ใจหลายคนไปเต็มๆ

ขนาด นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ยังออกปากชมแกมเอ็นดู เพราะติดใจในบทบาทกาวใจ เมื่อครั้งตามมาง้อให้เข้าร่วมรัฐบาลสมัคร 1

แม้แต่ปัญหาภายในพรรคพลังประชาชน ทุกครั้งที่กลุ่มก๊วนทะเลาะกัน นายสมชายในฐานะรองหัวหน้าพรรคจะเป็นผู้เจรจาหย่าศึก

ความเป็นผู้มีความประนีประนอมสูง เป็นจุดเด่นของนายสมชายอีกเช่นกัน

กรณีอาศัยอำนาจหน้าที่ในฐานะรักษาการนายกฯ ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

เป็นการผ่อนคลายสถานการณ์ที่เขม็งเกลียว ได้รับเสียงปรบมือจากทุกภาคส่วนในสังคม

กล่าวกันว่าการเป็นอดีตผู้พิพากษามาก่อน ทำให้เป็นคนที่มีความสามารถในการติดต่อประสานกับทุกฝ่าย

ถือเป็นคุณสมบัติที่ครบเครื่อง น่าจะรับมือกับเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานนี้ได้

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือท่าทีที่เป็นมิตรกับสื่อ แตกต่างจากนายกฯคนก่อนอย่างสิ้นเชิง

นายสมชายประกาศจุดยืนว่า นักการเมืองกับสื่อต้องทำงานคู่กัน

รวมถึงการไม่วางท่าท้าทายกลุ่มพันธมิตร หรือพูดจาแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

แม้จะระบุว่าพร้อมเจรจากับแกนนำม็อบ แต่ไม่ได้มีท่าทีเหยาะแหยะ

"ทำเนียบรัฐบาลเป็นของหลวง มาจากภาษีของประชาชนจึงไม่อยากให้ใครนำไปใช้ในทางเสียหาย"

"คนที่อยู่ในทำเนียบควรจะคืน แล้วไปชุมนุมในสถานที่ที่ถูกต้อง"

"เป็นห่วงว่าอาจมีผู้คนเจ็บป่วย จึงอยากให้ดูแลสุขภาพกันด้วย"

เป็นคำให้สัมภาษณ์ที่แสดงถึงบุคลิกและวุฒิภาวะทางอารมณ์ชัดเจน

ทั้งยังยืนยันด้วยว่าจะไม่แบ่งฝ่ายภาคนิยม แต่จะแก้ปัญหาให้เท่าเทียมกันทุกภาค โดยไม่เลือกปฏิบัติว่าต้องเป็นฐานเสียงพรรคพลังประชาชน

ปฏิวัติแนวคิดและธรรมเนียมปฏิบัติของรัฐบาลตั้งแต่สมัยไทยรักไทย

อย่าลืมว่านายสมชาย ก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขเป็นคนใต้

แม้เป็นผู้นำที่มีจุดแข็งหลายด้าน แต่ก็มีจุดอ่อนที่สำคัญยิ่ง

นั่นคือความเป็น "น้องเขย"ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

ตรงนี้เป็นเป้าใหญ่ให้ฝั่งตรงข้ามโจมตี ว่าใกล้ชิดยิ่งกว่าความเป็นนอมินี!!



นายสมชาย เกิดวันที่ 31 ส.ค. 2490 เป็นชาวนครศรีธรรมราช ปัจจุบันอายุ 61 ปี


จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เนติบัณฑิตไทย (นบท.) สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, ปริญญาบัตรหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 38, รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต หลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์

สมรสกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ มีบุตร 3 คน คือ นายยศธนัน น.ส.ชินณิชา และน.ส.ชยาภา วงศ์สวัสดิ์

ประวัติการทำงาน เริ่มจากผู้ช่วยผู้พิพากษา กระทรวงยุติธรรมเมื่อปี 2517 ถัดมาปี 2518 เป็นผู้พิพากษาประจำกระทรวง จากนั้นเติบโตในสายผู้พิพากษามาโดยตลอด จนปี 2540 เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 2 ปี 2541 เป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม

ขึ้นปลัดกระทรวงยุติธรรมในปี 2542 สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ มีนายสุทัศน์ เงินหมื่น รมว.ยุติธรรมขณะนั้นเป็นคนเสนอแต่งตั้ง

อยู่ในตำแหน่งปลัดยุติธรรมอย่างยาวนาน โดยได้ต่ออายุในยุครัฐบาลไทยรักไทย

ก่อนโยกเป็นปลัดกระทรวงแรงงานในปี 2549 แล้วลาออกหลังเกิดเหตุรัฐประหารกันยา 2549

เข้าสู่วงการการเมืองเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ครั้งแรกแบบสัดส่วนในการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค. 2550 จากนั้นเป็นรองนายกฯ ควบรมว.ศึกษาธิการในรัฐบาลสมัคร

ก่อนจะทำหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2551 ภายหลังนายสมัครพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีขาดคุณสมบัติจากการจัดรายการชิมไปบ่นไป และรายการยกโขยง 6 โมงเช้า

ล่าสุดได้รับเลือกจากสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็นนายกฯ เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2551

สำหรับบรรยากาศบ้านเกิดของนายสมชาย หมู่ 15 ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช

ทันทีที่ทราบข่าวนายสมชายเป็นนายกฯ บรรดาญาติพี่น้องต่างออกมาแสดงความดีใจกันทั่วหน้า

นางคนึง สิทธิสมบูรณ์ ญาตินายสมชาย เล่าว่า สามีเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายสมชาย เติบโตมาด้วยกัน เรียนด้วยกันที่โรงเรียนวัดสวนขัน ตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 1-4

ครอบครัวประกอบอาชีพทำสวนยาง ค่อนข้างมีฐานะ มีลูก 5 คน นายสมชายเป็นคนที่ 3 เรียนเก่งได้ทุนเรียนดีมาตลอด พอรับราชการได้ตำแหน่งสูงขึ้นก็กลับมารับพ่อแม่ขึ้นไปอยู่ที่กรุงเทพฯ

แต่จะกลับมาเยี่ยมทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ถือตัวยังเป็นกันเองกับญาติพี่น้องทุกคน

"เป็นคนดี ไม่เคยคดโกงใคร โดยเฉพาะตำแหน่งอดีตผู้พิพากษาต้องเป็นคนที่ยุติธรรมถึงจะเป็นได้ คุณสมชายเป็นนายกฯ คนที่ 26 ถือเป็นความภูมิใจของญาติพี่น้อง รวมทั้งชาวนครศรีธรรมราชทุกคน"

อาจารย์ศรีจันทร์ พุ่มพวง อายุ 91 ปี อดีตครูใหญ่ของโรงเรียนวัดสวนขัน ครูสอนหนังสือนายสมชายตั้งแต่ชั้น ป.1-4 บอกว่ายินดีที่ลูกศิษย์ได้เป็นนายกฯ

นายสมชายเป็นคนดีไม่ลืมตัว ถือความยุติธรรมเป็นหลัก เหมาะสมจะนำพาประเทศชาติพ้นวิกฤต

นายสกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง ระบุว่า ทางอำเภอเชิญหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ธนาคาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ นายกอบต.ในอ.ฉวาง กว่า 100 คน หารือกันเพื่อมอบตำแหน่ง "ยอดคนเมืองฉวาง" ให้กับนายสมชาย ในฐานะนายกฯ คนแรกของจ.นครศรีธรรมราช

เป็นความภูมิใจอันสูงสุดของชาวอำเภอฉวาง ชื่นชมยินดีในความสามารถของนักสู้ชนบท จากลูกชาวบ้านธรรมดาๆ ที่มีความมุมานะอดทน สามารถไต่เต้าจนเป็นถึงผู้นำประเทศ

ชาวอำเภอฉวางจึงพร้อมใจกันขึ้นป้ายแสดงความยินดีตามจุดสำคัญทั่วทั้งอำเภอฉวาง พร้อมถวายดอกไม้ธูปเทียนและจุดประทัดขอพร "พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์" สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอ

ให้ปกป้องคุ้มครองนายสมชายบริหารประเทศชาติให้สำเร็จ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์