ชวน เชื่อสุดท้ายก็ตกลงกันได้

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าววานนี้ (16 ก.ย.) ถึงคำขู่ยุบสภาหากพรรคพลังประชาชนยังคงมีความขัดแย้งภายในว่า คงไม่มีการยุบสภาตามคำขู่ดังกล่าว

เพราะความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชาชน น่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ และการจัดสรรโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีของแต่ละกลุ่มมากกว่า ส่วนข้อขัดแย้งเรื่องการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายฯนั้น ไม่น่าจะมีปัญหา เสียงส่วนใหญ่น่าจะเลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่ปัญหาใหม่คือหลังจากที่นายสมชายเป็นนายกฯแล้ว จะมีการเจรจากันว่ากลุ่มใดจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงอะไร คงจะได้ข้อยุติเป็นหลักๆกว้างๆภายในค่ำวันที่ 16 ก.ย.แล้ว ในวันที่ 17 ก.ย.ก็จะมีการประชุมสภาฯ เพื่อลงมติเลือกนายกฯได้ เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังยืนยันว่าจะสนับสนุนพรรคพลังประชาชนต่อไป โดยไม่มีเงื่อนไขว่าใครจะมาเป็นนายกฯ เพราะไม่มีใครอยากมาเป็นฝ่ายค้าน เมื่อการแบ่งผลประโยชน์ลงตัวปัญหาก็จบ ดังนั้น กระแสข่าวเปลี่ยนขั้วมาจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นไปไม่ได้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคพลังประชาชนมีมติจะเสนอชื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ คิดว่าการต่อรองภายในพรรคน่าจะจบแล้ว

ทุกฝ่ายคงได้ตามข้อตกลงที่ต้องการ กลุ่มที่มีปัญหาก็ได้รัฐมนตรีว่าการไป 4 ตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยอีก 4 ตำแหน่ง สำหรับ 70 กว่าคนถือว่าใช้ได้ เมื่อถามว่าหากนายสมชายเป็นนายกฯ ปัญหาต่างๆจะคลี่คลายลงหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า หากไม่ไปทำอะไรที่เป็นการท้าทายความรู้สึกประชาชน ก็น่าจะคลี่คลายลง แต่หากยังคิดแก้รัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายนิรโทษกรรม จะเพิ่มปัญหามากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่กลุ่มพันธมิตรฯ และประชาชนทั่วไปจะไม่สบายใจ เพราะภาพของนายสมชายเป็นน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อเขาต่อต้านระบอบทักษิณ ก็ต้องระแวงกลัวว่าระบอบทักษิณจะกลับมาอีก เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงนายสมชายที่เป็นคนใต้ด้วยกัน นายสุเทพตอบว่า อย่าไปย้ำเรื่องคนใต้ ไม่เกี่ยวกัน ขอให้นายสมชายระวังตัวให้ดี เพราะเราจะทำหน้าที่ตรวจสอบให้เข้มข้นขึ้นอย่างเต็มที่  

นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความขัดแย้งในพรรคพลังประชาชนเกิดจากการต่อรอง หรือเกมการเมืองเพื่อช่วงชิงการนำภายในพรรคมากกว่า

ไม่อยากจะให้ความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชาชน เป็นเรื่องของการเล่นละครตบตาประชาชน เพราะในที่สุดต้องกลับมาจูบปากกันอีกเหมือนที่ผ่านมา หากนายสมชายได้เป็นนายกฯจริง เชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะกระแสสังคมไม่ยอมรับ และกลุ่มพันธมิตรฯได้ประกาศจะต่อต้าน เพราะเป็นการสืบทอดอำนาจยิ่งกว่านายสมัครเสียอีก 

นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี ในฐานะ ประธานคณะทำงานตรวจสอบทุจริตของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายสมชาย ถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ

และจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการสอบสวนแล้ว ก่อนปี 2547 นางเยาวภาเป็นนางพยาบาล ทำการค้าเล็กๆน้อยๆ แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณขึ้นเป็นนายกฯ ปรากฏว่าบุตรของนางเยาวภาและนายสมชาย ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและยังศึกษาอยู่ กลับใช้เงินและสินเชื่อกว่าพันล้านบาท เทกโอเวอร์หลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ จึงอยากถามว่า ทั้งหมดได้เงินมาจากไหน หากนายสมชายได้เป็นนายกฯ จะตอบคำถามเหล่านี้อย่างไร