กรุงเทพธุรกิจ
ส.ว.เรืองไกร ขู่ยื่นเรื่องให้ศาลรธน.วินิจฉัย ถ้าวุฒิโหวตเห็นชอบงบปี 52 ระบุ กมธ.วิสามัญ สภาฯ ปรับเพิ่มไม่ได้ ขัด รธน. "รสนา"ต้านงบส.ส.คนละ25ล้าน "เสธ.อู้-ตวง"เสนอส่งศาลรธน.เฉพาะส่วนที่เป็นปัญหา
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนา ส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า สมัยคำวินิจฉัยปี 2543 ยังไม่ได้มีการวินิจฉัยเรื่องการแยกอำนาจ 3 ฝ่าย แต่คำวินิจฉัยหลังสุดตามรัฐธรรมนูญ 2550 มีการพูดถึงการแยกอำนาจ 3 ฝ่าย โดยเปิดให้สมาชิกเป็นกรรมการฝ่ายนิติบัญญัติได้ เช่น สถาบันพระปกเกล้า และกรรมการข้าราชการรัฐสภา แต่เป็นกรรมการในฝ่ายบริหารไม่ได้
ในคราวนั้น ตนจึงยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพของวิปรัฐบาล เปรียบเทียบกรณีนี้ก็เป็นหลักการเดียวกัน เพราะไม่เช่นนั้นกรรมาธิการก็ไม่มีความหมาย โดยหากกรรมาธิการปรับลดแล้ว ส่วนราชการจะขอ ครม.อีกก็ไม่สมควร เพราะอาจเป็นการเปิดช่องให้กรรมาธิการไปยุ่งเกี่ยวในฝ่ายบริหาร ซึ่งจะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ฉะนั้น ตนจะรอให้วุฒิสภาโหวตเสร็จก่อน จึงจะยื่นเรื่องได้ตามที่มาตรา 154 (1) บัญญัติ ซึ่งมีสมาชิกเตรียมเข้าชื่อ 1 ใน 10 อยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี อาจไม่ต้องยื่น หากวุฒิสภาโหวตให้ร่างพ.ร.บ.ไม่ผ่าน เพราะร่างพ.ร.บ.นี้มีปัญหามาก ทั้งเรื่อง การที่คณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนฯพิจารณาเกินเวลาโดยไม่มีการขออนุญาตที่ประชุมสภา และการที่วุฒิสภา ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาก่อนที่สภาผู้แทนฯจะรับหลักการร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้
อนึ่งสำหรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 32 / 2543 ระบุว่า กรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณ และส.ส. ไม่สามารถเสนอหรือยกคำขอเพิ่มเติมงบประมาณของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจที่ครม.ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบขึ้นพิจารณาได้
"คำนูณ" ไม่เห็นชอบร่างพรบ.งบฯ ไม่สมเหตุผล
การพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น. มีนาย นิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ วุฒิสภาต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบภายใน 20 วัน นับแต่วันที่ 8 ก.ย. 2551 ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 168 วรรคสาม บัญญัติ โดยร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา โดยเห็นชอบงบประมาณที่ตั้งไว้ 1 ,835,000,000,000 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่น ไม่เกิน 1 ,807,459,822,500 บาทและเพื่อชดใช้เงินคงคลังเป็นจำนวน 27,540,177,500 บาท ทั้งนี้มีการปรับลดลงจำนวน 45 ,009,585,700 บาท และปรับเพิ่มจำนวน 15 ,009,585,700 บาท แบ่งเป็น การปรับเพิ่มประมาณ 2.9 หมื่นล้านสำหรับโครงการของหน่วยราชการที่เพิ่มขึ้น และปรับเพิ่มประมาณ 1.6 หมื่นล้าน สำหรับเงินอุดหนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้นายนิคมแจ้งว่า ส.ว.มีเวลาอภิปราย 740 นาที แบ่งเป็นคนละ 10 นาที ไม่รวมรัฐมนตรีตอบ โดยวันนี้มีเวลาอภิปรายนาน 8 ชั่วโมง
จากนั้นจึงเริ่มการอภิปรายโดยนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การจัดงบประมาณแผ่นดินในครั้งนี้ไม่ยึดการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ส่อว่าจะใช้จ่ายไม่สมเหตุผล และมีกระบวนการตราที่น่าสงสัยว่าอาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 154 ทั้งนี้ขณะนี้ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รายได้จากภาคท่องเที่ยวและภาคบริการหดหายแสนล้านบาทจากการประกาศภาวะฉุกเฉินทำให้การประมาณการรายรับน่าจะผิดเพี้ยน เศรษฐกิจมีแนวโน้มไม่เติบโตอย่างที่คาดการณ์ ขณะเดียวกันรัฐบาลกลับมุ่งทำโครงการขนาดใหญ่อย่างการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 6 , 000 คัน ซึ่งสตง.ทักท้วงว่า เงินลงทุนสูงและระยะยาวควรพิจารณาใหม่ หรือโครงการการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่ไม่มีการทำการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)และด้านสังคม(เอสไอเอ)อาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 67 หรืองบผู้ว่าราชการจังหวัด แม้จะดูดีในแง่การกระจาย แต่หากดูงบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4 แสนล้านบาท เป็นเงินที่ท้องถิ่นจัดเก็บได้ แต่ กทม.และพัทยา ได้เงินลดลง ทั้งนี้รัฐบาลคิดจะทำโครงการใหญ่ๆ ขณะที่สภาวะประเทศไม่ร่ำรวยและต้องกู้เป็นแสนล้านบาท ฉะนั้นควรทำเท่าที่จำเป็น ซึ่งตนจึงไม่อาจให้ความเห็นชอบ
นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจโลกตกต่ำ บริษัทใหญ่ในโลกล้ม น้ำมันราคาสูง ก่อให้เกิดภาวะกดดันเศรษฐกิจไทย ภาวะเงินเฟ้อน่าเป็นห่วง ฉะนั้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องอาศัยภาครัฐ จึงเห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ที่ต้องเพิ่มการลงทุนโดยภาครัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นบรรยากาศในการประชุมตึงเครียดขึ้นมา เมื่อนาย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา อภิปรายทักท้วงว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคห้า บัญญัติว่า คณะกรรมาธิการไม่สามารถแปรญัตติเพิ่มเติมรายการหรือจำนวนในรายการไม่ได้ แต่ตามเอกสารพบว่า ในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร มีการเพิ่มรายการเข้ามาจำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท ฉะนั้นถือว่า กระบวนการพิจารณาไม่ถูกต้อง วุฒิสภาจึงควรพิจารณาประเด็นนี้ก่อนว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 วรรคสามหรือไม่ แต่นาย นิคม ชี้แจงว่า มาตรา 168 วรรคห้า ส.ส.จะแปรญัตติเพิ่มเติมรายการมิได้ แต่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯของสภาผู้แทนราษฎร สามารถทำได้ ซึ่งถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่ทำกันมานานแล้ว ทำให้นายเรืองไกร กล่าวว่า รองประธานวุฒิสภา กำลังวินิจฉัยแทนศาลรัฐธรรมนูญ และหากพิจารณาต่อไปอาจมีปัญหา เพราะไม่มีกฎหมายใดมาหักล้างรัฐธรรมนูญได้ ทั้งนี้ที่ทำกันคือ ทำการกันไปเองโดยอ้างเป็นประเพณี
นายนิคม ชี้แจงอีกครั้งว่า ตนไม่ได้วินิจฉัยแทน แต่เมื่อดูตามรัฐธรรมนูญและขั้นตอนการพิจารณาแล้วเห็นว่า ในส่วนที่สมาชิกเห็นว่า ไม่ชอบ ก็ให้ดำเนินการไปทางศาลรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้ขอดำเนินการประชุมต่อ
พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวาณิช ส.ว.สรรหา กล่าวว่า มาตรา 168 วรรคเจ็ด ระบุว่า กรณีที่ส.ส. หรือส.ว. 1 ใน 10 ของสภาตนเอง เห็นว่า มีการกระทำที่ฝ่าฝืน ก็เสนอศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาในส่วนนั้นสิ้นผลไปได้ ฉะนั้นวุฒิสภาสามารถพิจารณาร่างกฎหมายนี้ต่อไปได้ แต่ในส่วนดังกล่าว ก็ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ส.ส.เพิ่มงบไปลงพื้นที่ของตน ก็วินิจฉัยให้ส่วนที่ปรับเพิ่มตกไปได้ แต่ส่วนอื่นวุฒิสภายังสามารถพิจารณาและทูลเกล้าฯได้
ด้านนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพ.ร.บ.งบฯ วุฒิสภา ชี้แจงว่า การพิจารณาวันนี้ต้องเดินต่อ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องพิจารณาให้เสร็จใน 20 วัน ไม่เช่นนั้นจะถูกสังคมตั้งคำถามในการทำหน้าที่ ทั้งนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไม่ได้เห็นแตกต่างจากที่สมาชิกมองข้อกฎหมาย ซึ่งถ้าสมาชิกเห็นว่าเป็นปัญหาก็ให้ดำเนินการไปทางศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนนายวิทยา อินนาลา ส.ว.นครพนม กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 168 วรรคห้า ให้ส.ส.ปรับลดไม่ได้ให้ปรับเพิ่ม แต่ในส่วนกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนฯ ครม.ให้เอกสิทธิ์กรรมาธิการปรับรายการเพิ่มได้แต่ต้องไม่มากกว่ารายการที่ปรับลด
ขณะที่นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 3 ประการคือ มีรัฐมนตรีที่มาร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาด้วยคือ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบดูแลกรณีหวยบนดิน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พักงาน และกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าแถลงการณ์ร่วมของรัฐบาลไทยขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคสอง และกรณีนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะคดีชิมไปบ่นไป ถือว่ากระบวนการตรากฎหมายงบประมาณขัดรัฐธรรมนูญ หากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบแล้วศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ ส.ว.ที่ลงมติเห็นชอบต้องรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายนิคม ชี้แจงว่า ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2543 พร้อมทั้งส่งเอกสารดังกล่าวให้นายเรืองไกร ซึ่งหลังจากอ่านอยู่ประมาณ 20 นาที ก็ได้อภิปรายว่า เท่าที่ดูคำวินิจฉัยและเอกสารพิจารณางบประมาณ ตนยังเห็นว่า ขั้นตอนที่ ครม.จัดทำงบประมาณ อาจจะขัดรัฐธรรมนูญเพราะขั้นการปรับลดแล้วปรับเพิ่มรายการกลับมา ไม่มีการผ่านครม. ซึ่งตนเตรียมเอกสารที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้แล้ว กับอีกทางหนึ่งคือดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคสอง ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้นายกฯระงับการดำเนินการประกาศใช้ร่างกฎหมายดังกล่าวไว้ก่อน จากนั้นที่ประชุมจึงมีการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯต่อไป
น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. อภิปราย ว่า ขอตั้งข้อสังเกตที่คณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนฯ ปรับลดงบลง 4.5 หมื่นล้านบาทลงไปแล้ว แต่กลับมีการปรับเพิ่ มเข้ามาในจำนวนที่เท่ากัน โดยที่ปรับเพิ่มในส่วน กรมทางหลวงชนบท จำนวน 6 , 700 ล้านบาท ตนได้สอบถามไปยังสำนักงบประมาณถึงการเพิ่มงบในส่วนนี้ และได้รับคำชี้แจงว่า งบที่ได้รับการจัดสรรเพิ่มจำนวนดังกล่าว กรมทางหลวงต้องคัดเลือกหนังสือที่ขอโครงการโดยมีขั้นตอนตามที่ระเบียบราชการระบุไว้ ไม่ใช่จะอนุมัติง่ายๆ นอกจากนี้ในส่วนเงินอุดหนุนท้องถิ่น จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท มีข่าวลือออกมาว่า มีการเตรียมการจัดสรรแบ่งปันกันในหมู่ ส.ส.ทั้ง 480 คน คนละ 25 ล้านบาท คณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร และรัฐบาลต้องชี้แจง
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday