กลุ่มเพื่อนเนวินไร้ปัญหาโหวตหนุนสมชายวันนี้

"กลุ่มเพื่อนเนวิน" ยอมสยบหลังต่อรองเก้าอี้ รมต.สำเร็จ ยันโหวตหนุน "สมชาย" เป็นนายกฯ เปิดโผ ครม.ใหม่ สะพัด "ประวิตร" คุมกลาโหม หรือให้ "สมชาย" นั่งควบ ขณะที่เก้าอี้ มท.1 อาจเปลี่ยนเป็น "จำลอง เอี่ยมแจ้งพันธุ์" เล็งดึงคนนอกร่วมทีม ศก.ขณะที่ "สมชาย" ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ ยันจะอยู่จนครบเทอม ปชป.งัดคดี "เจ๊แดง" โดน ป.ป.ช.สอบรวยผิดปกติ-ไซฟ่อนเงิน ขวาง "สมชาย" นั่งนายกฯ

ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนมีมติเสนอชื่อนายสมชายวงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถูกกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่มี ส.ส.ในมือ 72 คน ออกมาคัดค้านเรียกร้องให้พรรคทบทวนมติ พร้อมทั้งขู่ว่าหากไม่ทบทวนจะใช้เอกสิทธิ ส.ส.ในการไม่เข้าร่วมประชุม หรืองดออกเสียงโหวต ที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 17 กันยายน ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นการต่อรองโควตารัฐมนตรี แต่กลุ่มเพื่อนเนวินออกมาปฏิเสธนั้น ล่าสุดเมื่อบ่ายวันที่16 กันยายน ปัญหาทุกอย่างยุติลงแล้ว หลังจากแกนนำของพรรคและแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่นำโดยนายเนวิน ชิดชอบ มาหารือร่วมกันที่พรรคพลังประชาชน ก่อนจะออกมาประกาศว่า ส.ส.ทั้ง 72 คนของกลุ่มเพื่อนเนวิน มีมติสนับสนุนนายสมชายขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี และในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค มีการประชุมในช่วงค่ำที่โรงแรมเจ ดับบลิว แมริออท ก่อนจะออกมาแถลงร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานเบื้องหลังที่กลุ่มเพื่อนเนวินกับนายสมชายสามารถเคลียร์กันได้จนสุดท้ายส.ส. 72 คน กลับลำหันมาสนับสนุนนายสมชาย โดยนายสมชายเดินทางกลับมาจากการประชุม ครม.ที่กองบัญชาการกองทัพไทย และตรงมาที่พรรคพลังประชาชน โดยมีนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของนายสมชาย และน้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มารออยู่แล้ว หลังจากนั้นทั้งสองคนเข้าไปร่วมหารือกับนายเนวิน โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ตามเข้าไปด้วย ที่ห้องประชุมอาคาร 3 ชั้น 8 ที่เป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของนายเนวิน 

เผย"ผบ.ทบ." ต่อสายเคลียร์ปัญหา

รายงานข่าวแจ้งว่าผลการหารือของทั้ง 4 คน นายสมชายบอกกับนายเนวินว่า ช่วงเช้าวันที่ 16 กันยายน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. โทรศัพท์กลับมาหาตน หลังจากเมื่อคืนวันที่ 15 กันยายน ตนได้โทรศัพท์ไปหา พล.อ.อนุพงษ์ แต่ พล.อ.อนุพงษ์ไม่ได้รับสาย โดยนายสมชายกล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ได้กล่าวว่าการเลือกนายกฯ นั้น กองทัพจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ขอยืนยันว่าจะไม่มีการไปล็อบบี้ให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลสั่งให้ ส.ส. ไม่ให้เข้าร่วมโหวตนายกฯ ทหารจะไม่ปฏิวัติ ขอให้สบายใจได้ พร้อมทั้งขอให้นายสมชายหาวิธีแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เพราะเกรงว่ากลุ่มพันธมิตรจะชุมนุมต่อต้านแรงขึ้น 

รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อนายเนวินทราบผลการหารือดังกล่าว นายเนวินจึงบอกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีปัญหา จะไม่มีเหตุการณ์เหมือนวันที่ 12 กันยายน ที่เกิดเหตุการณ์สภาล่มอีก หลังจากนั้นนายสมชายโทรศัพท์ต่อสายถึงหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเดิม โดยโทรไปยังแกนนำพรรคทีละพรรค พร้อมกดปุ่มเสียงโทรศัพท์ (สปีกเกอร์ โฟน) และแจ้งว่าในส่วนของพรรคพลังประชาชนทุกอย่างได้ข้อยุติ ไม่มีปัญหา ส.ส.จะเข้าร่วมประชุมโหวตที่สภาโดยพร้อมกัน ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนต่างรับปากผ่านเสียงโทรศัพท์ซึ่งเปิดลำโพง ต่อมานายเนวินได้แจ้งต่อ ส.ส. กลุ่มว่าเรื่องทุกอย่างเคลียร์หมดแล้ว และจะให้ ส.ส. 73 คนมาแถลงข่าว 

แฉ"เนวิน"ต่อรองขอโควตากลางเพิ่ม

นอกจากนี้นายเนวินยังบอกกับแกนนำกลุ่มบางคนว่า เบื้องต้นคุยกับนายสมชายแล้วเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีว่า จะมีโควตากลาง4 ตำแหน่ง แต่ละกลุ่มจะไปนับเม็ดจำนวน ส.ส.ในกลุ่ม โดยจะใช้สัดส่วน 12 ส.ส. ต่อ 1 โควตารัฐมนตรี 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโควตากลาง 4 ตำแหน่งที่กลุ่มเพื่อนเนวินอ้างถึงนั้น เดิมเป็นโควตาของกลุ่มแก๊งออฟโฟร์ ได้แก่ รองนายกรัฐมนตรี (นายสหัส บัณฑิตกุล) รมว.กลาโหม (นายสมัคร สุนทรเวช) รมว.การต่างประเทศ และ รมว.การคลัง ขณะเดียวกันนายเนวินยืนยันที่จะคงโควตา 4 รัฐมนตรีช่วยว่าการในกลุ่มไว้ รวมถึง รมว.การคลัง รมว.คมนาคม รมว.มหาดไทย โดยให้คงบุคคลเดิมดำรงตำแหน่งต่อไป

ขณะที่4 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ที่เป็นโควตาเดิมของกลุ่มเพื่อนเนวินที่ต้องการให้คงไว้ ได้แก่ 1.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม 2.นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ 3.นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ และ 4.นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย ขณะที่ตำแหน่ง รมว.การคลัง ทางนายเนวินยืนยันให้คงไว้ให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แกนนำแก๊งออฟโฟร์ ส่วนตำแหน่ง รมว.คมนาคม เป็นของนายสันติ พร้อมพัฒน์ เช่นเดิม และคงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ 

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า นายเนวินพูดกับนายสมชายช่วงหนึ่งว่า ที่ผ่านมากลุ่มเพื่อนเนวินถูกสร้างภาพว่าเนรคุณต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และพยายามต่อรองตำแหน่ง ซึ่งทำให้นายสมชายรับปากว่า หลังจากทุกอย่างจบแล้ว จะเคลียร์ทุกอย่างในพรรค จะไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้อีกเพื่อให้กลับมาเป็นพี่น้องเหมือนเดิม 

หลังจากแกนนำพรรคทั้ง4 คน ได้หารือกันเสร็จสิ้น นายสมชายและนายเนวินได้มาชี้แจงต่อ ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวินเมื่อเวลา 11.00 น. โดย ส.ส.ภาคเหนือที่เข้าร่วมเป็นเพื่อนชี้แจงกับนายสมชาย คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ส.ส.เชียงใหม่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ ช่วงหนึ่ง โดยนายเนวินกล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาทุกอย่างได้ข้อยุติแล้วหลังจากมีการหารือกัน และสมาชิกพรรคสนับสนุนนายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรี

หึ่ง"ประวิตร"นั่งกห.หรือให้ "สมชาย" ควบแหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชนเปิดเผยว่าการฟอร์มคณะรัฐมนตรีใหม่ของรัฐบาลนายสมชายนั้น จะมีการปรับเปลี่ยนเก้าอี้ในกระทรวงสำคัญหลายกระทรวง ทั้งในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจและความมั่นคง

กระทรวงด้านความมั่นคงในตำแหน่ง รมว.กลาโหม ที่ถือเป็นโควตากลางที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ นั่งควบนั้น มีแนวโน้มว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. พี่ชาย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.จะเข้ามารับตำแหน่งแทน

"พล.อ.ประวิตร คือนายเก่าของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เชื่อว่ากองทัพไม่น่าจะมีปัญหา และที่ผ่านมาแกนนำพรรคได้หยั่งเสียงกับ พล.อ.อนุพงษ์แล้ว ก็มั่นใจว่า พล.อ.ประวิตร เหมาะที่จะเป็นคนกลางประสานระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ว่านายสมชายจะนั่งควบเหมือนนายสมัคร" แหล่งข่าวระบุ

ในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจแกนนำคนเดียวกันบอกว่า จะมีการยกเครื่องใหม่โดยดึงคนนอกเข้ามาร่วมงาน โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ที่มีการเสนอชื่อนายวีรพงษ์ รามางกูร แต่กลุ่มนายเนวินยังยืนกรานว่า ต้องการให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นั่งควบรองนายกฯ อยู่

ด้านตำแหน่งรัฐมนตรีในโควตาของ5 พรรคร่วมรัฐบาลนั้น แหล่งข่าวบอกว่า นายสมชาย โทรศัพท์เคลียร์กับแกนนำทั้ง 5 พรรคแล้วว่า โควตาเดิมของ 5 พรรคร่วม พรรคพลังประชาชน จะไม่ไปแตะ จะมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของโควตาพรรคพลังประชาชนเท่านั้น

เพื่อนเนวินออกแถลงการณ์ยอมรับมติภายหลังการประชุมส.ส.ของพรรคเสร็จสิ้น นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองโฆษกพรรคพลังประชาชน นำ ส.ส.พรรคพลังประชาชนกลุ่มเพื่อนเนวินจำนวนหนึ่งแถลงข่าวที่ห้องสื่อมวลชนระบุว่า กลุ่มยอมรับที่จะทำตามมติพรรคในการจะเสนอชื่อนายสมชายเป็นนายกฯ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และได้อ่านแถลงการณ์ของกลุ่มฉบับที่ 2 เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่ม

แถลงการณ์ฉบับที่2 ระบุว่า 1.มิได้มีเจตนาเพื่อต่อรองตำแหน่งทางการเมืองและกรณีนี้ผู้บริหารจะได้สั่งห้ามมิให้ใครให้ข่าวในลักษณะนี้อีก และ 2.ได้เรียกร้องต่อผู้บริหารถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วางมือทางการเมือง เพื่อป้องกันความเสียหายต่อพ.ต.ท.ทักษิณและพรรคพลังประชาชนเสียหาย จึงขอให้ผู้บริหารพรรคดูแลไม่ให้เกิดการอ้างชื่อพ.ต.ท.ทักษิณในทางที่จะเป็นผลเสียต่อพรรคพลังประชาชนอีก 

3.ขอให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแถลงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงแนวทางที่จะลดการเผชิญหน้าในสังคม สร้างความสมานฉันท์ รักษาการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และมาตรการบังคับใช้ทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด 4. ส.ส.ทั้ง 73 คนห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมืองหากพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลเห็นไปในทิศทางเดียวกันก็ขอให้ทุกคนรับผิดชอบเดียวกัน และพึงบันทึกไว้ด้วยว่า ส.ส. 73 คนได้แสดงความห่วงใย

แฉ"แม้ว"ดูดกลับกลุ่มเพื่อนเนวิน

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชนว่าความเคลื่อนไหวในการเจรจาปัญหาความขัดแย้งภายหลังกลุ่มเพื่อนเนวินจำนวน 72 คน ลงชื่อขอให้ทบทวนกรรมการบริหาร ทบทวนมติที่เสนอชื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่าตลอดคืนวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวในส่วนของ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินตลอดเวลา เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าแกนนำพรรคจะใช้วิธียุบสภาเป็นทางออก รวมทั้งไม่ส่ง ส.ส.ที่ไม่สนับสนุนนายสมชายลงเลือกตั้ง มีรายงานข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โทรศัพท์มายังแกนนำสายตรงชินวัตร ว่าหากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ภายในพรรคได้ ก็ให้ใช้วิธีการยุบสภา 

ขณะเดียวกันแกนนำที่ทำหน้าที่ประสานอาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ตลอดจนอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและกลุ่มบ้านเลขที่ 111 ได้ประสานดึง ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินกลับมาลงชื่อ ทำให้เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 กันยายน จำนวนของ ส.ส.กลุ่มเพื่อเนวินบางส่วนเปลี่ยนใจกลับมาลงชื่อสนับสนุนนายสมชาย มีประมาณ 35 คนแล้ว "กานต์" ชี้ดูด 60 ส.ส.เพื่อนเนวินได้แล้ว 

พ.ต.ท.กานต์เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และแกนนำกลุ่มภาคเหนือ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นต้องยุบสภา เพราะล่าสุดแกนนำพรรคสามารถตกลงกับบรรดา ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่รวมตัวกันคัดค้านการที่พรรคจะเสนอชื่อนายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ไปได้แล้วกว่า 60 คน ส่วนที่เหลืออีก 10 กว่าคนนั้น คาดว่าช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ (16 ก.ย.) จะสามารถพูดคุยทำความเข้าใจได้ทั้งหมดแน่นอน ซึ่งทำให้ในวันที่ 17 กันยายนนี้ พรรคจะมีความเป็นเอกภาพในการสนับสนุนนายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างแน่นอน

6 พรรคร่วมแถลงจับมือตั้งรัฐบาล

เมื่อเวลา19.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เชิญตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลมารับประทานอาหารค่ำและร่วมกันแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลซึ่งจะมีการลงมติเลือกนายกฯ คนใหม่ในวันที่ 17 กันยายนนี้โดยนายสมชายมาถึงโรงแรมประมาณ 17.50 น. 

จากนั้นนายสมชายพร้อมด้วยนายสมพงษ์อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค นพ.สุรพงษ์สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค เข้าห้องรับรองเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล โดยตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลที่มารวมงานคือ นางอุไรวรรณ เทียนทอง ตัวแทนพรรคประชาราช พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และ ร.ต.ประภาสลิมปะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรครวมใจไทยฯ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรีพรรคชาติไทย นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย และนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ทั้งนี้จะมีการแถลงข่าวในเวลา 20.30 น.

สมชายยันพร้อมเป็นผู้นำที่กล้าคิด

นายสมชายวงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีการเตรียมตัวเป็นนายกฯ คงต้องทำงานอย่างไม่ท้อถอย และต้องทำเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมและเพื่อบ้านเมืองให้มากที่สุด เท่าที่ความสามารถจะพึงมีได้ 

นายสมชายกล่าวว่าถ้าสมมติได้เป็นนายกฯ คงไม่ได้ทำงานคนเดียว คงต้องมีคณะทำงาน ซึ่งมีมากมายอย่างที่เห็น ทุกคนเหล่านั้นก็ต้องร่วมกัน สุดท้ายแล้วพี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งชาติ ต้องคำนึงถึงว่า จะช่วยกันพัฒนาทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้สูงขึ้นอย่างไร ทุกคนจะต้องเป็นหุ้นส่วนของประเทศไทย ช่วยกันดำเนินการ 

"แต่ถ้าผมขึ้นมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องเป็นผู้ซึ่งเป็นผู้นำ ที่กล้าคิด กล้าผลักดันสิ่งเหล่านี้ อันนี้คือความรู้สึกของผม เบื้องต้นผมยังงงๆ อยู่" นายสมชายกล่าว

เมื่อถามว่าภาวะวิกฤติอย่างนี้จะสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศได้อย่างไร นายสมชายกล่าวว่า วันนี้เราก็รู้ว่าบ้านเมืองของเรามีปัญหา มีความคิดที่แตกแยก และมีความเห็นแตกต่าง และมีการต่อสู้กันทางความคิด เราก็รู้ว่าตรงนี้คือปัญหาที่มีอยู่ และในแง่ความคิดที่เกิดขึ้นทำอย่างไรให้ปรองดอง และสมัครสมานสามัคคี หรือว่ามีแนวความคิดที่คนไทยเรามุ่งไปในทางเดียวกันให้ได้ ซึ่งจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ขึ้นอยู่กับตัวแปรหลายอย่าง ซึ่งตรงนั้นแป็นรายละเอียดที่ต้องช่วยกันคิดต่อไป 

จี้พันธมิตรคืนทำเนียบรัฐบาล

เมื่อถามว่ามีเป้าหมายจะเอาทำเนียบรัฐบาลกลับคืนจากการยึดครองของพันธมิตรแล้วหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า อย่าคิดว่ามีจุดมุ่งหมายเอาทำเนียบคืน เพราะทำเนียบเป็นของหลวง ตอนนี้ทำเนียบก็ยังเป็นของราชการอยู่ มาจากภาษีของประชาชนทุกคน ไม่อยากให้ใครเข้าไปใช้ทำเนียบในทางที่ไม่ถูก และเสียหาย คนที่อยู่ควรจะคืน การชุมนุมคงไม่เป็นไร ถ้าไปอยู่ในที่ถูกทิศถูกทาง ตนให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า เป็นห่วงคนทุกคนที่อยู่ในนั้น ผิดถูกก็ไม่ว่ากันในฐานะคนไทย อาจเจ็บไข้ได้ป่วยก็เป็นห่วง ก็ขอให้ดูแลสุขภาพ ขอให้ทำในสิ่งที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อคนอื่นด้วย 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงว่าจะถูกโจมตีในภาพที่มีความสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า เรารู้จักกับใครเป็นญาติใคร เราใกล้ชิดกันเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่มันอยู่ที่เราจะวางตัวอย่างไร วางตัวให้คนว่า ขึ้นมาเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวกให้ญาติเราหรือเปล่า อันนี้เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง เพราะฉะนั้นคิดว่า ควรที่จะให้จับตามองมากกว่า ตนอยู่ในที่อย่างนี้คงหลบการตรวจสอบ การเฝ้ามองไม่ได้ คิดว่าถ้าเรามีใจทำงานร่วมกันในการทำงานเสียสละให้บ้านเมือง 

6 พรรคแถลงหนุนสมชาย-ตั้งรัฐบาล

เมื่อเวลา20.25 น.ที่โรงแรมเจ ดับบลิว แมริออท แกนนำ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ นายสมชาย  นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และนางอุไรวรรณ เทียนทอง ตัวแทนพรรคประชาราช ได้ร่วมกันแถลงข่าวสนับสนุนนายสมชายและพร้อมร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล

นายสมชายกล่าวว่า5 พรรคร่วมรัฐบาลได้ตอบรับและยืนยันเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน ตนหวังว่าในอนาคตจะได้รับความสำเร็จด้วยดี อะไรที่บกพร่องจะได้รับการแก้ไข และนโยบายต่างๆ จะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น รู้สึกโชคดีมากที่ 5 พรรคร่วม ล้วนแล้วแต่มีหัวหน้าพรรคและ ส.ส.ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูง จึงหวังว่าจะได้รับคำแนะนำจากพรรคร่วมรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน และมั่นใจว่าจะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ให้ครบเทอม คือ 4 ปีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนตำแหน่งใน ครม.จะหารือหลังจากที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว สำหรับการเข้าทำงานในทำเนียบนั้น หากทำเนียบว่างเมื่อไรก็พร้อมเข้าทำงานเมื่อนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อเป็นนายกฯ แล้วจะกล้าหาญพอที่จะตัดสินใจให้มีการยกเลิกพาสปอร์ตการทูตของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่ปกป้องใคร แต่รัฐบาลมีนโยบายปกป้องประชาชน อย่างไรก็ตามเรื่องการถอนพาสปอร์ตนั้น มีกระบวนการยุติธรรมดำเนินการ และกระบวนการยุติธรรมก็ทำหน้าที่อยู่แล้ว และรัฐบาลก็สนับสนุนกระบวนการยุติธรรมเสมอ

นายบรรหารกล่าวว่าเมื่อพรรคพลังประชาชนมีมติเสนอชื่อนายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อนำรายชื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาในวันพุธที่ 17 กันยายน พรรคชาติไทยก็ไม่ขัดข้องในตัวนายสมชายและเชื่อว่า การโหวตวันพุธนี้ สภาไม่น่าจะล่ม 

"จงรัก"ส่งกำลังดูแลบ้านพักว่าที่นายกฯ

พล.ต.อ.จงรักจุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทนผบช.น.กล่าวถึงสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไปชุมนุมตามสถานที่ต่างๆว่า ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ต.วรสิทธิ์นพสิทธิพร ผบก.น.2 จัดกำลังเจ้าหน้าที่สน.ทุ่งสองห้องดูแลบริเวณบ้านพักของนายสมชายหมู่บ้านเบเวอร์ลี ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ และจัดกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเพิ่มความเข้มและความถี่ในการตรวจ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนดำเนินการตรวจสอบสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหว ที่อาจมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของบริเวณบ้านพักของนายสมชาย อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ยังสั่งการให้กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษจัดรถจักรยานยนต์สายตรวจปฏิบัติหน้าที่บริเวณบ้านพักของนายสมชาย และสั่งให้ ศส.บช.น.ติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวที่อาจจะมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่

ชลิต ยันกองทัพไม่หนุนใครเป็นนายกฯ

ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน6 เมื่อเวลา 09.30 น.พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึง 3 ส.ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่ากองทัพไม่สนับสนุนบุคคลใดเป็นพิเศษเป็นเรื่องทางการเมืองที่พรรคการเมืองต้องหารือกัน การเมืองเป็นเรื่องของการประสานผลประโยชน์ร่วมกันในการทำสิ่งต่างๆ ให้แก่ชาติ ส่วนทั้ง 3 ส.จะเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าหลังมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะทำอะไรให้แก่ประเทศชาติจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ความวุ่นวายและความขัดแย้งได้หรือไม่ คิดว่าทุกคนคงคิดเหมือนกัน เพียงแต่จะเป็นที่ศรัทธาหรือไม่

เมื่อถามถึงนายสมชายซึ่งมีภาพของการเป็นน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่าเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ควรรอดูผลก่อนว่าหากได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว มีความตั้งใจทำงานให้แก่ประเทศ ลดความขัดแย้งสร้างความเชื่อถือให้แก่ประเทศชาติได้หรือไม่ หากเริ่มต้นจากการไม่เอากันตั้งแต่ช่วงแรก บางครั้งก็ทำอะไรต่อไม่ออก 

ปชป.งัดคดี"เจ๊แดง"ค้านสมชายขึ้นนายกฯ

นายอลงกรณ์พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่น พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน จะเสนอชื่อนายสมชาย เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ขอเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลให้ทบทวนการสนับสนุนนายสมชาย เป็นนายกฯ เนื่องจากจะเป็นระเบิดเวลาที่จะส่งผลกระทบต่อการเมืองไทย และเสถียรภาพของประเทศไทย 2 ประการ คือ 1.นายสมชาย ไม่ได้เป็นเพียงนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นผู้แทนถาวรเนื่องจากแต่งงานกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ 

2.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติและจงใจยืนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ของครอบครัวของนายสมชาย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาและบุตร 3 คน ซึ่งในทางแพ่งถือว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน เพราะตลอดชีวิตนายสมชาย รับราชการมาโดยตลอด ขณะที่ภรรยา เป็นพยาบาล แต่เมื่อปี 2543-2544 ได้ค้าขายเล็กๆ น้อยๆ กระทั่งปี 2547 บุตร 3 คน ทั้งที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะและไม่บรรลุนิติภาวะ กับใช้เงินกว่าพันล้านบาท ในการเข้าเทกโอเวอร์ 4 บริษัท 

  นายอลงกรณ์กล่าวอีกว่าจะเห็นได้ว่านายสมชาย เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอดีตนายกฯ ประกอบกับในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีอำนาจ ชื่อของ เจ๊แดง ก็ปรากฏขึ้นในวงการรับเหมาก่อสร้างในสนามบินสุวรรณภูมินับแสนล้านบาททั้งยังมีข้อหาน่าเชื่อได้ว่ามีการประมูลโดยไม่มีการแข่งขัน ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการไซฟ่อนเงินจากบริษัทหนึ่งไปยังอีกบริษัทหนึ่งกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทสิงคโปร์ถือหุ้นโดยคนไทย โดยมีการจดทะเบียนที่เกาะบริติชเวอร์จิ้น จากนั้นจึงกลับเข้าเทกโอเวอร์บริษัทเอกชนรายหนึ่งแล้วมารับงานประมูลต่อโดยทำสัญญากับบริษัทการท่าอากาศยานไทย 

จึงอยากให้พรรคร่วมรัฐบาลคำนึงถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นผู้นำรัฐบาลว่าต้องมีความโปร่งใสไม่มัวหมอง และสร้างสมานฉันท์ได้ ไม่ใช่เป็นชนวนปัญหาหรือเป็นระเบิดเวลาที่จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ นายอลงกรณ์กล่าว

ครม.อนุมัติงบซ่อมดอนเมือง8 ล้าน

เมื่อเวลา11.40 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย นายจุลยุทธ หิรัญยวศิษฏ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ว่า ครม.มีมติอนุมัติงบกลางจำนวน 8 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมท่าอาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) เพื่อเป็นทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว เนื่องจากขาดอุปกรณ์ต่างๆ ในการทำงาน ส่วนจะย้ายข้าราชการเข้าไปยังสนามบินดอนเมืองได้เมื่อไรนั้นก็จะมีการหารือกันอีกครั้ง 

ส่วนการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลนั้นจะต้องใช้งบประมาณเท่าไรนั้นยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจได้ แต่คาดว่าบริเวณที่ต้องปรับปรุงคือตึกไทยคู่ฟ้า ตึกบัญชาการและตึกสันติไมตรี ส่วนบริเวณตึกสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นไม่น่าจะมีปัญหา เว้นแต่มีปัญหาเรื่องกลิ่น