ทั้งนี้ นายสุเทพ ได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า ไม่มีการต่อสายกับอดีตคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองหรือคนอื่นๆ เพียงแต่นำเสนอแนวความคิดให้พรรคการเมืองหันหน้ามาปรึกษาหารือกัน น่าจะตกลงกันได้ว่าจะเลือกหัวหน้าพรรคคนใดมาเป็นนายกรัฐมนตรี และตั้งรัฐบาลพิเศษขึ้นมาโดยไม่จำกัดเฉพาะนักการเมือง แต่เชิญคนนอกมาร่วมด้วย หลังจากมีรัฐบาลพิเศษไประยะหนึ่ง ก็เปิดให้มีการเลือกตั้งใหม่ พรรคใครพรรคมัน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ไปหารือกับ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีต คมช. นายสุเทพกล่าวว่า "กับ พล.อ.วินัยไม่ได้คุยกัน แต่กับลูกชาย (นายสกลธี ภัททิยกุล ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์) คุยกันประจำ เพราะอยู่พรรคเดียวกัน"
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์เสนอเงินให้ ส.ส.พปช.คนละ 30 ล้าน เพื่อให้ยกมือสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีว่า "ส.ส.30 คน ต้องใช้เงิน 900 ล้าน และพรรคจะไปเอาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน เพราะขณะนี้ยังต้องจัดงานระดมทุนเข้าพรรคเลย"
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปพรรคฝ่ายค้าน แถลงว่า วิปฝ่ายค้านเห็นว่าการกำหนดวันเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 12 กันยายนนี้เร็วเกินไป
เหมือนรัฐบาลต้องการรวบรัด ทั้งที่ประชาชนหวังจะเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นทางออกของประเทศให้เบาบางลงได้ ควรเลื่อนการประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีไปเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งไม่ใช่การประวิงเวลาเพื่อหวังให้มีการสลับขั้วให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรครัฐบาลต้องคำนึงถึงความเป็นจริงว่าการเมืองยังไม่นิ่ง แต่ถ้า พปช.ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถ้าหากรวมเสียงกับพรรคขนาดเล็กแล้ว จะมีเสียงมากกว่า พปช.ถึง 20 กว่าเสียง เกินครึ่งหนึ่งและเพียงพอต่อการผ่านกฎหมายได้ แต่หากเป็นสูตรพรรคประชาธิปัตย์ร่วมกันตั้งรัฐบาลกับ พปช.นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะแนวทางของทั้งสองพรรคไม่ตรงกัน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติ และพรรคการเมืองได้ใช้โอกาสที่นายสมัครพ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรีประชุมหารือกันอีกครั้ง
เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ หากทุกพรรคการเมืองร่วมมือกันก็จะสามารถแก้วิกฤตได้ ส่วนการตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อแก้ปัญหาก็มีความเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ทุกฝ่ายจะต้องเห็นตรงกัน เมื่อถามว่า สถานการณ์เช่นนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า "คุณอภิสิทธิ์เหมาะสมอยู่แล้ว ถ้ามองว่าเมื่อพรรครัฐบาลมีปัญหาไม่สามารถดำเนินการได้ ก็เป็นเรื่องของพรรคฝ่ายค้าน เมื่อคุณอภิสิทธิ์เป็นผู้นำฝ่ายค้านก็มีสิทธิที่จะเป็นหัวหน้าคณะจัดตั้งรัฐบาล พูดตามหลักการนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง หรือพูดให้ชัดคือต้องเป็นคุณอภิสิทธิ์"
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรอยากได้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี นายสุเทพกล่าวว่า นายชวนไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค และไม่คิดว่านายชวนจะรับหลักการนี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
