คำว่า "ลูกจ้าง" ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 จึงมีความหมายกว้างกว่าคำนิยามของกฎหมายหรือการแปลตามความหมายทั่วไป หรือตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ในความหมายของ "ลูกจ้าง" ว่า หมายถึงผู้รับจ้างทำการงาน ผู้ซึ่งตกลงทำงานให้นายจ้าง โดยได้รับค่าจ้างไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร โดยมิได้คำนึงถึงว่าจะมีการทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่
เวลา 15.30 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้งและคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และคณะรวม 29 คน
ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการสิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมตรี กรณีไปจัดรายการ "ชิมไปบ่นไป" และรายการ "ยกโขยง 6 โมงเช้า" โดยศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องและคำชี้แจงตามข้อกล่าวหาตามเอกสารประกอบพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องจากคำอุทธรณ์ทุกคนแล้วเห็นว่าคำร้องทั้ง 2 มีหลักฐานเพียงพอที่จะมีการวินิจฉัย จึงกำหนดประเด็นพิจารณาวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 (1) วรรคเจ็ด และมาตรา 267 เพราะเหตุผู้ถูกต้องดำรงตำแหน่งในบริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลประโยชน์หรือกำไรมาแบ่งปันกัน หรือเป็นลูกจ้างของบริษัทหรือไม่
โดยประการแรกต้องดูว่าผู้ถูกร้องเป็นลูกจ้างของบริษัท เฟซ มีเดีย หรือไม่
พิจารณาแล้วเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ซึ่งบัญญัติห้ามนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นลูกจ้างของบุคคลใด เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นไปโดยชอบ ป้องกันมิให้การกระทำขัดกันของผลประโยชน์อันจะก่อให้เกิดการขาดจริยธรรม ซึ่งยากต่อการตัดสินใจ ทำให้ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์สาธารณะ เมื่อผู้ดำรงตำแหน่งคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์สาธารณะ จะขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตัวกับการใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งจะขัดกันในลักษณะที่ประโยชน์ส่วนตัวจะได้มาจากการเสียไปซึ่งประโยชน์สาธารณะ อันทำให้เจตนาของรัฐธรรมนูญดังกล่าวบรรลุผล
การแปลคำว่า "ลูกจ้าง" ในรัฐธรรมนูญมาตรา 267 หมายถึง ลูกจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และกฎหมายภาษีอากรเท่านั้น
เพราะกฎหมายแต่ละฉบับย่อมมีเจตนารมณ์แตกต่างกันไปตามเหตุผลและการบัญญัติกฎหมายนั้นๆ อีกทั้งกฎหมายดังกล่าวก็มีศักดิ์ต่ำกว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ และยังมีเจตนารมณ์คุ้มครองการกระทำที่จะเป็นการกระทำขัดกันแห่งผลประโยชน์แตกต่างจากกฎหมายดังกล่าวอีกด้วย อนึ่งรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์การปกครองประเทศ มุ่งจัดตั้งรับรองสถานะสถาบันและสิทธิเสรีภาพของประชาชนกำหนดพื้นที่ฐานการดำเนินการของรัฐให้รัฐได้ใช้กับสภาวการณ์หรือเหตุการณ์ต่างๆ ได้ถูกต้องตามเจตนารมณ์
ดังนั้น คำว่า "ลูกจ้าง" ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 จึงมีความหมายกว้างกว่าคำนิยามของกฎหมาย หรือการแปลตามความหมายทั่วไป หรือตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542
ในความหมายของ "ลูกจ้าง" ว่า หมายถึงผู้รับจ้างทำการงาน ผู้ซึ่งตกลงทำงานให้นายจ้าง โดยได้รับค่าจ้าง ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร โดยมิได้คำนึงถึงว่าจะมีการทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ หรือได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนเป็นทรัพย์สินอย่างอื่นหากได้มีการตกลงรับจ้างกันทำการงานการแล้วย่อมมีความของคำว่า "ลูกจ้าง" ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ทั้งสิ้น มิฉะนั้นผู้เป็นลูกจ้าง รับค่าจ้างเป็นรายเดือน ในลักษณะสัญญาจ้างแรงงาน เมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ก็สามารถทำงานต่อไปได้ โดยเปลี่ยนค่าตอบแทนจากค่าจ้างรายเดือนมาเป็นลูกจ้างจากงานที่ทำ เช่น แพทย์ก็เปลี่ยนจากเงินเดือนมาเป็นค่ารักษาตามจำนวนคนไข้ ที่ปรึกษากฎหมายเปลี่ยนจากเงินเดือนมาเป็นค่าปรึกษา หรือค่าทำความเห็นเป็นรายครั้ง ซึ่งจะมีความผูกพันกันในเชิงผลประโยชน์กันอยู่ระหว่างเจ้าของกิจการกับผู้รับทำงานให้
หลังจากผู้ถูกร้องรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังคงเป็นพิธีกร ในรายการ "ชิมไปบ่นไป" และ "ยกโขยง 6 โมงเช้า" ให้แก้บริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด
เมื่อพิเคราะห์ถึงลักษณะกิจการงานบริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด ได้ทำร่วมกับผู้ถูกร้องมาโดยตลอดเป็นเวลาหลายปี โดยบริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด ทำเพื่อมุ่งค้าหากำไรมิใช่เพื่อกุศลสาธารณะ และผู้ถูกร้องก็ต้องได้รับค่าตอบแทนอย่างสมฐานะและภารกิจ เมื่อได้กระทำในระหว่างผู้ถูกร้องดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงเป็นการกระทำและมีสิทธิสัมพันธ์ที่อยู่ในขอบข่ายมาตรา 267 ประสงค์จะป้องปรามเพื่อมิให้เกิดผลประโยชน์ทำซ้อนกับธุรกิจกับภาคธุรกิจเอกชนแล้ว ทั้งยังปรากฏจากการให้สัมภาษณ์ของผู้ถูกร้องในหนังสือพิมพ์สกุลไทย ฉบับที่ 47 ประจำวันอังคารที่ 23 ตุลาคม 2544 หน้า 37 ที่ว่า การทำหน้าที่พิธีกรกิตติมศักดิ์รายการโทรทัศน์ "ชิมไปบ่นไป" ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 10.30-11.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ผลิตรายการโทรทัศน์โดยบริษัท เฟซ มีเดีย นั้น ผู้ถูกร้องได้รับเงินเดือนจากบริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด 8 หมื่นบาท