ชวนจวกทักษิณเข้าใจกติกาผิด การันตีอภิสิทธิ์ตัดสินใจชอบแล้ว

"ชวน หลีกภีย" ยืนยัน พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ละเมิดกติกา แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าใจกติกาผิดเอง และละเมิดมาตลอด กัญจนา กรี๊ด รับไม่ได้ ทักษิณ ด่า ฝ่ายค้าน เล่นนอกกติกา ว๊ากกลับ เป็นสิทธิของพรรคที่จะไม่ส่งสมัคร ส่งไปก็ตายฟรี

วันที่ 2 มี.ค.นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพรรคมีมติไม่ส่งผู้ลง

สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 2 เมษายนนี้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคตัดสินใจ อย่างรอบคอบแล้ว และเมื่อมีมติออกมาแล้ว ก็ไม่ควรกลับไปกลับมา

"ยืนยันว่าแนวทางนี้ไม่สวน-ทางกับระบอบประชาธิปไตย และไม่ละเมิดรัฐธรรมนูญ เพียงสูญเสียโอกาส อีกทั้งหัวหน้าพรรคอธิบายชัดเจนแต่ต้นแล้วว่า 5 ปี ที่ผ่านมากระบวนการต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ละเมิดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ จึงต้องเลือกที่จะไม่ส่งเสริมระบบทักษิณ" นายชวน กล่าวและว่า

นอกจากนี้ รัฐบาล"ทักษิณ" ยังแทรกแซงองค์กรอิสระ ไม่เว้นแม้แต่วุฒิสภา อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถพยากรณ์แนวโน้มการเมืองในอนาคตได้ แต่จากคำขวัญของพรรคไทยรักไทยที่ออกมา เชื่อว่าคงเปลี่ยนแนวทาง ให้ความสำคัญในกติกามากขึ้น และเชื่อว่า ถ้าเคารพกติกาแต่ต้นปัญหาต่าง ๆ คงไม่เกิดขึ้น


"กัญจนา"รับไม่ได้ด่าฝ่ายค้านเล่นนอกกติกา

นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทยออกมาระบุว่าการที่อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ลงสมัครถือเป็นการเล่นนอกกติกาว่า ตามรัฐธรรมนูญได้เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองมีสิทธิที่จะไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ ดังนั้น ถ้าจะมาพูดเรื่องการเล่นตามกติกา ถือว่าเรายังเล่นตามกติกา สำหรับการที่เราไม่ส่งนั้นในฐานะพรรคชาติไทย การที่เราตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราต้องมีเหตุผลจริงๆ ที่ทำให้เราตัดสินใจเช่นนี้

เหตุผลนั้นคือกติกาไม่ได้ผิด เพราะรัฐธรรมนูญที่เราร่างมาที่เคยคิดว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่คิดว่าเป็นร่างที่ดีแล้ว แต่เมื่อใช้มาได้ระยะหนึ่งปรากฏว่ามันมีข้อบกพร่องเกินกว่าที่ในตอนร่างนั้นคาดคิดเอาไว้ ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมมีความเห็นว่าตราบใดที่ยังไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกอบกับการเลือกตั้งยังเป็นไปในรูปแบบเดิมที่ยังเปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจเดิมใช้ทั้งอำนาจรัฐ และอะไรอีกหลายอย่างที่ทุกฝ่ายต่างรู้ดี จะทำให้การเลือกตั้งยังไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นคงจะไม่มีประโยชน์อะไรที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะลงสู่สนามเลือกตั้ง ภายใต้รูปแบบที่ยังเป็นอยู่เหมือนเดิมจึงเป็นเหตุผลของเราที่ไม่ควรลงเลือกตั้ง แต่ถ้ามีการแก้รัฐธรรมนูญแล้วค่อยมีการเลือกตั้ง ส่วนตัวเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองพร้อมลงแข่งในสนามเลือกตั้งแน่นอนนางสาวกัญจนา กล่าว

เมื่อถามว่า ทางพรรคไทยรักไทยเองก็จะชูนโยบายในเรื่องการปฎิรูปการเมืองในหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เดิมทางพรรคไทยรักไทยไม่เคยเน้นในเรื่องนี้เลย แต่เมื่อถูกกระแสกดดันมากทางพรคไทยรักไทยถึงจะชูประเด็นนี้ ตนเองคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำในเรื่องดีถ้าเป็นเจตนารมณ์ของพรรคไทยรักไทยจริง แต่การปฏิรูปการเมืองจะต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และคนที่จะมาเป็นกลุ่มคนที่ทำการร่างแก้ไขนั้นจะต้องเป็นบุคคลที่เป็นกลางอย่างแท้จริง

ตามแถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ออกเมื่อวันอาทิตย์ที่26ก.พ.ถ้าไปสังเกตุดีๆในข้อที่4ตรงสามบรรทัดสุดท้ายที่ระบุในเรื่องของคนกลางในไปหารือกันในสภานั้น อยากถามว่าแล้วสภาเป็นแบบไหนเพราะสภาที่มีพรรคไทยรักไทยเป็นเสียงส่วนมาก เราจะเชื่อมั่นได้อย่างไรถ้าให้คนกลางมาจากสภาจะเป็นคนที่เป็นกลางจริงๆ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าว

เมื่อถามต่อว่า ที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกมาเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านลงสนามเลือกตั้ง นางสาวกัญจนา กล่าวว่า เราก็จะต้องขอวิงวอนกลับไปทางนายกฯเช่นกันว่าสิ่งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านและประชาชนส่วนหนึ่งที่ได้เรียกร้องไปยังท่านนายกฯก็อยากให้ท่านพิจารณาเช่นกัน

นางสาวกัญจนา ยังกล่าวถึงกรณีการที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทยระบุว่าทั้ง 3 พรรคการเมืองได้รับเงินอุดหนุนจาก กกต.ควรจะส่งผู้สมัครนั้นว่า เงินอุดหนุนพรรคการเมืองที่ กกต.จัดสรรให้สามารถทำกิจกรรมได้หลายอย่าง ซึ่งพรรคชาติไทยก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่นการอบรม สัมมนาสมาชิกพรรค ให้ความรู้กับประชาชนไม่เฉพาะการเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งอีก ทั้งนี้ได้ศึกษาในข้อกฎหมายแล้วว่า ไม่มีปัญหา

ส่วนกรณีที่นายกฯระบุว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดโยนให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน หากประชาชนเลือกมาก็ถือว่าถูกต้อง นางสาวกัญจนา กล่าวว่า คนละประเด็นกัน เพราะประเด็นที่ถูกกล่าวหาต้องมีข้อมูลหลักฐานมาชี้แจง แต่ไม่ใช่ว่าประชาชนเลือกท่านกลับมาแล้วถือว่าท่านถูกต้องพ้นข้อกล่าวหา เพราะการเลือกตั้งไม่ได้พิสูจน์ข้อกล่าวและล้างมลทินได้หมด การเลือกตั้งไม่ใช่เป็นการฟอกตัว

สำหรับกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะจัดเวทีปราศรัยในวันที่ 3 มี.ค.นี้ ที่อาจจะเกิดความวุ่นวายได้ นางสาวกัญจนา กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพรรคไทยรักไทยและทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความสงบเรียบร้อยจะต้องรับผิดชอบ ที่จะต้องไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ทั้งนี้อยากฝากไปยังทางพรรคไทยรักไทยด้วยว่าการหาเสียงของพรรคจะต้องอยู่ในกรอบกติกาเช่นกัน

นอกจากนี้ นางสาวกัญจนา ยังได้กล่าวถึงการที่นายสุริยะ ร่วมพัฒนา อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคชาติไทย เสนอให้พรรคชาติไทยทบทวนมติพรรคที่บอยคอตการเลือกตั้งและตัวเองพร้อมที่จะลาออกจากพรรค ว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลของนายสุริยะที่จะลาออก เพราะความเป็นจริงแล้วนายสุริยะเอง เป็นคนของนายเนวิน ชิดชอบ รักษาการรมต.สำนักนายกรัฐมนตรีที่เคยนำมาฝากไว้ที่พรรคชาติไทย เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เพราะมีปัญหากับนายเสกสรรค์ แสนภูมิ อดีตส.ส.สุรินทร์ พรรคไทยรักไทย และนายเนวินต้องการที่จะต่อสู้กับนายเสกสรรค์ ที่มีปัญหาไม่สามารถลงทางพรรคไทยรักไทยได้ จึงมาฝากไว้ที่พรรคชาติไทย ดังนั้นนายสุริยะจึงเป็นคนของนายเนวิน และเราก็ยินดีที่นายสุริยะจะกลับคืนสู่ที่เดิม